หมวดหมู่: อาหารนานาชาติ

ต๊อกโบกี

มาทำ ต๊อกโบกี อาหารเกาหลีขึ้นชื่อ แป้งนุ่มซอสเข้มข้นกันมาทำ ต๊อกโบกี อาหารเกาหลีขึ้นชื่อ แป้งนุ่มซอสเข้มข้นกัน

ต๊อกโบกี

ใครชื่นชอบความเหนียวนุ่มละมุนของเมนูอย่าง ต๊อกโบกี จนสงสัยว่าถ้าทำเองแล้วมันจะยากไหม หรือจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้ความอร่อยสุดฟินตามแบบฉบับของอาหารเกาหลี วันนี้เราเตรียมทั้งเรื่องราว วัตถุดิบ พร้อมทั้งวิธีทำเมนูนี้มาฝากคุณกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกเลยว่าไม่ว่าใครก็สามารถทำเมนูนี้อร่อยได้ และถ้าทำเองยังสามารถเพิ่มเติมส่วนผสมที่ชอบเข้าไปได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มลุยเข้าครัวทำเมนูแป้งเกาหลีสุดนุ่มยอดฮิตเมนูนี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

จุดเด่นของเมนู ต๊อกโบกี อยู่ตรงไหน

ต๊อกโบกี

เรามาสร้างแรงบันดาลใจในการทำ ต๊อก โบกี กันก่อนที่จะเริ่มเข้าครัวจริง ๆ กันดีกว่าว่าต๊อกโบกี คืออะไร และเสน่ห์ที่ทำให้คนชื่นชอบต๊อกบกกีอยู่ตรงไหน โดยเมนูนี้คืออาหารเกาหลียอดฮิตที่เป็นเมนูทานเล่นหรือเป็นเหมือนกับอาหารว่าง แป้งต๊อกทำมาจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับแป้งข้าวเหนียว มีทั้งแบบสำเร็จรูปขายหรือถ้าใครอยากทำเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่จากการพิสูจน์มาแล้วแบบสำเร็จรูปก็ได้รสชาติที่ดีไม่ต่างจากทำเอง แต่ช่วยลดเวลาในการทำไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ต๊อกโบกี

จุดเด่นของต๊อกโบกี คือความเหนียมนุ่มของตัวแป้ง บางยี่ห้อจะเพิ่มชีสเข้ามาในไส้ทำให้รสชาติยิ่งละมุนมากขึ้นไปอีก และนอกจากความนุ่มของแป้งแล้วรสชาติที่เข้มข้นของซอสที่มีโคชูจังเป็นส่วนผสมก็ยังเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเมนูนี้อีกด้วย แต่แป้งต๊อกโบกียังสามารถปรับไปทอดหรือทำสูตรอื่น ๆ เพื่อสร้างเมนูใหม่ได้อีกมากมายด้วย

วัตถุดิบที่ต้องใช้ในการทำต๊อกโบกี

ใครดูซีรีย์เกาหลีบ่อย ๆ แน่นอนว่าเมนูอย่างต๊อกโบกี จะต้องเข้ามาอยู่ในสักฉากอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่ารอช้ารีบมาเตรียมวัตถุดิบให้เหมือนในอาหารเกาหลีในซีรีส์เพื่อที่จะได้ทำไว้ทานตอนดูซีรีย์ หรือเอาไว้ทานให้หายอยากหลังจากโดน SOFT POWER ของเกาหลีมาแบบเต็ม ๆ เมนูนี้ต้องเตรียมอะไรบ้างมาดูกันเลย

ต๊อกโบกี
  • แป้งต๊อกโบกี 3 ถ้วย
  • ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ทอด ตามชอบ
  • หอมแดงขนาดกลาง 1 ลูก
  • ซอสโคชูจัง 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่นเกาหลี 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  • น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  • งาคั่ว
  • ต้นหอมซอย ตามชอบ

หมายเหตุ : เมนูนี้ยังสามารถเพิ่มไข่ต้ม หมูสับ ชีส หรือสิ่งที่คุณชอบลงไปได้ตามใจชอบ เพราะสามารถคลุกเคล้าได้และออกมาอร่อยได้เช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูฟิวชั่นที่ไม่ควรพลาด

วิธีทำต๊อกโบกี ง่ายๆ ให้เหมือนอยู่เกาหลี

บรรยากาศของเกาหลีกับร้านค้าสไตล์ STREET FOOD ที่มักมีเมนูต๊อกโบกีอยู่นั้นน่าจะทำให้คุณอยากทานเมนูนี้กันอย่างแน่นอน เรามาแกะสูตรแล้วทำให้เหมือนที่ร้านอาหารรวมทั้งในซีรีย์กันดีกว่า บอกเลยว่าเมนูนี้เป็นหนึ่งในอาหารเกาหลีง่ายๆ ที่ทั้งอร่อยและทำทานได้เยอะ ๆ แบบจุใจ ต้องทำอย่างไรบ้างเรามาดูกันเลย

ต๊อกโบกี
  1. เริ่มจากการทำซอสของเมนูอาหารเกาหลีเมนูนี้ก่อน โดยให้คุณนำโคชูจัง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายแดง พริกป่นเกาหลี กระเทียม มาคนแล้วผสมให้ทุกส่วนเข้ากัน
  2. ตั้งกระทะ (แนะนำว่าให้ใช้กระทะแบน) แล้วเทน้ำเปล่าลงไป
  3. เริ่มเปิดแก๊สรอให้น้ำเริ่มเดือดเล็กน้อย แล้วใส่ซอสที่ผสมเตรียมไว้ลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน
  4. ใส่หอมแดงลงไปแล้วต้มประมาณ 5-7 นาที จนเริ่มนิ่ม
  5. เมื่อหอมแดงได้ที่แล้วให้ใส่แป้งต๊อกลงไป ตามด้วยลูกชิ้นปลา เต้าหู้ทอด และส่วนผสมอื่น ๆ ที่คุณต้องการเพิ่มเติม แล้วคนทุกอย่างให้เข้ากัน โดยใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที จนแป้งสุก โดยคุณสามารถตรวจสอบความสุกได้จากความนิ่มของแป้ง
  6. เมื่อแป้งนิ่มและสุกได้ที่แล้วสามารถตักใส่จานแล้วราดน้ำมันงาลงไปให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้าก่อนก่อนที่จะโรยงาคั่วพร้อมทั้งต้นหอมสไลด์ลงไป จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟกันแล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันจบครบสูตรต๊อกโบกี ง่ายๆ

ถ้าอยากทำแป้ง ต๊อกโบกี เองต้องทำอย่างไร

ถ้าใครเริ่มคล่องกับสูตรที่เราให้ไปแล้วอยากลองทำ แป้งต๊อกโบกี ด้วยตัวเองสามารถทำได้ง่าย ๆ ตามสูตร ต๊อกโบกีโดยเตรียม แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า และน้ำเปล่า จากนั้นทำตามวิธีดังนี้

ต๊อกโบกี
  • ใช้สัดส่วนแป้งข้าวเหนียว 2 ส่วน แป้งข้าวเจ้า 1 ส่วน
  • ใส่น้ำลงไปเล็กน้อยเติมจนรู้สึกว่าแป้งสามารถจับตัวกันได้เป็นก้อน 
  • นำไปนึ่งให้สุกเพียงระดับหนึ่งเท่านั้นห้ามสุกมากเพราะต้องนำมาคลึงต่อ
  • เมื่อแป้งสุกจนใสระดับหนึ่งให้นำออกมานวดแล้วคลึงตัดให้เป็นแท่งในแบบที่เราคุ้นเคย ถ้ายังไม่ทำทันทีสามารถแช่ตู้เย็นได้
ต๊อกโบกี

วันนี้ได้ทั้งรู้จักกับเมนูต๊อกโบกีมากขึ้น พร้อมทั้งได้วัตถุดิบ วิธีทำ แถมไปด้วยวิธีการทำแป้งต๊อกด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าครบสูตรของการทำเมนูเกาหลีสุดฟินเมนูนี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าใครอยากเข้าครัวก็สามารถเริ่มกันได้เลย เมนูนี้ทั้งทำงาน อร่อย และเป็นอาหารว่างที่อยู่ท้องเลยทีเดียว หรือถ้าอยากพัฒนาสูตรจนนำไปขายก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน รับรองว่าสามารถทำกำไรและสร้างยอดขายให้กับคุณได้อย่างน่าประทับใจแน่นอน เพราะกลายเป็นเมนูที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/ 

READ MOREREAD MORE
บุลโกกิ

ถึงเวลาเข้าครัวไปกับเมนูเนื้อ บุลโกกิ เมนูอาหารเกาหลีที่ใครก็รู้จักถึงเวลาเข้าครัวไปกับเมนูเนื้อ บุลโกกิ เมนูอาหารเกาหลีที่ใครก็รู้จัก

บุลโกกิ

หลายคนอาจคุ้นชื่อเมนูอย่าง บุลโกกิ กันดี แต่อาจยังไม่รู้จักรายละเอียดของเมนูนี้กันมากนัก วันนี้เราลองมาทำความรู้จักไปพร้อมกับการแกะสูตร ตามล่าวัตถุดิบที่ใช่ที่สุด แล้วทำตามต้นตำรับเอาแบบที่ทานแล้วเหมือนไปทานที่ร้านหรือบินลัดฟ้าไปทานที่เกาหลีกันเลยดีกว่า ใครพร้อมแล้วเรามาเริ่มลุยเมนูเนื้อสุดละมุนเมนูนี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

บุลโกกิ คืออะไร

บุลโกกิ

หลายคนอาจเข้าใจว่า บุล โก กิ เป็นชื่อเรียกเนื้อ แต่ความจริงแล้วเป็นชื่อของเมนูอาหารเกาหลีนั่นเอง ซึ่งว่ากันว่าถ้าใครยังไม่เคยทานอาหารเกาหลีในซีรีส์แล้วได้ลองเมนูนี้กันเข้าไปติดใจจนพร้อมเปิดใจลองเมนูของเกาหลีเมนูอื่น ๆ ง่ายขึ้นกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าถามว่าบุลโกกิ คืออะไร และเนื้อบุลโกกิ คือเนื้อส่วนใดคำตอบก็คือ เนื้อส่วนใดก็ได้ของวัวที่นำมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ แล้วทานคู่กับเมนูต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะข้าวสวยร้อน ๆ ยิ่งทำให้เมนูนี้มาพร้อมความกลมกล่อมที่มากขึ้น

บุลโกกิ

พุลโกกีนั้นเป็นเมนูที่มีอายุกว่า 1,000 ปี บุลโกกิประวัติเริ่มต้นมาจากพื้นที่คาบสมุทรตอนเหนือของเกาหลี และเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของเกาหลีใต้ เป็นรสชาติที่ผสมผสานเครื่องปรุงต่าง ๆ มารวมกันเอาไว้ได้อย่างลงตัว ดังนั้นวันนี้ใครที่อยากลองทำด้วยตัวเองมาเก็บสูตรกันเลย

วัตถุดิบที่ต้องมีในการทำบุลโกกิ

สิ่งที่สำคัญสำหรับเมนูบุลโกกิ ก็คือวัตถุดิบที่มีคุณภาพและสดใหม่ เพราะถ้าไม่พิถีพิถันในส่วนนี้คุณอาจเจอเนื้อเหนียวที่ทำให้เคี้ยวแล้วเสียอารมณ์กันได้ หรือใครไม่ทานเนื้อจะทำเป็นบุลโกกิหมูก็ได้เช่นกัน เพราะหัวใจหลักก็คือการนำมาย่างแล้วผัดซอสบูลโกกิตามสูตรนั่นเอง และวัตถุดิบจะต้องเตรียมอะไรบ้างมาดูกันเลย

บุลโกกิ
  • เนื้อสันแหลม 350 กรัม
  • หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 40 กรัม
  • กระเทียม 6 กลีบ
  • สาลี่หิมะหั่นเต๋า 60 กรัม
  • ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
  • น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • ซอสถั่วเหลือง ⅓ ถ้วย
  • น้ำมันงา 3 ช้อนโต๊ะ
  • หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยว 60 กรัม
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น
  • งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ : คุณสามารถเพิ่มผักสำหรับเสิร์ฟคู่กับเมนูอาหารเกาหลียอดฮิตเมนูนี้กันได้ตามความชอบ และอย่าลืมเตรียมข้าวสวยญี่ปุ่นนุ่ม ๆ ไว้ทานคู่กันด้วย เพื่อความอร่อยตามแบบฉบับดั้งเดิม

วิธีทำบุลโกกิ แบบง่าย ๆ แต่อร่อยแบบเกาหลี

เมื่อเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เรามาถึงขั้นตอนของการเข้าครัวกันแล้ว สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ บุลโกกิออกมาเหมือนต้นตำรับมากที่สุดจะต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาเริ่มทำไปพร้อมกันเลยดีกว่า

บุลโกกิ
  1. ทำการหั่นเนื้อให้เป็นชิ้นตามแนวขวาง แต่ถ้าไปซื้อตามร้านที่มีบริการหั่นให้สามารถแจ้งได้เพื่อลดเวลาในขั้นตอนนี้ และการให้ผู้เชี่ยวชาญหั่นให้ตามแนวเนื้อ ทำให้คุณได้เนื้อที่สัมผัสดีขึ้นได้อีกด้วย
  2. เริ่มใส่หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า กระเทียม สาลี่หิมะหั่นเต๋า ต้นหอมหั่นท่อน น้ำตาลทรายแดง พริกไทยป่น ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันงา ลงในเครื่องปั่น เมื่อใส่ทุกส่วนผสมเข้าไปครบแล้วให้เริ่มปั่นจนทุกอย่างละเอียดกลายเป็นซอส
  3. ซอสที่ปั่นเรียบร้อยแล้วนั้นให้เทลงบนเนื้อที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่หอมที่หั่นแบบเสี้ยวลงไปคลุกให้เข้ากัน หมักทุกส่วนผสมเอาไว้อย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้ซึมซอสและให้ได้รสชาติมากขึ้น
  4. เริ่มตั้งกระทะด้วยไฟกลางไปถึงค่อนข้างแรง ใส่น้ำมันลงไป เมื่อกระทะร้อนได้ที่แล้วเริ่มใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไปผัดจนสังเกตว่าหอมหัวใหญ่สุก และตัวซอสเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้น
  5. เมื่อทุกอย่างนิ่มและสุกตามที่ต้องการก็โรยต้นหอมซอย งาคั่ว ลงไปผัดอีกเล็กน้อยแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟและทานคู่กับผักพร้อมทั้งข้าวสวยร้อน ๆ กันได้เลย ถือว่าจบสูตรเมนู, อาหารเกาหลีง่ายๆที่ไม่ควรพลาดกันแล้ว

ความหมายของเมนู บุลโกกิ

บุลโกกิ

ความจริงแล้วเราอาจคิดว่าบุลโกกิจะต้องเป็นเนื้อวัวเท่านั้น แต่จริง ๆ คุณสามารถใช้เนื้ออะไรก็ได้เพื่อทำเมนูนี้ เพราะในสมัยเริ่มต้นของเมนูนี้เกาหลีจัดว่าเป็นประเทศที่รายล้อมไปด้วยทะเล อาหารส่วนใหญ่จึงเป็นผักและอาหารทะเล พอได้มาทานเนื้อสัตว์สำหรัยสมัยก่อนถือว่าเป็นของแพงและเป็นของคนมีฐานะ จนเมื่อเวลาผ่านไปเนื้อสัตว์อื่น ๆ นอกจากทะเลเข้าถึงง่ายขึ้น เลยมีการปรับปรุงสูตรให้ทำเมนูนี้ได้อย่างหลากหลาย เพราะคำว่าบูลแปลว่าไฟ โกกิแปลว่าเนื้อสัตว์ โดยถ้าคุณเลือกใช้เป็นเนื้อวัว ไก่ หมู ก็สามารถทำได้

บุลโกกิ

ใครที่ชอบเนื้อย่างสไตล์เกาหลีบอกเลยว่าไม่ควรพลาดบุลโกกิกันเด็ดขาด เมนูนี้แม้จะมาพร้อมวัตถุดิบที่เยอะ แต่ก้สามารถทำทุกอย่างได้ง่ายดาย เพราะเพียงแค่นำมาปั่นรวมกันก็สามารถเป็นซอสเพื่อปรุงรสเมนูนี้ได้อย่างลงตัวกันแล้วนั่นเอง ถ้าอยากเพิ่มวิตามินและเกลือแร่เมื่อทานเมนูนี้อย่าลืมเพิ่มผักเข้าไปทานด้วย โดยอาจปรับให้ทานง่ายขึ้นด้วยการนำผักอย่างกำหล่ำปลี แครรอท ลงไปผักกับเนื้อเลยเพื่อให้ซอสซึมเข้าผักและเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
ไก่ทอด เกาหลี

มาทำ ไก่ทอด เกาหลี แบบกรอบนอกนุ่มในกันมาทำ ไก่ทอด เกาหลี แบบกรอบนอกนุ่มในกัน

ไก่ทอด เกาหลี

เชื่อว่าเมนูอย่าง ไก่ทอด เกาหลี น่าจะเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน ด้วยความกรอบและซอสฉ่ำที่มาพร้อมกับเนื้อไก่นุ่ม ๆ ด้านใน ทำให้หลายคนติดใจจนอยากจะลองทำเอง วิธีทอด การคลุกซอส และการเสิร์ฟแบบไหนที่ทำแล้วจะเหมือนไปทานที่ร้าน เหมือนกับที่ดูในซีรีย์วันนี้เรามาแกะสูตร เตรียมวัตถุดิบ แล้วเริ่มเข้าครัวกันเลยดีกว่า

มารู้จักกับที่มาของ ไก่ทอด เกาหลี กันก่อน

ไก่ทอด เกาหลี

ทำไมพอเป็น ไก่ทอดเกาหลี ถึงมีความแตกต่างจากไก่ทอดบ้านเรา แล้วที่มาของไก่ทอดเกาหลีเมนูนั้นเป็นมาอย่างไร เราลองมาทำความรู้จักก่อนเริ่มเข้าครัวทำกันดีกว่าจะได้อินกับไก่ทอดซอส เกาหลีกันมากขึ้น เมนูนี้เริ่มมาจากทหารอเมริกันที่ขายไก่ทอดสูตรอเมริกันในพื้นที่เกาหลีใต้ จนปี 1997 คนเกาหลีคนแรกได้เริ่มแนวคิดขายไก่ทอดชิ้นเล็ก ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากอเมริกามาปรับจนเป็นสูตรไก่โสมของตัวเองและได้รางวัล จากนั้นก็เริ่มต้นธุรกิจขึ้น เขาคือผู้ริเริ่มการเคลือบไก่ด้วยซอสเผ็ด และมีการปรับปรุงสูตรต่าง ๆ ยาวมาจนถึงปัจจุบัน

วัตถุดิบในการทำไก่ทอด เกาหลี

มาดูกันดีกว่าว่าถ้าต้องการเตรียมวัตถุดิบสำหรับไก่ทอด เกาหลีจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ไก่ทอดเกาหลีใช้ซอสอะไร มีรายละเอียดแบบไหนถึงจะทำให้ได้มาเป็นอาหารเกาหลียอดฮิตตามแบบที่ต้องการ

ไก่ทอด เกาหลี
  • ปีกไก่หรือน่องไก่ 10-12 ชิ้น
  • เกลือป่น
  • พริกไทย
  • ซอสโคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • น้ำเปล่า
  • งาขาว
  • ต้นหอมซอย
  • กระเทียมสับละเอียด

หมายเหตุ : คุณสามารถเตรียมข้าวสวย หรือข้าวเหนียวเพื่อมาทานกับเมนูนี้ได้ และถ้าอยากได้ความสูตร ไก่ทอดเกาหลีแบบดั้งเดิมมากขึ้น แนะนำเลยว่าให้เตรียมหัวไชเท้าดอง กิมจิ เพิ่มเข้ามาเป็นเครื่องเคียง เพราะทั้งช่วยตัดเลี่ยน เติมรสชาติ และยังอร่อยได้ในแบบเกาหลีแท้ ๆ กันอีกด้วย

วิธีทำ ไก่ทอดเกาหลี

เมื่อเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเข้าครัวมาทำ ไก่ทอดเกาหลี ให้กลายเป็นเหมือนอาหารเกาหลีในซีรีส์กันแล้ว วิธี ทำ ไก่ ทอด เกาหลีต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาเริ่มเข้าครัวทำเมนูอาหารเกาหลีนี้ไปพร้อมกันเลย

ไก่ทอด เกาหลี
  1. นำปีกและน่องไก่ที่เตรียมเอาไว้มาหมักก่อนด้วยเกลือ พริกไทย จากนั้นคนให้ทุกส่วนผสมเข้ากัน
  2. เมื่อส่วนผสมแรกเข้ากันเรียบร้อยแล้วให้ใส่แป้งทอดกรอบตามลงไป จากนั้นคลุกเคล้าอีกครั้งในทุกส่วนผสมเข้ากัน แล้วทำการหมักเอาไว้อย่างน้อย 15 นาที
  3. ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนได้ที่ให้ใส่ไก่ที่เตรียมไว้ลงไป ทอดจนเหลืองกรอบ และเมื่อสุกดีแล้วให้นำมาพักเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  4. มาเริ่มทำซอส ไก่ทอดเกาหลีกันต่อ โดยเทน้ำมันลงในกระทะ เมื่อกระทะเริ่มร้อนให้ใส่กระเทียมสับลงไป จากนั้นผัดจนกระเทียมเริ่มมีกลิ่นหอม
  5. ใส่ซอสโคชูจัง น้ำผึ้ง ซอสมะเขือเทศ และน้ำส้มชายชูตามลงไป จากนั้นใช้ไฟอ่อนผัดให้ทุกส่วนผสมเข้ากันดี ถ้ารู้สึกว่าแห้งไปในขั้นตอนนี้สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้เลย
  6. เมื่อสังเกตเห็นแล้วว่าซอสเริ่มงวดดีให้ปิดแก๊สแล้วนำซอสขึ้นมาพัก จากนั้นใส่ไก่ที่ทอดไว้ลงไปคลุกให้ทุกส่วนผสมเข้ากันทั้งชิ้น
  7. จัดไก่ที่คลุกเรียบร้อยแล้วใส่จาน โรยงาขาว ต้นหอม เพียงเท่านี้ก็พร้อมทานกันแล้วกับสูตรไก่ทอดเกาหลี ง่ายๆ

ความหลากหลายที่น่าสนใจของเมนู ไก่ทอด เกาหลี

สำหรับเมนู ไก่ทอดเกาหลี นั้นไม่ได้มีแค่สูตรที่คลุกกับซอสโคชูจังเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นซอสอื่น ๆ ตามที่ต้องการได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเมนูไก่คลุกซอสแบบนี้แหละที่เรียกได้ว่าเป็นอาหารเกาหลีง่ายๆ ที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์

ไก่ทอด เกาหลี
  • ฮูราอีดือชีคิน ตัวนี้จะหมายถึงเมนูไก่ทอดแบบทั่วไปไม่ได้คลุกคล้าซอส แต่เน้นความอร่อยของตัวแป้ง
  • ยังนย็อมชีคิน เมนูไก่ที่ผ่านการปรุงรสเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็หมายถึงไก่ทอดที่เคลือบซอสหวานและเผ็ดที่ปรุงด้วยโคชูจังอย่างที่เราได้สูตรกันไปในวันนี้นั่นเอง
  • พันบัน เมนูนี้จะหมายถึงการเสิร์ฟไก่แบบปรุงรสครึ่งหนึ่ง ธรรมดาครึ่งหนึ่ง เป็นการผสมผสานที่ลงตัว เพื่อความหลากหลายบนโต๊ะอาหาร
  • คันจังชีคิน เป็นเมนูไก่ซอสถั่วเหลือง ซึ่งจะนำไก่ทอดเคลือบที่เคลือบซอสหวานและเผ็ดเหมือนกัน แต่เป็นซอสที่ปรุงด้วยซอสถั่วเหลือง ซึ่งมักจะใส่กระเทียมเพิ่มเติมลงไปอีกด้วย
  • พาดัก หรือเมนูไก่ทอดต้นหอม เป็นเมนูไก่ทอดที่ราดด้วยต้นหอมซอยบาง ๆ ทานแล้วได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทานได้เพลิน ๆ บางครั้งก้มักทานกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไก่ทอด เกาหลี

ใครที่ชอบอาหารเกาหลีบอกเลยว่าไก่ทอดเกาหลีนั้นทำง่ายกว่าที่คิด แถมยังให้คุณสามารถปรุงซอสที่คลุกได้ด้วยตัวเอง บางทีการไปทานที่ร้านอาจเจอกับรสชาติที่เผ็ดไปหวานไป เมื่อมาทำเองแบบนี้ก็สามารถปรับรสชาติได้ตามความชอบ แล้วอยากจะทานคู่กับอะไรก็สามารถเตรียมได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน เพราะอาหารเกาหลีสำเร็จรูปที่เป็นเครื่องเคียงในตอนนี้สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย แถมยังอร่อยอีกด้วย บอกเลยว่าเมนูนี้เหมาะที่สุดที่จะเป็นเมนูสำหรับการจัดปาร์ตี้

ลงทะเบียนเข้าร่วม สมัครเว็บบอล ออนไลน์ชั้นนำที่มีโบนัสสูงสุดถึง 10,000 บาท เล่นบอลเพลิดเพลินไปกับเกมคาสิโนน่าสนใจและโปรโมชั่นมากมาย!

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
จาจังมยอน

สูตร จาจังมยอน แบบต้นตำรับไม่ต้องบินลัดฟ้าให้เสียเวลาสูตร จาจังมยอน แบบต้นตำรับไม่ต้องบินลัดฟ้าให้เสียเวลา

จาจังมยอน

หลังจากเตรียมวัตถุดิบกันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเริ่มทำจาจังมยอนกันแล้ว เมื่อเรารู้กันแล้วว่าจาจังมยอน ใส่อะไรบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรบอกเลยว่าสูตรนี้ไม่ว่าใครก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ และยังสามารถเพิ่มเติมรสชาติและวัตถุดิบตามชอบกันได้อีกด้วย

สำหรับเมนูบะหมี่เส้นเหนียวนุ่มที่มาพร้อมกับซอสสีดำน่าจะเป็นอาหารเกาหลีเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งเรากำลังพูดถึงเมนูอย่าง ‘จาจังมยอน’ นั่นเอง แล้วถ้าไม่อยากไปร้าน อยากลองทำเองที่บ้าน เมนูนี้ทำยากหรือไม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วจะมีสูตรเด็ดเคล็ดลับอย่างไรให้เส้นเหนียวนุ่ม ซอสเข้มข้นได้ใจเหมือนที่ทานที่ร้าน และทานได้ฟิน ๆ เหมือนที่เห็นในซีรีย์ วันนี้เราเตรียมสูตรเด็ดเคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้เหมือนบินลัดฟ้าไปนั่งทานกันที่เกาหลีมาให้คุณได้ลองพิสูจน์ฝีมือตัวเองกันแล้ว

จาจังมยอน คืออะไร

จาจังมยอน

แม้ว่าหลายคนอาจเคยทาน จาจัง มยอน แต่อาจยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วจาจังมยอน คืออะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ คำตอบคือเมนูอาหารเกาหลีเมนูนี้เป็นบะหมี่ซอสดำของเกาหลี ที่ซอส จาจังมยอนนั้นจะมีรสชาติไปทางเค็มและขมที่ปลายลิ้น เพราะจาจังมยอน ทำมาจากซอสถั่วดำหมัก แป้งสาลี คาราเมล แล้วมาผัดกับหมู เห็ด กะหล่ำ และผักอื่น ๆ จากนั้นก็ผัดหรือคลุกกับละหมี่ เป็นหนึ่งเมนูที่ไม่เผ็ด เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี 

ส่วนถ้าใครยังสงสัยว่าจาจังมยอน จาจังเมียน ต่างกันยังไงจาจังมยอน จาจังเมียน ต่างกันยังไงคำตอบก็คือเป็นเมนูเดียวกัน เพียงแต่ความถนัดในการเรียกของแต่ละคนต่างกันเท่านั้นเอง สรุปก็คือบะหมี่ดำเกาหลีเหมือนกันนั่นเอง

วัตถุดิบที่ต้องใช้ในเมนูจาจังมยอน

จาจังมยอน

ถึงเวลามาเตรียมของให้พร้อมสำหรับการทำ จาจังมยอน กันแล้ว เมนูนี้ต้องเตรียมอะไรบ้าง อาหารเกาหลีในซีรีส์ยอดฮิตเมนูนี้จะยุ่งยากมากกว่าการทำอาหารไทยที่เราคุ้นเคยกันหรือไม่ เราลองมาดูในส่วนของวัตถุดิบกันดีกว่า บอกเลยว่าเตรียมง่าย และตอนนี้วัตถุดิบจากเกาหลีหาง่ายมากกว่าที่คิด แต่สูตรนี้เรายังจะไม่ได้พาคุณมาทำซอสถั่วดำด้วยตัวเอง ยังใช้ซอสแบบสำเร็จรูปเพื่อความรวดเร็วและง่ายดายกันก่อน

จาจังมยอน
  • เส้นบะหมี่ (สำหรับทำจาจังเมียน)
  • หมูสามชั้น
  • หัวไชเท้า 1 ถ้วย
  • มันฝรั่ง 1 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่ 1 ถ้วย
  • ซอสชุนจัง ¼ ถ้วย(Black Bean Paste)
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ (ละลายกับน้ำเปล่า ¼ ถ้วย)
  • น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช
  • แตงกวาซอยละเอียดเป็นเส้น

หมายเหตุ : คุณสามารถเพิ่มเติมไข่ต้มหรือไข่ดาวเพื่อทานคู่กับเมนูนี้กันได้

วิธีทำ จาจัง มยอน ให้อร่อยแบบต้นตำรับ

จาจังมยอน
  1. ตั้งกระทะแล้วนำหมูสามชั้นลงไปผัดให้สุก เน้นความสุกให้เกรียม แต่ไม่ไหม้ จากนั้นเทน้ำมันออกให้หมดแล้วใส่หัวไชเท้าตามลงไปก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเป็นวัตถุดิบที่สุกยากที่สุดนั่นเอง
  2. หลังจากผัดไปประมาณ 5 นาที และสังเกตว่าหัวไชเท้าเริ่มอ่อนตัวก็ให้ใส่มันฝรั่งและหอมหัวใหญ่ตามลงไปคนเรื่อย ๆ จนทุกอย่างสุก
  3. หลังจากผักทั้งสามอย่างเริ่มสุกแล้วก็เริ่มใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยซอสถั่วดำ ผัดตัวซอสไปประมาณ 2-3 นาที เมื่อสังเกตว่าเริ่มได้ที่เข้ากันแล้วก็คลุกให้ทุกอย่างเข้ากันมากขึ้น จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป คนเล็กน้อย แล้วปล่อยให้เดือดเอง แล้วปิดไฟพักซอสเอาไว้
  4. ลวกเส้นในหม้ออีกใบหนึ่ง โดยใส่เกลือเพิ่มลงไปด้วย เส้นจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการสุก เมื่อสุกดีได้ระดับความนิ่มตามที่ต้องการแล้วก็นำไปน็อคกันน้ำเย็นจัด
  5. นำเส้นมาใส่ในจานที่ต้องการ ตกแต่งหน้าให้เรียบร้อยด้วยแตงกวาหั่นเส้นที่เตรียมเอาไว้ แล้วราดซอสที่เตรียมไว้ลงไป เป็นอันเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟและทานกันแล้ว

ที่มาที่ไปของ จาจังมยอน

จาจังมยอน

สำหรับอาหารเกาหลียอดฮิตเมนูนี้อย่างจาจังมยอนนั้นถือว่ามีที่มาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยในปี 1905 มีพ่อค้าคนจีนเข้ามาที่เกาหลีและนำเมนูนี้มาเผยแพร่ นานวันไปก็มีการปรับรสชาติจากจีน ๆ ให้กลายเป็นสไตล์เกาหลีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนเกาหลีเองด้วยความที่เก่งในเรื่องของ Soft Power ก็ทำให้เกิดเรื่องราวว่าทุกวันที่ 14 เมษายนจะเป็นวันที่เรียกกันว่า Korean Black Day ใครที่ไม่ได้รับของขวัญจะต้องกิน จาจังมยอน จนกลายเป็นธรรมเนียม และทำให้เมนูนี้รู้จักเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นเมนูเด็ดของเกาหลีอย่างในปัจจุบันนั่นเอง

จาจังมยอน

สำหรับใครที่เคยทานอาหารเกาหลีง่ายๆ เมนูจาจังมยอน จากที่ร้านเห็นวัตถุดิบและสูตรแล้วเชื่อว่าหลายคนน่าจะจับทางถูก และรู้เลยว่าไม่ใช่เมนูที่ทำยาก ขอแค่หาซอสถั่วดำที่ถูกปากเจอเพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการทำมื้ออร่อยมื้อนี้แล้ว แถมยังเป็นเมนูที่เหมาะจะทำไว้ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ อีกด้วย เพราะสามารถทำออกมาได้ทีละเยอะ ๆ กะส่วนผสมเพิ่มเติมตามสูตรกันได้ไม่ยาก หรืออยากจะทำซอสทิ้งไว้แล้วนำมาอุ่นทานกันเป็นมื้อก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยและไม่เสียเวลา ดังนั้นใครดูซีรีย์แล้วเกิดอยากทานขึ้นมาลองซื้อวัตถุดิบติดบ้านกันเอาไว้ ลุกขึ้นมาทำใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีก็พร้อมทานกันแล้ว ไม่ต้องทนหิวหลังอินซีรีย์กันอีกต่อไป

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
เบอร์เกอร์

มาแกะสูตร เบอร์เกอร์ แล้วทำเองกันดีกว่ามาแกะสูตร เบอร์เกอร์ แล้วทำเองกันดีกว่า

เบอร์เกอร์

แม้คำนิยาม เบอร์เกอร์ เป็นอาหารฟาสฟู๊ด แต่ถ้าคุณลองทำเบอร์ เกอร์ด้วยตัวเองเมนูนี้สามารถกลายเป็นเมนูที่ให้ประโยชน์กับคุณได้

เบอร์เกอร์ ต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง

เบอร์เกอร์

ภายในอาหารอย่างเบอร์เกอร์ นั้นต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง วันนี้เราเตรียมคำตอบมาไว้ให้คุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแฮมเบอร์เกอร์มักจะต้องประกบด้วยขนมปังก้อนกลม ใส่ซอส ชีส และมีเนื้อเป็นส่วนผสมหลักอยู่ตรงกลาง มีพื้นฐานเพียงเท่านี้คุณก็สามารถได้อาหารอเมริกัน ง่ายๆ ทานกันแล้ว ส่วนถ้าใครอยากได้สูตรเพื่อนพไปทำเบอร์เกอร์โฮมเมดกันวันนี้เราได้เตรียมสูตรที่ทั้งอร่อยและทำง่ายมากฝากคุณกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วัตถุดิบหลักเมื่อต้องการทำเบอร์เกอร์

เราลองมาดูกันดีกว่าว่าถ้าคุณอยากจะได้ เบอร์ เกอร์ สักชิ้นคุณจำเป็นที่จะต้องเตรียมอะไรบ้างเพื่อให้ครบตามสูตรเบอร์เกอร์แบบต้นตำรับที่รับรองว่าไม่ว่าใครได้ทานก็ต้องติดใจ

เบอร์เกอร์
  • วัตถุดิบหลักของเบอร์เกอร์ทำเองง่ายๆ
    • เนื้อหมูบด 400 กรัม
    • หอมหัวใหญ่สับ 1 ลูก
    • ขนมปังเบอร์เกอร์
    • มะเขือเทศ
    • หัวหอมใหญ่
    • ผักสลัด
    • ชีสแผ่น
    • มายองเนส
  • วัตถุดิบปรุงรสตามสไตล์อาหาร อเมริกัน
    • เนยเค็ม
    • ซอสมะเขือเทศ
    • ผงโอริกาโน่
    • พริกไทย
    • น้ำตาลทราย
    • ซอสหอยนางรม
    • ไข่แดง

มาเริ่มต้นวิธีทำ เบอร์เกอร์ แบบง่าย ๆ แต่อร่อยครบรสกัน

หลังจากเตรียมวัตถุดิบหลักของเบอร์เกอร์ กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลามาเริ่มเข้าครัวแล้วทำเมนูอาหารอเมริกันยอดนิยมเมนูกันแล้ว

เบอร์เกอร์
  1. นำหอมหัวใหญ่ที่สับแล้วมาผัดกับเนยเค็มให้หอม
  2. ใส่ซอสมะเขือเทศ ผงโอริกาโน่ลงไปผัดให้เข้ากัน เมื่อผัดเสร็จนำมาพักให้เย็น
  3. หลังจากหอมเย็นแล้วให้ใส่หมูบด ซอสหอยนางรม ไข่แดง น้ำตาล และพริกไทยลงไป คลุกเคล้าให้ทุกส่วนผสมเข้ากันดี
  4. นำหมูมาปั้นเป็นก้อน ชิ้นไหนที่ยังไม่ทานสามารถแรปแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นได้
  5. จากนั้นนำหมูก้อนที่ต้องการทานมาทำให้สุกบนกระทะ สามารถเติมน้ำเปล่าหรือซุปลงไประหว่างหมูกำลังจะสุกเพื่อทพให้หมูนุ่มมากขึ้น
  6. นำขนมปังมาทานเนยแล้วนาบลงบนประทะ พร้อมกับหอมใหญ่หั่นแว่น
  7. เมื่อหมูสุกแล้วให้เริ่มประกอบร่างได้ ด้วยการทามายองเนสลงบนขนมปังชิ้นหนึ่ง ตามด้วยผัก หอมใหญ่ มะเขือเทศ หมู ชีส ปิดท้ายด้วยขนมปังอีกแผ่นก็พร้อมทานกันแล้ว
เบอร์เกอร์

หลังจากเก็บสูตรเบอร์เกอร์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วบอกเลยว่านี่จะเป็นวิธีทําเบอร์เกอร์ ง่ายๆ ที่คุณได้ใช้ทำบ่อยที่สุดอย่างแน่นอน เพราะอร่อย กลมกล่อม ได้รสชาติตามความเป็นอาหารอเมริกันที่นิยมตามที่คุณต้องการก่อนที่จะเริ่มทำ แถมยังใช้เวลาในการเตรียมและทำไม่นานก็สามารถอร่อยอิ่มท้องกันได้แล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า

มาเติมความอร่อยให้มื้ออาหารด้วย พาส ต้า ซอสคาโบนาร่ามาเติมความอร่อยให้มื้ออาหารด้วย พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า

พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า

ใครที่ชอบความหอมมันเข้มข้นต้องไม่พลาดสูตร พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า ไปทำทานกันรับรองว่าอร่อยจุใจ

พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า ต้องมาพร้อมรสชาติแบบไหน

พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า

ถือว่าเมนูอย่าง พาสต้า ซอสคาโบนาร่า นั้นเป็นอาหารอิตาลีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในไทย แถมยังมีการปรับแต่งให้กลายเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่นหลากหลายสูตร แต่ถ้าจะถามว่ารสชาติแบบต้นตำรับแท้ ๆ นั้นจะต้องออกมาเป็นแบบไหนคำตอบก็คือ มันเค็มในสไตล์ที่กลมกล่อม ด้วยส่วนผสมหลัก ๆ ที่มาจากครีม ชีส และไข่แดง ถ้าเริ่มอยากรู้แล้วว่าจะทำเมนูนี้ออกมาให้เพอร์เฟกได้อย่างไรเราเตรียมสูตรมาแจกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วัตถุดิบสำคัญของพาสต้าคาโบนาร่า

ก่อนจะเริ่มลงมือทำให้ได้ พาสต้า ซอสคาโบนาร่า ในแบบฉบับของวัฒนธรรมอาหารอิตาลีนั้นเราต้องมาตามเก็บวัตถุดิบให้ครบก่อน ซึ่งเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบไม่เยอะแต่จำเป็นต้องใช้ของที่มีคุณภาพและสดใหม่เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมมากที่สุด

พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า
  • วัตถุดิบหลักพาส ต้า คา โบ นา ร่า
    • เส้นสปาเก็ตตี้ 50 กรัม
    • เบคอน 50 กรัม
    • หอมใหญ่ 30 กรัม
    • พาร์สลีย์
  • วัตถุดิบส่วนซอสพาส ตา
    • วิปครีม 500 มิลลิลิตร
    • พาเมซานชีส 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
    • เกลือ 1/8 ช้อนชา
    • พริกไทย 1/8 ช้อนชา
    • ไข่แดง 1 ฟอง

วิธีทำพาสต้า ซอสคาโบนาร่า

หลังจากเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้วเรามาเข้าสู่ขั้นตอนของการลงมือทำ พาสต้าซอสคาโบนาร่า กันดีกว่าบอกเลยว่าเมนูนี้จัดอยู่ในหมวดของอาหารอิตาลี ง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ ได้อย่างแน่นอน

พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า
  1. ต้มน้ำให้เดือดจากนั้นใส่เกลือลงไปแล้วต้มเส้นประมาณ 4-6 นาที
  2. เตรียมไข่สดด้วยการแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว
  3. ตั้งกระทะแล้วนำเบคอนมาผัดจนหอมเหลือง เมื่อน้ำมันของเบคอนออกมาให้ใส่หอมใหญ่ลงไป ผัดต่อจนหอมและสังเกตว่าหอมใหญ่เริ่มใส่
  4. ใส่วิปครีมลงไปแล้วคนจนเดือดแล้วให้เริ่มใส่ชีส คนจะละลาย ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
  5. นำเส้นที่เตรียมไว้มาคลุกซอสให้เคลือบจนทั่ว ปิดแก๊ส แล้วใส่ไข่แดงลงไป คลุกให้เข้ากันอีกครั้งเป็นอันพร้อมเสิร์ฟ
พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า

วันนี้คุณก็ได้ทั้งวัตถุดิบและสูตรของ พาสต้าคาโบนาร่า กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเมนูอาหารอิตาลีที่ทำง่ายและอร่อยอย่างเป็นเอกลักษณ์ ใครกำลังมองหาอาหารอิตาลี ทำเองบอกเลยว่าห้ามพลาดเมนูพาสต้า อิตาลี PASTA เมนูนี้กันเป็นอันขาด

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
LASAGNA

LASAGNA เมนูอิตาลีทำง่ายกว่าที่คิดLASAGNA เมนูอิตาลีทำง่ายกว่าที่คิด

LASAGNA

สำหรับใครชื่นชอบเมนู LASAGNA แล้วอยากที่จะลองทำไว้ทานเอง บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด มาเริ่มเก็บสูตรอาหารอิตาลีเมนูนี้กันดีกว่า

LASAGNA คืออะไร

LASAGNA

เราลองมาทำความรู้จักกับ LASAGNA(ลาซัญญา) อย่างเป็นทางการกันก่อนดีกว่าว่า LASAGNAคืออะไรกันแน่ เมนูอาหารอิตาลีที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ด้วยความฉ่ำ แน่น และรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อมทำให้ในไทยเราเองก็นิยมทานเมนูนี้กันไม่น้อย ถ้าคุณเริ่มอยากรู้แล้วว่าจะสามารถทำเมนูยอดนิยมระดับโลกเมนูนี้ด้วยตัวเองได้อย่างไรบ้างเราตามมาเก็บสูตรกันเลย

วัตถุดิบหลัก

LASAGNAนั้นทำไม่ยาก แต่วัตถุดิบจะต้องครบและสดใหม่เพื่อให้ได้รสชาติตามแบบฉบับอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ และนี่คือรายการของวัตถุดิบที่คุณจะต้องมีหากต้องการรังสรรค์เมนูนี้ออกมา

LASAGNA
  • วัตถุดิบหลักลาซานญ่าเนื้อ
    • เนื้อบด 2.5 ขีด (คุณสามารถใช้หมูหรือทำให้กลายเป็นลาซานญ่าไก่ได้ตามความชอบ )
    • หอมใหญ่ 1 ลูก
    • มะเขือเทศ 4 ลูก
    • เห็ดแชมปิญอง 5 ดอก
  • วัตถุดิบเครื่องเทศและการปรุงรสตามวัฒนธรรมอาหารอิตาลี
    • ซอสมะเขือเทศ 6 ช้อนโต๊ะ
    • สมุนไพรรวมของอิตาลี
    • มอสซาเรลล่าชีส
    • แป้งลาซานญ่า 1 กล่อง (แนะนำให้เลือกแบบพร้อมอบ)
    • น้ำมันพืช
    • เนยเค็มละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
    • แป้งเอนกประสงค์1 ช้อนโต๊ะ
    • นมจืด 200 กรัม

วิธีทำLASAGNA

เมื่อเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้วก็สามารถเริ่มลงมือทำLASAGNAกันได้เลยโดยสูตรที่เรานำมาแนะนำคุณในวันนี้ถือว่าเป็นอาหารอิตาลี ง่ายๆ ที่คุณสามารถทำทานได้บ่อย ๆ แบบไม่ยุ่งยากอย่างแน่นอน

LASAGNA
  1. หั่นหอมใหญ่และมะเขือเทศให้ละเอียด
  2. ตั้งกระทะไว้ที่ไฟกลางใส่หอมใหญ่ลงไปผัด เมื่อหอมเริ่มใส่เนื้อสับ รวนจนพอสุกแล้วตามด้วยมะเขือเทศ
  3. เคี่ยวจนทุกส่วนผสมเริ่มนิ่ม แล้วเติมซอสมะเขือเทศ ผัดต่อแล้วใส่เห็ด โรยผงเครื่องเทศ เมื่อสุกให้พักรอไว้
  4. ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ละลายเนย ใส่แป้งและใช้ตะกร้อมือคนให้ฟู จากนั้นเติมนมลงไป สังเกตได้เลยว่าครีมจะข้นมากในขั้นตอนนี้
  5. ทาเนยลงบนพิม วางแผ่นลาซานญ่าลงบนพิม ทาด้วยซอสขาวปิดท้ายด้วยซอสเนื้อสลับกันจนได้ชั้นที่คุณพอใจ
  6. บนสุดปิดท้ายด้วยชีส
  7. ห่อพิมด้วยฟอยด์จากนั้นอบด้วยความร้อน 175 องศาฯ ไฟบนล่าง นาน 35 นาที
  8. แกะฟอยด์แล้วเปิดเฉพาะไฟบน 200 องศาฯ อบจนชีสดูเกรียมแล้วพอ นำออกจากเตาพร้อมทานกันได้เลย
LASAGNA

เชื่อเลยว่าเมื่อคุณได้เห็นวิธีทำ ลาซานญ่า กันไปแล้วน่าจะสัมผัสได้ว่าเมนูนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด และถ้าจะถามว่าลาซานญ่า กินกับอะไรความจริงแล้วเมื่อปรับมาเป็นคนไทยทานอาจทานเดี่ยวหรือคู่กับพิซซ่าก็ได้ตามความชอบ ทานอย่างไรก็อร่อยและยังเป็นอาหารอิตาลี ทำเองที่แสนง่ายแบบที่ไม่ว่าใครก็ต้องหลงรัก

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
BRUSCHETTA

มาทำ BRUSCHETTA ทานเป็นอาหารว่างกันดีกว่ามาทำ BRUSCHETTA ทานเป็นอาหารว่างกันดีกว่า

BRUSCHETTA

ถ้าคุณเริ่มเบื่ออาหารไทยอยากทำเมนูจากต่างชาติขอแนะนำ BRUSCHETTA เพราะนี่คืออาหารอิตาลีที่ทำง่ายน่าลองมากที่สุด

BRUSCHETTA คืออะไร

BRUSCHETTA

ก่อนจะไปเริ่มทำBRUSCHETTA คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า BRUSCHETTA คืออะไรกันแน่ คำตอบก็คือขนมปังปิ้งในสไตล์ของอิตาเลียน มีเอกลักษณ์ตรงรสของน้ำมันมะกอก พื้นฐานแล้วมักจะใส่มะเขือเทศและกระเทียมเข้ามาเพิ่มความกลมกล่อม ชาวอิตาลีเองมักใช้เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยก่อนเริ่มทานมื้อหลัก ถือเป็นเมนูอาหารอิตาลี ง่ายๆ ที่คุณสามารถทำทานเองได้ที่บ้าน แต่จะมาพร้อมกับวัตถุดิบและวิธีทำอย่างไรบ้างเรามาลุยกันต่อเลยดีกว่า

อยากทำBRUSCHETTAต้องเตรียมอะไรบ้าง

เมนูอย่างBRUSCHETTAนั้นยิ่งมีวัตถุดิบที่ครบรสมากเท่าไรยิ่งทำให้เมนูนี้ของคุณอร่อยเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ลองมาดูกันเลยว่าอาหารอิตาลีเมนูนี้ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง

BRUSCHETTA
  • วัตถุดิบหลักบรูสเกต้า คือ ขนมปังฝรั่งเศสที่จะมาเป็นตัวพื้นฐานในการเติมแต่งหน้าต่อไปตามความชอบ คุณสามารถเลือกเตรียมตามปริมาณที่คุณต้องการกันได้เลย
  • วัตถุดิบทำหน้าขนมปังอิตาลีบรูเชตต้าชีส
    • มะเขือเทศลูกใหญ่
    • ใบโหระพาหั่น
    • หอมแดง
    • น้ำมันมะกอก
    • เกลือป่น
    • น้ำเลม่อน
    • ชีสขูด
    • กระเทียม
    • พริกไทยดำป่น 

วิธีทำBRUSCHETTAให้อร่อยตามสไตล์อิตาลี

เมนูนี้โดดเด่นด้วยวัตถุดิบเมื่อคุณมั่นใจว่าเตรียมวัตถุดิบในการทำBRUSCHETTAได้สดใหม่แล้วล่ะก็บอกเลยว่าเมนูนี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายและทำให้เมนูนี้กลายเป็นอาหารอิตาลี ทำเองที่หลายชาตินิยมนำไปทานกัน

BRUSCHETTA
  1. หุ่นมะเขือเทศให้เป็นทรงเต๋าพร้อมเอาเม็ดออก
  2. หั่นใบโหระพามากน้อยได้ตามความชอบ
  3. ซอยหอมแดงเตรียมเอาไว้
  4. นำทุกส่วนผสมที่เตรียมเอาไว้มาเทรวมกัน
  5. ใส่น้ำมันมะกอกลงไปแล้วเริ่มปรุงด้วยเกลือและพริกไทย บีบเลม่อนแล้วผสมให้ทุกส่วนเข้ากัน
  6. วอร์มเตาอบที่ 160 องศาฯ ระหว่างรอให้หั่นขนมปังเตรียมไว้ จากนั้นเรียงบนถาดแล้วอบประมาณ 6-7 นาที หรือถ้าไม่มีเตาอบสามารถนำขนมปังมานาบกระทะแทนได้
  7. เมื่ออบเสร็จนำกระเทียมที่ปลอกเปลือกแล้วมาถูที่ผิวขนมปังให้ทั่วด้านเดียว จากนั้นนำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาตักวางบนขนมปังแล้วทานกันได้เลย ก่อนทานสามารถโรยชีสลงไปได้ตามความชอบ
BRUSCHETTA

สูตรของ RUSCHETTA ที่เราแนะนำไปในวันนี้เป็นสูตรพื้นฐานที่วัฒนธรรมอาหารอิตาลีนิยมทำกัน แต่เมื่อเดินทางมาถึงไทยเราสามารถปรับให้เป็นเมนูฟิวชั่นด้วยการเพิ่มเป็นบูเชสต้า เห็ดหรือหน้าอื่น ๆ ได้ตามความชอบ และเมนูอาหารอิตาลีเมนูนี้สามารถเป็นได้ทั้งมื้อหลักและอาหารว่างอิตาลีได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

อยากลองทำ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน เองต้องมาเก็บสูตรนี้อยากลองทำ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน เองต้องมาเก็บสูตรนี้

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

เมนูอาหารอิตาลีชื่อดังต้องยกให้กับ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน นั่นเอง วันนี้ใครอยากลองทำเองที่บ้านลองมาเก็บสูตรไปทำกันเลย

เสน่ห์ของ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน คืออะไร

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

เราลองมาทำความรู้จักกับ พิซซ่า อิตาเลี่ยน กันเพิ่มเติมก่อนดีกว่าว่าถ้าคุณอยากจะลองทำเมนูอาหารอิตาลีนี้ด้วยตัวเองคุณควรดึงเสน่ห์จุดไหนของเมนูนี้ออกมาบ้าง ส่วนสำคัญของเมนูนี้ตามแบบฉบับของอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ เลยก็คือตัวแป้งที่เหนียวนุ่มหรือบางกรอบแบบกำลังดี ชีสที่หอม และซอสที่กลมกล่อม เมื่อเข้าใจเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงรักพิซซ่าอิตาเลี่ยนแท้กันแล้วเรามาเริ่มลงทำกันเลยดีกว่า

อยากทำ พิซซ่าอิตาเลี่ยน ต้องเตรียมอะไรบ้าง

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

สำหรับเมนูอย่างพิซซ่าอิตาเลี่ยน นั้นมีวัตถุดิบสำคัญหลายอย่างที่คุณจะขาดไปไม่ได้เลย เราจึงได้ทำการรวบรวมวัตถุดิบพื้นฐานที่ต้องมีเพื่อรังสรรค์เมนูนี้ออกมาให้เป็นพิซซ่าอิตาลีแท้มากที่สุด

  • วัตถุดิบทำแป้งพิซซ่า
    • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
    • ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
    • เกลือ 1 ช้อนชา
    • น้ำตาล 1 ช้อนชา
    • น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำอุ่น 1 ถ้วย
พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน
  • วัตถุดิบทำซอสมะเขือเทศสำหรับหน้าพิซซา
    • มะเขือเทศสุก 3-4 ลูก
    • หอมหัวใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
    • กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
    • เกลือ 1/2 ช้อนชา
    • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำเปล่า ครึ่งแก้ว
    • ใบออริกาโน
    • ชีสมอซซาเรลล่า

วิธีทำพิซซ่าสไตล์อิตาเลี่ยน ให้อร่อยตามแบบฉบับของแท้

เมื่อเตรียมวัตถุดิบหลักเรียบร้อยสำหรับพิซซ่า อิ ตา เลี่ยน แล้วคุณสามารถเพิ่มเติมวัตถุดิบเนื้อสัตว์ได้ตามความชอบ เพื่อทำให้เมนูนี้ตรงกับสไตล์การทานของคุณมากที่สุด เมื่อพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำ PIZZA ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน
  1. เริ่มจากการทำซอสก่อน ด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอก รอให้ร้อนแล้วนำหิมใหญ่กับกระเทียมลงไปผัด
  2. นำมะเขือเทศหั่นแล้วลงไปผัด จากนั้นเติมน้ำเล็กน้อย แล้วเคี่ยวจนข้น เติมเกลือ ใบออริกาโนลงไปเสริม
  3. เมื่อทุกอย่างเข้ากันดียกลงพักไว้เพื่อรอการตกแต่ง
  4. หันมาเริ่มทำแป้งด้วยการนำแป้งใส่ถ้วยผสมแล้วทำให้เป็นหลุมตรงกลาง
  5. ใส่ยีสต์ น้ำตาล ลงในแป้ง คลุกให้เข้ากัน
  6. เติมน้ำมันมะกอกคลุกให้ทั่ว ตามด้วยน้ำอุ่น เมื่อเข้ากันดีแล้วให้นำไปนวดบนแผ่นไม้
  7. เติมเกลือ นวดจนเนียน ปั้นเป็นก้อนกลมให้พลาสติกหรือผ้าชุบนเคลุมไว้ พักไว้ 45 นาที
  8. เมื่อครบเวลาแป้งจะฟูขึ้น นำมาตัดแบ่งเป็นก้อน ใช้มือนวดให้เนียน แล้วปั้นเป็นก้อนกลม
  9. วางแป้งกลมไว้ในถาดให้ห่างกัน พักไว้อีก 1 ชั่วโมงรอแป้งขยายตัว
  10. เมื่อครบเวลานำแป้งมารีดให้หนาบางได้ตามต้องการ จากนั้นเริ่มแต่งหน้าเมนู พิซซ่า อิตาเลี่ยน เรียบร้อยให้นำไปอบที่ 220-240 องศาฯ ไฟบนล่าง ประมาณ 15 นาที พร้อมเสิร์ฟ
พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

แม้ว่า พิซซ่าอิตาเลี่ยนจะผ่านขั้นตอนของการทำแป้งหลายขั้นตอน แต่คุณก็สามารถทำด้วยตัวเองที่บ้านแบบง่าย ๆ ทั้งประหยัดและได้อาหารอิตาลี ง่ายๆ ตามรูปแบบวัฒนธรรมอาหารอิตาลี ใครอยากลองสามารถนำสูตรไปปรับทำอาหารอิตาลี ทำเองเมนูนี้กันได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
โจ๊ก ไก่

มาทำ โจ๊ก ไก่ ไว้ทานในวันสบาย ๆ กันมาทำ โจ๊ก ไก่ ไว้ทานในวันสบาย ๆ กัน

โจ๊ก ไก่

อาหารเช้าหรือไว้ทานในวันที่ต้องการผ่อนคลาย โจ๊ก ไก่ สามารถตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี ลองมาเก็บสูตรไปทำตามกันดีกว่า

โจ๊ก ไก่ มีประโยชน์อะไรบ้าง

โจ๊ก ไก่

เมื่อ โจ๊กไก่ มักเป็นมื้อเช้าหรืออาหารสำหรับคนที่กำลังร่างกายอ่อนแอ แสดงว่าต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย และถ้าคุณกำลังสงสัยว่าโจ๊ก ไก่ ฉีกมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไรบ้าง คำตอบก็คือเมนูนี้สามารถให้โปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบี 12 กับคุณได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าคุณทำโจ๊กด้วยตัวเองยิ่งสามารถเติมคุณค่าได้ตามที่ต้องการอีกด้วย

วัตถุดิบในการทำโจ๊กไก่

ถ้าคุณอยากลองทำโจ๊ก ไก่ ด้วยตัวเองแล้วกำลังอยากรู้ว่าต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง เราได้เตรียมสูตรสำหรับอาหารจีนพื้นบ้านเมนูนี้มาฝากคุณกันแล้ว

โจ๊ก ไก่

วัตถุดิบหลักโจ๊ก ไก่สับ

  • ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า
  • กระเทียมเจียว
  • เนื้ออกไก่ 200 กรัม
  • กระเทียมหมักไก่

วัตุดิบสำหรับการปรุงรสโจ๊กไก่โบราณ

  • รากผักชี
  • พริกไทยเม็ด
  • น้ำมันหอย
  • แมกกี้
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลสำหรับหมักไก่และใส่โจ๊กโบราณ
  • เกลือ
  • ซอสปรุงรส
  • ต้นหอม ผักชี

วิธีทำ โจ๊กไก่

เมื่อวัตถุดิบสำหรับโจ๊ก ไก่เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลามาเริ่มลงมือทำเมนูนี้กันด้วยตัวเอง บอกเลยว่าหลังจากคุณเก็บสูตรนี้ไปใช้คุณจะกลายเป็นคนที่ทำอาหารจีนเป็นเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งเมนู

โจ๊ก ไก่
  1. หุงข้าว แต่ให้เพิ่มน้ำให้มากกว่าปกติเล็กน้อย
  2. ระหว่างหุงให้หมักไก่รอ โดยการใส่กระเทียม พริกไทย รากผักชี ตำให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำมันหอย แมกกี้ น้ำปลา น้ำตาล โขลกให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วนำไก่มาหมักประมาณ 15 นาที
  3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ไก่ลงไป เมื่อสุกนำขึ้นมาพักให้เย็น ฉีกไก่ให้เป็นฝอย และเก็บน้ำต้มไก่เอาไว้
  4. นำข้าวที่สุกมาบี้ให้ละเอียด จากนั้นใส่น้ำซุปต้มไก่ลงไป คนให้เข้ากัน ใส่รากผักชีลงไปต้มจนเดือด สามารถคนจนได้เนื้อที่ต้องการ
  5. เมื่อได้เนื้อที่ต้องการสามารถเริ่มปรุงรสได้ตามความชอบ เรียบร้อยตักใส่ถ้วย วางไก่ฉีก โรยต้นหอมผักชีและกระเทียมเจียวได้ตามความชอบ
โจ๊ก ไก่

เมนูโจ๊กไก่ นั้นทำง่ายมากกว่าที่คิด เรียกได้ว่าเป็นเมนูเร่งด่วนตอนเช้าเลยก็ว่าได้ หรือถ้าอยากเพิ่มเติมให้กลายเป็นโจ๊กเห็ดหอมก็สามารถทำได้ตามที่คุณต้องการ ถือว่าเป็นหนึ่งในเมนูอาหารจีนง่ายๆ ที่แม้จะถือว่าเป็นเมนูอาหารจีนโบราณแต่คุณก็ยังสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มไข่รวมทั้งเนื้อสัตว์อื่น ๆ เข้ามาเพื่อให้มีสารอาหารมากขึ้น หรือจะเพิ่มความอร่อยด้วยการทานคู่กับปาท่องโก๋ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE