ถึงเวลาเข้าครัวไปกับเมนูเนื้อ บุลโกกิ เมนูอาหารเกาหลีที่ใครก็รู้จัก
บุลโกกิ

หลายคนอาจคุ้นชื่อเมนูอย่าง บุลโกกิ กันดี แต่อาจยังไม่รู้จักรายละเอียดของเมนูนี้กันมากนัก วันนี้เราลองมาทำความรู้จักไปพร้อมกับการแกะสูตร ตามล่าวัตถุดิบที่ใช่ที่สุด แล้วทำตามต้นตำรับเอาแบบที่ทานแล้วเหมือนไปทานที่ร้านหรือบินลัดฟ้าไปทานที่เกาหลีกันเลยดีกว่า ใครพร้อมแล้วเรามาเริ่มลุยเมนูเนื้อสุดละมุนเมนูนี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

บุลโกกิ คืออะไร

บุลโกกิ

หลายคนอาจเข้าใจว่า บุล โก กิ เป็นชื่อเรียกเนื้อ แต่ความจริงแล้วเป็นชื่อของเมนูอาหารเกาหลีนั่นเอง ซึ่งว่ากันว่าถ้าใครยังไม่เคยทานอาหารเกาหลีในซีรีส์แล้วได้ลองเมนูนี้กันเข้าไปติดใจจนพร้อมเปิดใจลองเมนูของเกาหลีเมนูอื่น ๆ ง่ายขึ้นกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าถามว่าบุลโกกิ คืออะไร และเนื้อบุลโกกิ คือเนื้อส่วนใดคำตอบก็คือ เนื้อส่วนใดก็ได้ของวัวที่นำมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ แล้วทานคู่กับเมนูต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะข้าวสวยร้อน ๆ ยิ่งทำให้เมนูนี้มาพร้อมความกลมกล่อมที่มากขึ้น

บุลโกกิ

พุลโกกีนั้นเป็นเมนูที่มีอายุกว่า 1,000 ปี บุลโกกิประวัติเริ่มต้นมาจากพื้นที่คาบสมุทรตอนเหนือของเกาหลี และเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของเกาหลีใต้ เป็นรสชาติที่ผสมผสานเครื่องปรุงต่าง ๆ มารวมกันเอาไว้ได้อย่างลงตัว ดังนั้นวันนี้ใครที่อยากลองทำด้วยตัวเองมาเก็บสูตรกันเลย

วัตถุดิบที่ต้องมีในการทำบุลโกกิ

สิ่งที่สำคัญสำหรับเมนูบุลโกกิ ก็คือวัตถุดิบที่มีคุณภาพและสดใหม่ เพราะถ้าไม่พิถีพิถันในส่วนนี้คุณอาจเจอเนื้อเหนียวที่ทำให้เคี้ยวแล้วเสียอารมณ์กันได้ หรือใครไม่ทานเนื้อจะทำเป็นบุลโกกิหมูก็ได้เช่นกัน เพราะหัวใจหลักก็คือการนำมาย่างแล้วผัดซอสบูลโกกิตามสูตรนั่นเอง และวัตถุดิบจะต้องเตรียมอะไรบ้างมาดูกันเลย

บุลโกกิ
  • เนื้อสันแหลม 350 กรัม
  • หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 40 กรัม
  • กระเทียม 6 กลีบ
  • สาลี่หิมะหั่นเต๋า 60 กรัม
  • ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
  • น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • ซอสถั่วเหลือง ⅓ ถ้วย
  • น้ำมันงา 3 ช้อนโต๊ะ
  • หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยว 60 กรัม
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น
  • งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ : คุณสามารถเพิ่มผักสำหรับเสิร์ฟคู่กับเมนูอาหารเกาหลียอดฮิตเมนูนี้กันได้ตามความชอบ และอย่าลืมเตรียมข้าวสวยญี่ปุ่นนุ่ม ๆ ไว้ทานคู่กันด้วย เพื่อความอร่อยตามแบบฉบับดั้งเดิม

วิธีทำบุลโกกิ แบบง่าย ๆ แต่อร่อยแบบเกาหลี

เมื่อเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เรามาถึงขั้นตอนของการเข้าครัวกันแล้ว สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ บุลโกกิออกมาเหมือนต้นตำรับมากที่สุดจะต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาเริ่มทำไปพร้อมกันเลยดีกว่า

บุลโกกิ
  1. ทำการหั่นเนื้อให้เป็นชิ้นตามแนวขวาง แต่ถ้าไปซื้อตามร้านที่มีบริการหั่นให้สามารถแจ้งได้เพื่อลดเวลาในขั้นตอนนี้ และการให้ผู้เชี่ยวชาญหั่นให้ตามแนวเนื้อ ทำให้คุณได้เนื้อที่สัมผัสดีขึ้นได้อีกด้วย
  2. เริ่มใส่หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า กระเทียม สาลี่หิมะหั่นเต๋า ต้นหอมหั่นท่อน น้ำตาลทรายแดง พริกไทยป่น ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันงา ลงในเครื่องปั่น เมื่อใส่ทุกส่วนผสมเข้าไปครบแล้วให้เริ่มปั่นจนทุกอย่างละเอียดกลายเป็นซอส
  3. ซอสที่ปั่นเรียบร้อยแล้วนั้นให้เทลงบนเนื้อที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่หอมที่หั่นแบบเสี้ยวลงไปคลุกให้เข้ากัน หมักทุกส่วนผสมเอาไว้อย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้ซึมซอสและให้ได้รสชาติมากขึ้น
  4. เริ่มตั้งกระทะด้วยไฟกลางไปถึงค่อนข้างแรง ใส่น้ำมันลงไป เมื่อกระทะร้อนได้ที่แล้วเริ่มใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไปผัดจนสังเกตว่าหอมหัวใหญ่สุก และตัวซอสเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้น
  5. เมื่อทุกอย่างนิ่มและสุกตามที่ต้องการก็โรยต้นหอมซอย งาคั่ว ลงไปผัดอีกเล็กน้อยแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟและทานคู่กับผักพร้อมทั้งข้าวสวยร้อน ๆ กันได้เลย ถือว่าจบสูตรเมนู, อาหารเกาหลีง่ายๆที่ไม่ควรพลาดกันแล้ว

ความหมายของเมนู บุลโกกิ

บุลโกกิ

ความจริงแล้วเราอาจคิดว่าบุลโกกิจะต้องเป็นเนื้อวัวเท่านั้น แต่จริง ๆ คุณสามารถใช้เนื้ออะไรก็ได้เพื่อทำเมนูนี้ เพราะในสมัยเริ่มต้นของเมนูนี้เกาหลีจัดว่าเป็นประเทศที่รายล้อมไปด้วยทะเล อาหารส่วนใหญ่จึงเป็นผักและอาหารทะเล พอได้มาทานเนื้อสัตว์สำหรัยสมัยก่อนถือว่าเป็นของแพงและเป็นของคนมีฐานะ จนเมื่อเวลาผ่านไปเนื้อสัตว์อื่น ๆ นอกจากทะเลเข้าถึงง่ายขึ้น เลยมีการปรับปรุงสูตรให้ทำเมนูนี้ได้อย่างหลากหลาย เพราะคำว่าบูลแปลว่าไฟ โกกิแปลว่าเนื้อสัตว์ โดยถ้าคุณเลือกใช้เป็นเนื้อวัว ไก่ หมู ก็สามารถทำได้

บุลโกกิ

ใครที่ชอบเนื้อย่างสไตล์เกาหลีบอกเลยว่าไม่ควรพลาดบุลโกกิกันเด็ดขาด เมนูนี้แม้จะมาพร้อมวัตถุดิบที่เยอะ แต่ก้สามารถทำทุกอย่างได้ง่ายดาย เพราะเพียงแค่นำมาปั่นรวมกันก็สามารถเป็นซอสเพื่อปรุงรสเมนูนี้ได้อย่างลงตัวกันแล้วนั่นเอง ถ้าอยากเพิ่มวิตามินและเกลือแร่เมื่อทานเมนูนี้อย่าลืมเพิ่มผักเข้าไปทานด้วย โดยอาจปรับให้ทานง่ายขึ้นด้วยการนำผักอย่างกำหล่ำปลี แครรอท ลงไปผักกับเนื้อเลยเพื่อให้ซอสซึมเข้าผักและเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ: