หมวดหมู่: อาหารไทย

เมนูไทยโบราณที่นำความโดดเด่นของวัตถุดิบอย่างสายบัว มาผสมรวมกับเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้ได้รสชาติที่อร่อยติดใจจนกลายมาเป็น ต้มกะทิ สายบัว เมนูที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ใครที่อยากลองทำเมนูไทย ๆ ด้วยตัวเอง บอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะเก็บสูตรนี้ไปเข้าครัวและทำกินกัน 

ทำไมถึงต้องเป็น ต้มกะทิ สายบัว

ท่ามกลางวัตถุดิบที่มีให้เลือกหลากหลาย ทำไม ต้มกะทิสายบัว ถึงเลือกใช้สายบัวเข้ามาเป็นวัตถุดิบสำคัญ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าสายบัวนั้นมีความสามารถในการดูดซึมน้ำได้ดีนั่นเอง ดังนั้นเมื่อนำมาทำแกงสายบัวก็จะดูดซึมน้ำแกงได้ดี เมื่อใครได้กินวัตถุดิบนี้เข้าไปก็จะรสชาติน้ำแกงที่อร่อยครบรสแบบเข้มข้น และต้ม สายบัวยังเป็นส่วนผสมที่ลงตัว กะทิสามารถเข้ากันได้ดีกับสายบัวอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งเพิ่มเติมเป็นแกง สายบัว ใส่ ปลา ทูใครได้กินต้องแปลกใจกับสิ่งที่ดูไม่เข้ากัน แต่รวมกันแล้วคว้าใจคนกินเอาไว้ได้ทุกราย

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับ ต้มกะทิ สายบัว

เมื่อต้องการทำเมนูต้มกะทิ สายบัว คุณห้ามพลาดที่จะเตรียมอะไรบ้าง เรามาสนุกไปกับการจ่ายตลาด เพื่อตามหาวัตถุดิบมาทำอาหาร ไทยเมนูนี้ให้สมบูรณ์ไปพร้อมกันดีกว่า

• วัตถุดิบในการทำแกง สายบัว
  • สายบัวลอกเปลือกออก 300 กรัม หักเป็นท่อน
  • ปลาทูนึ่ง 4 ตัว เอาแต่เนื้อ
  • น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • หางกะทิ 1 ½ ถ้วย
  • หอมแดง 5-6 หัว
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ คั้นข้น

วิธีทำต้มกะทิ สายบัว ตามสูตรโบราณ

เมื่อเตรียมวัตถุดิบของ ต้มกะทิสายบัว กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มเข้าสู่วิธี แกง สายบัว ใส่ ปลา ทูกันดีกว่าว่าต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อให้ออกมาเป็นเมนู อาหาร ไทยตามแบบฉบับ ที่อร่อยได้ในสไตล์ของคุณ

1. เริ่มจากการโขลกหอมแดงให้พอละเอียด จากนั้นใส่พริกไทยเม็ดลงไปโขลกให้พอเข้ากัน แล้วใส่กะปิ โขลกต่อให้ละเอียดดีในทุกส่วนผสม
2. นำหางกะทิใส่ลงไปในหม้อจากนั้นเอาขึ้นตั้งไฟ แล้วนำน้ำพริกแกงที่ตำไว้แล้วใส่ลงไป คนให้ละลาย แล้วรอให้เดือด จนมีกลิ่นหอม
3. ใส่สายบัวลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ และน้ำมะขามเปียก คนให้น้ำตาลละลาย และสายบัวเริ่มนิ่มลง
4. สุดท้ายให้ใส่ปลาทูแกะแล้วลงไป ตามด้วยหัวกะทิลงไป คนเบา ๆ กันเนื้อปลาทูแตก ให้เข้ากัน จากนั้นก็สามารถตักเสิร์ฟ พร้อมกินกันได้เลย

เทคนิคพิเศษสำหรับเมนู ต้มกะทิสายบัว

เนื่องจากต้มกะทิ สายบัวเป็นเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมย่อมมาพร้อมเทคนิคเฉพาะตัวที่น่าสนใจ ใครเจอปัญหาแบบไหนมาเก็บข้อมูลส่วนนี้ไปปรับให้แกงถ้วยนี้ของคุณอร่อยมากขึ้นกันดีกว่า

• เทคนิคการต้มสายบัวไม่ให้ดำ

เมื่อเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบย่อมมาพร้อมสิ่งที่แปลกตาที่คนต่างชาติไม่เคยเห็น แต่บางครั้งต้มไปต้มมาสายบัวอาจดำไม่น่ากิน ดังนั้นให้คุณนำสายบัวมาล้างน้ำสะอาด ลอกเปลือก หั่นเป็นท่อน และแกะใยที่เกาะอยู่บนสายบัวออกให้หมด จากนั้นนำสายบัวไปแช่ในน้ำที่ผสมเกลือไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สายบัวมีสีที่คล้ำจนดูไม่น่ากินเมื่อนำไปปรุงอาหาร

• เทคนิคการเลือกปลาทูให้สดใหม่

วิธีเลือกปลาทูสดที่ดีมีคุณภาพ จะต้องเลือกปลาทูสดที่ลูกตามีความนูน ตาดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวจะมีสีเขียวเป็นพื้น ส่วนท้องจะมีสีขาวหรือสีเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวมีเมือกลื่น ๆ เหงือกมีสีแดงออกชมพู ดมแล้วตัวปลาไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น จุดที่ง่ายที่สุดคือการลองใช้นิ้วกดที่กลางลำตัวแล้วปล่อยนิ้วออก ถ้ารอยยุบจะกลับคืนสภาพเดิมได้หมดแสดงว่าปลายังสดใหม่น่ากินอยู่

วันนี้เราได้รู้จักกับ ต้มกะทิสายบัว ที่เป็นอาหาร ไทย ยอด นิยมกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกเลยว่าเมนูนี้ทำไม่ยาก แต่อาจต้องตามหาวัตถุดิบอย่างสายบัวในตลาดท้องถิ่นกันหน่อย แต่ถ้าได้มารับรองว่าทำแล้วจะเป็นเมนูที่สร้างความประทับใจให้กับทั้งคนทำ และคนกินอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

• ต้มข่า ไก่ หัวปลี เมนูลื่นคอที่คุณก็ทำเองได้
• ต้มซั่วไก่บ้าน เมนูอาหารลาวรสแซบ น้ำซดนัว ๆ

จุดเด่นของเมนูอย่าง ฉู่ฉี่ปลาทู คือ ความเข้มข้นของเครื่องแกง ที่ราดมาแล้วลงตัวกับเนื้อของปลาทูสด ๆ ที่เราตั้งใจคัดสรรมา เมนูนี้ทำให้มื้ออาหารสมบูรณ์ขึ้น มีน้ำแกงแบบขลุกขลิก คลุกข้าวสวยร้อน ๆ เพิ่มความอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อ ใครอยากลองทำเองวันนี้มาเก็บสูตรกัน

ประวัติของเมนู ฉู่ฉี่ปลาทู

ฉูฉี่นั้นเป็นแกงที่อยู่คู่กับความเป็นอาหาร ไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีการเลือกใช้เนื้อสัตว์หลายชนิด หนึ่งในประเภทของเนื้อสัตว์ที่คนไทยนิยมที่สุดคือ ฉู่ฉี่ ปลาทู นั่นเอง เพราะมาพร้อมรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัวมีเอกลักษณ์ หากินยากในต่างประเทศ ทำให้เมื่อคนต่างชาติเดินทางมาจะมีเมนูเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบกันเสมอ โดยปลาทูนั้นนอกจากทำเมนูนี้ได้ยังสามารถนำไปต้มผัดแกงทอดได้หลากหลายอีกด้วย

วัตถุดิบสำหรับเมนู ฉู่ฉี่ปลาทู

หนึ่งในเคล็ดลับความอร่อยของ เมนูฉู่ฉี่ปลาทู คือการที่คุณได้เตรียมวัตถุดิบที่สดใหม่ เครื่องแกงที่กลมกล่อม ดังนั้นขั้นตอนของการเตรียมแกงฉู่ฉี่ปลาทูนึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กับขั้นตอนของการลงมือทำเลยทีเดียว

• วัตถุดิบสำหรับฉู่ฉี่ปลาทู
  • ปลาทูสด 2-3 ตัว
  • หัวกะทิ 3-4 ถ้วย 
  • ใบมะกรูด 2 ใบ 
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 4 ใบ ไว้สำหรับโรยหน้า 
  • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด 
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 57 กรัม
  • หัวกะทิ ไว้สำหรับโรยหน้า

วิธีทำฉู่ฉี่ปลาทู

เมื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับฉู่ฉี่ปลาทูเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มลงมือทำเพื่อให้ทันมื้ออาหารกันดีกว่า บอกเลยว่าเป็นเมนูอาหาร ไทย ยอด นิยมที่สามารถมัดใจใครได้หลายคนอย่างแน่นอน

1. นำปลาทูมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด ให้ดึงเหงือกและไส้ทิ้ง จากนั้นให้ล้างน้ำเปล่าอีกรอบ ทำการบั้งปลาไว้ เพื่อให้น้ำแกงฉู่ฉี่ ปลา ทูซึมเข้าไปในเนื้อปลาได้ง่าย และอร่อยมากขึ้น
2. ตั้งกระทะ เปิดไฟกลางถึงอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป รอจนน้ำมันเดือดจึงใส่น้ำพริกแกงลงไป ผัดไปเรื่อย ๆ จนหอม 
3. ใส่หัวกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง ผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน จากนั้นให้ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ตามด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ผัดให้เข้ากัน (สามารถใช้น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดงแทนน้ำตาลปี๊บได้)
4. ผัดจนกะทิเริ่มแตกมันอีกครั้ง ให้ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยหางกะทิครึ่งหนึ่ง ผัดไปเรื่อย ๆ และเปิดไฟให้แรงขึ้น จากนั้นรอจนส่วนผสมเริ่มเดือด
5. เมื่อเครื่องแกงเริ่มเดือดแล้วให้ใส่ปลาทูสดลงไป จากนั้นให้ลดเป็นไฟอ่อน
6. ใช้ทัพพีตักน้ำแกงค่อย ๆ ราดตัวปลาให้ทั่ว 
7. ใส่หางกะทิลงไปขอบ ๆ ให้ทั่วกระทะ เพื่อให้กระทะไม่แห้ง จากนั้นให้ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที
8. เมื่อครบเวลาเปิดฝาแล้วเคี่ยวต่ออีก 3-5 นาที เพื่อให้น้ำแกงงวด จากนั้นให้ตักน้ำแกงราดบนตัวปลาอีกรอบ ขั้นตอนนี้จะทำให้น้ำแกงเกาะตัวปลาได้ดีมากขึ้น
9. เมื่อทุกขั้นตอนเรียบร้อยให้โรยหน้าด้วยใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้าแดงลงไป หลังจากนั้นตักฉู่ฉี่ปลาทูใส่กะทิใส่จานพร้อมเสิร์ฟ และกินกับข้าวสวยหอมมะลิร้อน ๆ กันได้เลย รับรองว่าอร่อยแน่นอน

ประโยชน์แบบจัดเต็มของ ฉู่ฉี่ปลาทู

เมื่อเลือกทำและกินฉู่ฉี่ปลาทู มีประโยชน์อะไรเตรียมไว้ให้คุณบ้าง วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงประโยชน์ของปลาทูที่สามารถทำให้เมนู อาหาร ไทยจานนี้ของคุณทั้งอร่อย และได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน

• โปรตีนสูง

เนื้อของปลาทูมีโปรตีนมากมาย โดยปลาทู 100 กรัม จะมีโปรตีนอยู่ถึง 24.9 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้เมนูฉู่ฉี่ปลาทูโบราณเหมาะกินทั้งเด็กและผู้ใหญ่

• ช่วยบำรุงประสาทและสมอง

ในปลาทูนั้นมีทั้งไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 ไอโอดีน และกรดไขมัน DHA ช่วยในเรื่องความจำ การพัฒนาระบบประสาทและสมอง บำรุงสายตา ยิ่งกินฉู่ฉี่ ปลา ทู สดบ่อย ๆ ยิ่งดีกับสุขภาพ

ฉู่ฉี่ปลาทูเป็นเมนูที่มาพร้อมรสชาติกินง่าย อร่อย ลงตัว มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน แถมวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูนั้นยังมาพร้อมประโยชน์ที่ดีกับร่างกาย ไม่มีเหตุผลไหนที่คุณจะพลาดการนำสูตรวันนี้ไปเข้าครัวทำกินกันแล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

• กระเพาะปลาน้ำแดง สูตรเด็ดบอกต่อเคล็ดลับอร่อยระดับภัตตาคาร
• แจกสูตร ทอดมันปลากราย พร้อมวิธีทำง่าย ๆ ที่ใครทำก็อร่อย 

พูดถึง ไข่พะโล้ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักกันทั้งนั้น แต่ไปกินที่ร้านได้ไข่ไม่จุใจ เนื้อหมู หรือขาหมูเองก็ไม่เพียงพอ ปัญหานี้แก้ได้ง่าย ๆ คือการเข้าครัวทำเมนูนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งบอกเลยว่าเมนูนี้นั้นทำแล้วกินได้หลายมื้อ อิ่มอร่อยฟินกันได้ทั้งบ้านแบบง่าย ๆ แถมยังเป็นอาหาร ไทย ยอด นิยมที่ทั้งอร่อย ทำง่าย ยกให้เป็นสูตรเด็ดประจำครัวไทยที่คุณไม่ควรพลาด

ที่มาของเมนู ไข่พะโล้

ก่อนที่จะเริ่มลงลึกถึงวัตถุดิบและสูตรของเมนูอย่าง ไข่ พะโล้ นั้น เรามาทำความรู้จักกับไข่ พะโล้ให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า โดยเมนูนี้ความจริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ก่อนไทยของเราจะได้รับอิทธิพลส่งต่อกันจนกลายเป็นพะโล้ ขา หมูที่นิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของเมนูในตอนนี้ ซึ่งในภาษาจีนฮกเกี้ยนเองก็ยังเรียกเมนูนี้ว่า ผะโหล่ หรือผะโหล้ ที่หมายถึงขั้นตอนของการทำเมนูพะโล้นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทำการผสมผสายวัฒนธรรมทางอาหารออกมาได้อย่างลงตัวเมนูหนึ่งเลยทีเดียว

วัตถุดิบสำหรับการทำเมนู ไข่พะโล้

เรามาเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมสำหรับการเข้าครัวทำไข่พะโล้ กันดีกว่า อาหาร ไทยเมนูนี้วัตถุดิบหาไม่ยาก ส่วนใหญ่หาได้จากในครัวที่มี และอาจต้องออกไปซื้อของสดมาใส่เพื่อความสดใหม่กันบ้าง แต่รับรองว่าทำแล้วเก็บเอาไว้กินกันได้นานอย่างแน่นอน

• วัตถุดิบสำหรับเมนูพะโล้ หมูสามชั้น
  • ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 10 ฟอง
  • น้ำตาลปีบ 3-4 ช้อน
  • ซีอิ้วดำหวาน 2 ช้อน
  • หมูสามชั้น ½ กิโลกรัม
  • พริกไทย 15-20 เม็ด
  • รากผักชี 3-4 ต้น
  • กระเทียม 10-15 กลีบ
  • น้ำมัน 1-2 ช้อน
  • ซี้อิ้วขาว 4-5 ช้อน
  • ผงปรุงรสหมู 1 ช้อน
  • เกลือ 1 ช้อน

หมายเหตุ : ปริมาณวัตถุดิบในสูตรนี้เหมาะกับการกิน 5-6 คน คุณสามารถเพิ่มลดปริมาณได้ตามความต้องการกันได้เลย แต่ถ้าทำในปริมาณที่เยอะ แนะนำแบ่งใส่กล่องไว้แล้วแช่แข็ง เพื่อนำมากินในครั้งต่อไปได้

วิธีทำไข่พะโล้ ให้อร่อยครบเครื่อง

มาถึงช่วงที่ทุกคนที่เป็นสาวกไข่พะโล้รอคอยกันแล้วนั่นก็คือ วิธี ทํา ไข่ พะโล้ ง่ายๆ แต่ได้รสชาติแสนอร่อยเหมือนกินที่ร้าน ใครที่พร้อมแล้วเรามาเริ่มเข้าครัวต้ม พะโล้ไปพร้อมกันเลย

1. วิธี ทำ ไข่ พะโล้อย่างแรกคือนำไข่มาล้างเปลือกให้สะอาด แล้วนำไปต้ม 10 นาที ช่วงที่ต้มให้ใส่เกลือลงไปด้วย 1 ช้อน เพื่อจะได้ปอกเปลือกง่ายขึ้น เมื่อครบ 10 นาที ให้เทน้ำออกแล้วนำไข่ไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำเย็น เมื่อไข่เย็นแล้วค่อย ๆ แกะเปลือกออก จากนั้นทำการพักรอเอาไว้
2. นำเอาหมูสามชั้นมาล้างให้สะอาด หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเป็นลูกเต๋า แนะนำให้หนาหน่อย เพราะเวลาต้มแล้วเนื้อหมูจะหดลงอีก ถ้าหั่นเล็กไปอาจทำให้ดูไม่น่ากิน ซึ่งเป็นวิธี ทำ พะโล้ที่ต้องไม่พลาด
3. นำพริกไทย กระเทียม รากผักชี มาตำรวมกัน ตำทุกส่วนผสมจนละเอียด กลายเป็นสามเกลออย่างที่นิยมเรียก เพราะส่วนผสมเหล่านี้มักต้องไปด้วยกัน ช่วยเพิ่มรสชาติให้เมนูต่าง ๆ ได้ดี
4. เริ่มตั้งหม้อต้ม จากนั้นใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนให้เอาสามเกลอลงไปผัดให้หอม
5. เมื่อสามเกลอหอมให้เติมน้ำตาลลงไป สามารถเติมทีละน้อยเพื่อป้องกันความหวานที่อาจมากไป จากนั้นค่อย ๆ ผัดโดยการใช้ไฟอ่อน ให้สังเกตว่าน้ำตาลเริ่มละลายและเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสวยงาม
6. จากนั้นนำหมูสามชั้นที่หั่นเตรียมไว้ลงไปผัดจนหมูเริ่มสุก
7. ค่อย ๆ เติมนำลงไปให้ท่วมหมู จากนั้นเปิดไฟกลาง ต้มต่อ 1 ชั่วโมง เพื่อให้หมูนุ่มมากขึ้น
8. ใส่ไข่ลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ผงปรุงรส ถ้าสียังไม่เข้ม สามารถเติมซีอิ้วดำลงไปเล็กน้อยได้ แล้วต้มต่ออีกครึ่งชั่วโมง เมื่อครบเวลาชิมรสชาติและสามารถเพิ่มเติมได้ตามความชอบ

สำหรับไข่พะโล้ นอกจากจะเป็นเมนู อาหาร ไทยยอดนิยมแล้ว ยังเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบอีกด้วย เพราะว่ารสชาติกินง่าย ไม่เผ็ด เมนูนี้จึงกลายเป็นเมนูแนะนำเมื่อคนต่างชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทย แถมคนไทยเองก็นิยมเมนูนี้เป็นอย่างมาก ไม่แพ้กัน

อ่านบทความอื่นๆ:

• น้ำพริกหนุ่ม อาหารพื้นบ้านขึ้นชื่อของทางภาคเหนือ 
• เผยเคล็ดลับ วิธีทำ โจ๊ก ไก่ สูตรโบราณ อร่อยกลมกล่อม ส่งตรงจากแดนมังกร 

การได้เข้าครัวทำอาหารเองบอกเลยว่าทำให้คุณได้ปริมาณของอาหารที่จุใจ จัดเต็ม กว่าการไปกินที่ร้านอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยขออาสามาแนะนำเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คนที่เมื่อไปกินข้าวที่ร้านทีไรต้องสั่งทุกทีอย่าง ทอดมันกุ้ง เมนูนี้จะต้องเตรียมอะไรบ้าง และมีสูตรการทำอย่างไร มาเข้าครัวไปพร้อมกันเลยดีกว่า

ที่มาของเมนูดัง ทอดมันกุ้ง

ถึงแม้ว่า ทอดมัน กุ้ง จะเป็นเมนูที่แทบทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ที่มาของเมนู อาหาร ไทยเมนูนี้อย่างแน่นอน โดยเมนูนี้จริง ๆ แล้วได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีน เป็นอาหารที่ทั้งคนไทยและคนจีนนิยมกินกันอย่างแพร่หลาย เพราะเนื้อกุ้งนั้นมาพร้อมความหวานในตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความอร่อย มีโปรตีน โดยยังเป็นการผสมผสานหลากหลายวัตถุดิบเข้าด้วยกัน ทอดด้วยเทคนิคที่เข้าใจวัตถุดิบ ทำให้กลายมาเป็นเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมอย่างทุกวันนี้นั่นเอง

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมเพื่อทำ ทอดมันกุ้ง

เรามาดูกันว่าถ้าต้องการทำทอดมันกุ้งนั้นมีอะไรบ้างที่คุณต้องเตรียมพร้อม ให้จานนี้ออกมาเป็นทอดมัน กุ้งที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมแล้วเรามาเริ่มจดรายการวัตถุดิบ เพื่อให้เข้าครัวในขั้นตอนถัดไปกันได้เลย

• วัตถุดิบสำหรับการทำทอดมันกุ้ง
  • กุ้งแกะเปลือก ½ กิโลกรัม
  • มันหมูสับ 50 กรัม
  • ไข่ขาว 1 ฟอง
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา ½ ช้อนชา
  • เหล้าเฉาชิง 1 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น เล็กน้อย
  • เกล็ดขนมปังป่น 1 ถ้วย
  • น้ำมันสำหรับทอด

เทคนิควิธีการทำทอดมันกุ้ง

เมื่อทำการเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำ ทอดมัน กุ้ง เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเข้าสู่ขั้นตอนของวิธี ทำ ทอดมัน กุ้งกันต่อได้เลย เมนูนี้อาจต้องใช้เวลาในการเตรียมก่อนทอดเล็กน้อย ดังนั้นอย่าลืมเผื่อเวลาเอาไว้ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับวันที่เร่งรีบ แต่เหมาะกับการเป็นเมนูที่ให้คุณได้ใช้เวลาสนุกไปกับการทำครัวมากกว่า

1. สับเนื้อกุ้งผสมกับมันหมู และนำส่วนผสมอื่น ๆ มาผสมให้เข้ากัน ยกเว้นเกล็ดขนมปัง นวดให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วไปให้นำไปแช่ในตู้เย็นเอาไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
2. เมื่อครบเวลานำส่วนผสมเหล่านั้นกลับมานวดอีกครั้ง
3. หลังจากนวดครั้งที่สองและเห็นความคลายตัวของส่วนผสมแล้วให้นำมาปั้นเป็นชิ้นกลม ๆ และทำการคลุกกับเกล็ดขนมปังให้ทั่ว ต้องระวังไม่ให้เป็นชิ้นหนาหรือใหญ่จนเกินไป เพราะอาจทำให้สุกไม่ทั่วถึง
4. ตั้งกระทะที่ไฟกลาง เทน้ำมันโดยกะให้ท่วมตัวทอดมันเมื่อนำลงไปทอด เมื่อน้ำมันร้อนค่อย ๆ ใส่ทอดมันที่เตรียมเอาไว้ลงไป ทอดจนเหลืองกรอบทั่วชิ้นตามแบบฉบับทอดมัน กุ้ง สูตร โบราณ จากนั้นนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
5. เมื่อสะเด็ดน้ำมันแล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวหวาน เพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนี้ และจะกินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ก็เข้ากันได้ดีเช่นเดียวกัน

เคล็ดลับของการทอด ทอดมันกุ้งให้กรอบอร่อย

ถือว่าทอดมันกุ้ง เป็นเมนูที่เตรียมของไม่ยาก และทำไม่ยากเช่นเดียวกัน แต่ก็มาพร้อมกับเคล็ดลับเพิ่มความอร่อยสำหรับวิธี ทํา ทอดมัน กุ้ง ง่ายๆ ที่ถ้ารู้ไว้จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเนื้อสัมผัสของเมนูนี้ได้อย่างแน่นอน ต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาดูเคล็ดลับของอาหาร ไทยจานนี้กัน

• อยากให้ได้สัมผัสเนื้อกุ้งแน่น เต็มคำ เวลานวดต้องนวดนาน ๆ ให้รู้สึกได้ว่าเนื้อกุ้งเริ่มเหนียวติดมือ
• เมนูนี้เป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ เพราะอีกหนึ่งเทคนิคของการทำให้เนื้อกุ้งแน่นอนคือ ตอนที่ตักเนื้อกุ้งมาชุบเกล็ดขนมปังนั้นให้ใช้ช้อนตักเนื้อกุ้ง ตบให้เป็นก้อนกลม แล้วค่อยวางลงบนเกล็ดขนมปังเพื่อคลุกให้ทั่ว แบบนี้จะช่วยลดเนื้อกุ้งเหนียวติดมือได้
• แนะนำให้ทำปั้นเป็นทรงโดนัท โดยมใช้นิ้วจิ้มลงตรงกลาง เพื่อให้เกิดรอยบุ๋มเล็กน้อย ค่อยเอาลงทอด นอกจากจะช่วยให้สุกทั่วถึงขึ้นแล้ว ยังทำให้ได้ทรงน่ารักน่ากินอีกด้วย

ต้องยกให้ทอดมันกุ้งเป็นอาหาร ไทย ยอด นิยมเพราะทั้งคนไทย คนต่างชาติคนไหนที่ได้ลองก็ต้องติดใจกับความกรอบนอกนุ่มใน และลงตัวกับน้ำจิ้มบ๊วย ใครอยากได้เนื้อกุ้ง มันหมู แบบจุใจ ไม่ต้องแย่งกันกินเหมือนที่ร้าน รีบเอาสูตรนี้ไปเข้าครัวทำกันเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

• สูตรเด็ดวิธีทำ กุ้งทอดซอสมะขาม ให้อร่อยเหมือนร้านอาหาร
• ผัดไทยกุ้งสด คนต่างชาติยังต้องยกนิ้ว อาหารไทยที่พลาดไม่ได้

สำหรับเมนูอย่าง แกงส้มชะอมกุ้ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเมนูโปรดของหลาย ๆ คน ที่มาพร้อมรสชาติกลมกล่อมตามสไตล์คนไทย ซึ่งเมนูนี้สามารถทำเองได้ไม่ยาก แต่ต้องเตรียมวัตถุดิบ และเข้าใจวิธีทำให้ชัดเจน วันนี้เราได้เตรียมสูตรเด็ดของเมนูนี้มาฝาก รับรองว่าทำง่าย อร่อยติดใจกันอย่างแน่นอน

เสน่ห์ของเมนู แกงส้มชะอมกุ้ง

แกงส้ม ชะอมกุ้ง นั้นเป็นเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมที่มาพร้อมเส้นใยสูงจากผักสารพัดชนิด และยังให้พลังงานได้สูงจากชะอมทอดอีกด้วย ใครเจอน้ำพริกของแกงส้มแบบเข้มข้นบอกเลยว่าเมื่อนำมาทำจะได้รสชาติที่เปรี้ยวหวานอย่างลงตัว จากส่วนผสมหลักอย่างมะขามเปียก เพิ่มกุ้งสด ๆ เข้าไปยิ่งเข้ากัน กินพร้อมขาวสวย บอกเลยว่าไม่มีใครไม่ติดใจรสชาติของแกงชามนี้กันอย่างแน่นอน

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับ แกงส้มชะอมกุ้ง

ก่อนที่จะเริ่มเข้าครัวไปทำแกงส้มชะอมกุ้ง เราต้องมาเตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนู อาหาร ไทยเมนูนี้กันก่อน ซึ่งบอกเลยว่าเตรียมไม่ยาก เน้นความเป็นธรรมชาติและสดใหม่เข้าไว้ จะทำให้ผลลัพธ์ออกมากลมกล่อมถึงใจ เก็บไว้ราดข้าวได้อร่อยหลายมื้อแน่นอน

• วัตถุดิบน้ำพริกแกงส้ม
  • พริกแห้ง 12-15 เม็ด
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • หอมแดง 5 หัวเล็ก
  • กระเทียมกลีบ 6 กลีบ
  • กระชาย 3 ราก
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • เนื้อปลาต้มสุก 1 ถ้วย ประมาณ 150 กรัม

• วัตถุดิบทำแกงส้ม ชะอม กุ้ง
  • กุ้งสดขนาดกลาง 8-10 ตัว ทำความสะอาดและปอกเปลือกให้เรียบร้อย
  • ชะอม 1 ขีด เด็ดใบใช้ทำไข่เจียวชะอม
  • ผักกาดหรือผักอื่น ๆ ตามความชอบจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • พริกแกงส้ม 1 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ แกงส้มชะอมกุ้ง

มาถึงขั้นตอนของการทำ แกงส้ม ชะอมกุ้ง กันแล้ว เมื่อเตรียมวัตถุดิบ พร้อมทั้งแกะเปลือก หั่น ล้าง เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มขั้นตอนการทำเพื่อให้ได้แกงส้ม ชะอม ทอดที่อร่อยถูกปากคุณที่สุดดีกว่า

• วิธีทำน้ำพริกของแกงส้ม

1. เด็ดขั้วพริกแห้ง หั่นพริก หอมแดง กระเทียม กระชายให้เป็นชิ้นหยาบ ๆ เตรียมไว้
2. นำปลาไปลวกในน้ำร้อนให้สุก จากนั้นแกะเอาแต่เนื้อ และเอาก้างออกให้หมด
3. ใส่พริก หอมแดง กระเทียม กระชายซอยหยาบ เกลือป่น โขลกให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ เนื้อปลาสุก โขลกให้เข้ากัน จากนั้นพักส่วนพริกแกงทิ้งเอาไว้

• วิธีทำไข่เจียวชะอม

1. ล้างชะอมให้สะอาด เด็ดเอาแต่ใบอ่อน จากนั้นหั่นให้มีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว
2. ตอกไข่ไก่ใส่ในชาม ตีให้เข้ากัน ใส่ชะอม เติมน้ำมะนาว น้ำปลา เกลือป่นเล็กน้อย คนต่ออีกครั้งจนผสมกันดี
3. ใส่น้ำมันตั้งไฟพอร้อน เทไข่ลงในกระทะ ทอดไข่ชะอมให้เป็นแผ่นเหลืองทั้ง 2 ด้าน พอไข่สุก นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำเตรียมไว้

• วิธีทำแกงส้ม ชะอม ไข่

1. ใช้หม้อต้มน้ำ รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่น้ำพริกแกงส้มแล้วคนให้ทั่ว รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขาม เกลือป่น และน้ำตาล คนให้เข้ากัน ชิมรสให้มีรสเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตาม
2. จากนั้นใส่ผักกาดขาว หรือใส่ผักชนิดอื่น ๆ ลงไปตามชอบ
3. เติมกุ้งสดลงไปในขณะน้ำแกงเดือด พอกุ้งใกล้สุกให้ใส่ไข่เจียวชะอมทอดที่หั่นเตรียมไว้ลงไป รอกุ้งสุกปิดไฟ เติมน้ำมะนาวเพิ่มได้ถ้าชอบเปรี้ยว และยังสามารถปรุงรสได้ตามต้องการ จากนั้นตักใส่ชามพร้อมกินคู่ข้าวสวยร้อน ๆ กันได้เลย

วันนี้ได้ สูตรแกงส้มชะอมกุ้ง กันไปแล้ว เรายังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับเมนูแกงส้ม ชะอมมาฝากกันนั่นคือ ปลาที่ใช้ทำพริกแกงต้องล้างสะอาด ลวกสุดเพื่อป้องกันกลิ่นคาว และถ้าใครชอบแกงส้มข้น ๆ เติมเนื้อปลาหรือกุ้งลงในพริกแกงได้ โดยที่เนื้อที่จะใส่ในพริกแกงหรือแกงต้องสดเท่านั้น ปิดท้ายที่ต้องทอดชะอมให้กรอบ เพื่อให้หอม ดูดซับน้ำได้ดี ทำให้ชามนี้เป็นอาหาร ไทยที่จัดได้ว่าเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบกันได้เลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

• มาเข้าครัวทำเมนูเด็ดอย่าง แกงส้มแป๊ะซะ กัน
• แกงส้ม ผัก เมนูกับข้าวที่ทุกบ้านคุ้นชิน

หมึกผัดไข่เค็ม เป็นเมนูที่เอาเนื้อปลาหมึกหวานนุ่ม มาปรุงรสกับไข่เค็มและเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้มีรสชาติที่ละมุน มัน หอม ได้อย่างลงตัว กินคู่ข้าวสวยร้อน ๆ บอกเลยว่าทำให้หลายคนมีความสุขมากนักต่อนักแล้ว วันนี้เรามาแกะสูตรเด็ด เพื่อทำกินเองที่บ้านให้จุใจกันดีกว่า

ที่มาของเมนู หมึกผัดไข่เค็ม

สำหรับเมนูอย่าง หมึก ผัดไข่เค็ม นั้นเป็นเมนูที่พัฒนามาจากอาหารจีน ซึ่งเกิดจากการเลือกใช้ไข่เค็มมาแทนผงกะหรี่ เพราะบางคนอาจไม่ชอบกลิ่นของเครื่องเทศผงกะหรี่นั่นเอง โดยหมึก ผัด ไข่เค็มก็สามารถให้ความละมุน มันกำลังดีกับคนกินได้ เพราะไข่แดงเค็มนั้นให้รสชาติมันเค็มอย่างเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มเติมความเผ็ดกลมกล่อมได้ และลงตัวกับเนื้อปลาหมึกสดมากที่สุด จนกลายเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบอีกด้วย

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมเพื่อเมนู หมึกผัดไข่เค็ม

ถ้าต้องการทำเมนูหมึกผัดไข่เค็มให้ออกมาอร่อยสมใจ เรื่องของการเตรียมวัตถุดิบก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะความสดใหม่ของวัตถุดิบ เมื่อมาเจอกับวิธีการทำปลาหมึก ผัด ไข่เค็มที่ถูกต้อง จะกลายเป็นเมนูอาหาร ไทย ยอด นิยมได้ไม่ยากอย่างแน่นอน

• วัตถุดิบผัด ไข่เค็ม
  • ไข่แดงเค็ม 4 ฟอง
  • ไข่เค็มหั่นชิ้น 1 ฟอง
  • น้ำเปล่า ⅓ ถ้วย
  • พริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาหมึกหั่นแว่น 350 กรัม
  • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น
  • ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้น สำหรับตกแต่ง
  • น้ำมันพืช สำหรับผัด

วิธีทำหมึกผัดไข่เค็ม

เมื่อเตรียมวัตถุดิบ หมึกผัด ไข่เค็ม เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องมาเข้าครัวเริ่มลงมือทำตามสูตร หมึก ผัด ไข่เค็มที่จัดว่าเป็นสูตรเด็ดระดับภัตตาคารกันแล้ว

1. เริ่มจากการทำซอสไข่เค็มก่อน ให้คุณใส่ไข่แดงเค็มลงในถ้วย ตามด้วยน้ำเปล่า บดพอเข้ากัน จากนั้นใส่พริกเผา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย คนให้ทุกส่วนผสมเข้ากันแล้วพักรอไว้
2. เข้าสู่ขั้นตอนการผัดปลาหมึก ด้วยการตั้งกระทะบนเตา ใช้ไฟกลาง พอกระทะร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ ผัดจนพอเหลืองหอม แล้วใส่ไข่แดงบดที่เตรียมไว้ลงไปผัด ตามด้วยปลาหมึกหั่นแว่น ไข่เค็มหั่นชิ้น ผัดจนปลาหมึกสุก และไข่แดงเค็มเคลือบปลาหมึกจนทั่ว
3. เมื่อทุกส่วนผสมเข้ากับจนไข่แดงเค็มเคลือบปลาหมึกแล้วให้ใส่ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และพริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากัน แล้วตักขึ้นจัดใส่จาน โรยตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดงเพื่อตกแต่งตามที่ชอบ จากนั้นก็พร้อมอร่อยไปกับผัด ปลาหมึก ไข่เค็มกันแล้ว

ประโยชน์ที่ได้จากเมนู หมึกผัดไข่เค็ม

หมึกผัดไข่เค็มจานนี้ยังมาพร้อมประโยชน์ที่น่าสนใจอีกด้วย มาดูกันว่าเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมจานนี้มีอะไรดี ๆ ให้คุณได้รับกันบ้าง

• ปลาหมึกดีกับสุขภาพ

เมื่อเลือกกินปลาหมึกในปริมาณที่เหมาะสมบอกเลยว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่มาพร้อมประโยชน์เช่นเดียวกัน โดยในเมนู อาหาร ไทยจานนี้มักนิยมใช้หมึกกล้วย ซึ่งมาพร้อมความสามารถในการช่วยลดความดัน ช่วยสมานแผลเพราะมีคอลลาเจน และยังช่วยเพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลวให้กับคุณในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย

• ไข่เค็มมาพร้อมประโยชน์เช่นกัน

ไข่สดมีประโยชน์ และไข่เค็มก็มีประโยชน์เช่นเดียวกัน โดยมาพร้อมโปรตีน ที่จะช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มีกรดอะมิโนจำเป็นมากถึง 9 ชนิด มีวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็น ช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังมีโคลีนที่ช่วยในเรื่องของการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนเลือดอีกด้วย

ใครที่ชื่นชอบหมึกผัดไข่เค็มบอกเลยว่าทำเองแล้วคุณจะสามารถเพิ่มเติมทั้งปริมาณของปลาหมึก ความเข้มข้นของไข่แดงเค็ม และปรุงรสชาติให้ออกมาเป็นไปตามที่ชอบได้ตามต้องการมากขึ้น ดังนั้นเก็บสูตรเมนูเด็ดเมนูนี้ไปใช้ แล้วคุณจะสนุกกับการทำอาหารเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

• อาหาร เพื่อ สุขภาพ ง่าย ๆ แบบล้างตู้เย็นกับสุกี้แห้งทะเล

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

สำหรับ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง นั้นน่าจะเป็นเมนูประจำที่เมื่อไปร้านอาหารหลายคนจะต้องสั่ง แต่ถ้าทำเองบอกเลยว่าปริมาณของเนื้อไก่ หรือเม็ดมะม่วงจะเพิ่มเติมได้เท่าที่คุณต้องการ และมีสูตรให้ทำตามแล้วอร่อยไม่ต่างจากไปร้าน ใครอยากเข้าครัวไปพร้อมกับเมนูเด็ด มาเก็บสูตรของเมนูนี้จากเราไปพัฒนาเสน่ห์ปลายจวักกันได้เลย

ทำไม ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ถึงเป็นที่นิยม

เมนู ไก่ผัด เม็ดมะม่วง นั้นถือว่าเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ ทำให้กลายเป็นเมนูไทยที่แพร่หลายไปทั่วโลก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ามาพร้อมรสชาติที่ครบรส กลมกล่อม แต่ไม่ได้มีรสจัดจนเกินไป คนต่างชาติที่ไม่กินเผ็ดมากก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับจานนี้ได้ และด้วยความที่วัตถุดิบนั้นเป็นสากล ทำให้คนเปิดใจกินกันง่ายมากขึ้น ดังนั้นมีสูตรเด็ดของอาหาร ไทย ยอด นิยมจานนี้ติดตัวไว้พร้อมเสิร์ฟในทุกสถานการณ์กันดีกว่า

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับการทำ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ก่อนที่จะเริ่มเข้าครัว เราต้องเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อน เมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วง นั้นเตรียมของไม่ยาก และทำไม่ยาก สามารถเพิ่มเติมรสชาติและปริมาณได้ตามที่ต้องการ ดังนั้นเบื้องต้นคุณต้องเตรียมวัตถุดิบดังนี้

• วัตถุดิบผัดเม็ดมะม่วง
  • อกไก่ 300 กรัม
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ ½ ถ้วย
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ 15 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าสีแดง 2 เม็ด
  • แป้งสาลี ½ ถ้วย
  • กระเทียมไทย 3 กีบ
  • เกลือป่นธรรมดา ¼ ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ¼ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอม 2 ต้น

หมายเหตุ : หากคุณต้องการเพิ่มเติมหรือลดความเผ็ดก็สามารถปรับได้ตามความต้องการของคุณกันได้เลย เมนูนี้สามารถจะทำให้เผ็ดหรือไม่เผ็ดก็ได้ตามความชอบ

วิธีทำไก่ผัดเม็ดมะม่วง ให้อร่อยเหมือนที่ร้าน

เรามาดูกันดีกว่าว่าเมื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วงเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนวิธีทำจะต้องทำอย่างไรต่อ บอกเลยว่าใช้เวลาไม่นาน แถมทำแล้วเก็บเอาไว้กินได้หลายมื้อ กินได้มื้อละหลายคนอีกด้วย

1. เริ่มต้นจากการคลุกไก่เพื่อเตรียมให้พร้อมทอด ด้วยการเทเนื้อไก่ลงในถ้วยที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่แป้งสาลีลงไป ตามด้วยพริกไทย เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. เมื่อเตรียมไก่คลุกแป้งเรียบร้อยแล้วทอดไก่ให้นำไก่ไปทอด ในน้ำมันร้อน ๆ จนได้เนื้อไก่สีเหลืองทองสวยงาม แล้วพักเอาไว้จนสะเด็ดน้ำมัน แล้วนำเม็ดมะม่วงมาทอดต่อที่กระทะเดิม แต่ใช้ไฟอ่อน ๆ ทอดแค่พอเหลือง และรีบตักขึ้น สุดท้ายในขั้นตอนการทำไก่ ผัด เม็ด มะม่วงคือ หั่นพริกแห้งเป็นชิ้นพอคำ นำลงทอดต่อ ระวังอย่าใช้ไฟแรง ทอดให้พอกรอบ สีเปลี่ยนเล็กน้อย แล้วตักขึ้นพักไว้เช่นกัน
3. เมื่อเตรียมทุกส่วนของไก่ ผัด มะม่วงหิมพานต์ขั้นตอนที่ 2 พร้อมแล้วให้คุณตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป ใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่ไก่ และเม็ดมะม่วงลงไปผัดตาม เริ่มปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสที่เตรียมเอาไว้ทั้ง น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมันงา ผัดจนทุกส่วนเข้ากันดี แล้วใส่ต้นหอม พริกชี้ฟ้า และพริกทอด ผัดต่อเล็กน้อย
4. เมื่อทุกอย่างเข้ากันพร้อมจัดเสิร์ฟใส่จาน โรยด้วยต้นหอม จากนั้นก็เริ่มกินให้อร่อยกับข้าวสวยร้อน ๆ กันได้เลย บอกเลยว่ายิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ แล้วได้กินยิ่งฟินอย่าบอกใคร

ประโยชน์ที่ได้จากเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เรามาปิดท้ายกันด้วยประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราสามารถหาได้จากเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วง กันดีกว่า เผื่อว่าชอบประโยชน์ส่วนไหนเป็นพิเศษจะได้เพิ่มเติมวัตถุดิบลงไปในสูตร ไก่ ผัด เม็ด มะม่วง

• เม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นมาพร้อมประโยชน์ที่น่าสนมากมายไม่ว่าจะเป็น ดีกับระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ ช่วยลดความดัน ป้องกันโรคนิ่ว เพิ่มมวลกระดูก คุมน้ำหนัก และช่วยในการมองเห็น
• เนื้อไก่มาพร้อมโปรตีน คุณสามารถเลือกใช้ส่วนอกไก่เพื่อให้ลดไขมันได้ กลายเป็นอาหาร ไทยที่ทั้งอร่อย และดีกับสุขภาพไปพร้อมกัน

วันนี้เราได้ทั้งวัตถุดิบในการทำ ไก่ผัด เม็ดมะม่วง และได้สูตรเมนู อาหาร ไทยอย่างผัด ไก่ เม็ด มะม่วงไปใช้กันเรียบร้อยแล้วส่วนที่เหลือก็คือการเข้าครัว และทำเมนูนี้ให้ออกมาตรงกับความชอบของคุณ และคนในบ้านมากที่สุด รับรองว่าทำง่าย อร่อยเร็วแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

• ต้มข่า ไก่ หัวปลี เมนูลื่นคอที่คุณก็ทำเองได้

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

เมนูอย่าง มัสมั่นไก่ น่าจะเป็นเมนูที่ครองใจใครหลาย ๆ คน ด้วยเสน่ห์ของรสชาติที่มัน ข้น กลมกล่อม กินคู่กับข้าว หรือจะเลือกเป็นโรตีก็เข้ากันได้ดี เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนได้ตามความต้องการ ใครอยากได้เมนูเด็ดเอาไว้ทำเสริมเสน่ห์ปลายจวัก เราเตรียมสูตรพร้อมทั้งความน่าสนใจของเมนูนี้มาฝากกันแล้ว

ประวัติความเป็นมาของ มัสมั่นไก่

สำหรับเมนู มัสมั่น ไก่ นั้นถือว่าเป็นแชมป์ของอาหารที่คนโหวตว่าอร่อยที่สุดในโลก และทั้งในไทย หรือร้านอาหาร ไทย ยอด นิยมในต่างประเทศก็จะมีเมนูนี้เอาไว้เสิร์ฟความอร่อยอย่างแน่นอน โดยแกง มัสมั่นต้นตำรับมาจากอินเดีย และเริ่มเข้ามาในประเทศไทยโดยแขกเจ้าเซ็นจากทางเปอร์เซีย ซึ่งคาดว่าคำว่ามัสมั่นมาจากภาษาเปอร์เซียคำว่ามุสลิมมาน หมายถึง ชาวมุสลิม แต่ในตอนนี้ได้รับการปรับปรุงจนกลายเป็นอาหารไทยที่มีฉายาว่า ‘ราชาแห่งเครื่องแกง’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับเมนู มัสมั่นไก่

ถึงเวลามาเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมสำหรับการทำ มัสมั่นไก่ กันแล้ว โดยเราได้เลือกเป็นแกง มัสมั่น ไก่ สูตร โบราณมาให้คุณได้ลองทำตามกัน ซึ่งบอกเลยว่าจานนี้อร่อยเด็ดยกนิ้วอย่างแน่นอน มาเริ่มเตรียมวัตถุดิบกันเลย

วัตถุดิบมัสมั่นไก่

• เนื้อไก่ 1,000 กรัม
• มันฝรั่ง 600 กรัม
• หอมใหญ่ 300 กรัม
• หัวกะทิ 600 กรัม
• หางกะทิ 600 กรัม
• ลูกกระวาน 10 กรัม
• ใบกระวาน 2 กรัม
• ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม
• พริกแกงมัสมัน 150 กรัม
• น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ : คุณสามารถเพิ่มลดปริมาณของวัตถุดิบได้ตามความต้องการ เพื่อให้ได้ปริมาณ และรสชาติที่ถูกปากคุณมากที่สุดนั่นเอง

วิธีทำมัสมั่นไก่

มาเริ่มเข้าครัวแล้วลงมือทำมัสมั่นไก่กันดีกว่า วิธี ทำ แกง มัสมั่นจะต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง เพื่อให้ออกมาได้รสชาติเหมือนอาหารไทยติดอันดับที่ทั่วโลกนิยม มาติดตามไปพร้อมกันเลย

1. เริ่มต้นการทำอาหารไทยจานนี้ด้วยการนำหัวกะทิเทลงหม้อที่จะใช้แกง เปิดไฟกลาง เคี่ยวจนกะทิแตกมัน แล้วเติมหัวกะทิลงไปเล็กน้อย รอจนแตกมันอีกครั้ง
2. เมื่อสังเกตว่าแตกมันดีแล้วให้ใส่พริกแกงลงไป ผัดจนกลิ่นหอม เริ่มปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ผัดจนส่วนผสมละลายเข้ากัน
3. เติมหัวทะทิลงไปเพิ่ม คนให้เข้ากัน รอจนเดือด แล้วใส่เนื้อไก่ลงไป ตามด้วยลูกกระวาน ใบกระวาน
4. เมื่อเรียบร้อยให้ใส่หางกะทิ เพิ่มเป็นไฟแรง เคี่ยวจนเนื้อไก่สุก ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาระมาณ 10 นาที จากนั้นพลิกไก่ให้สุกทั่ว แล้วใช้ไฟกลาง 25-30 นาที
5. เมื่อได้เวลาให้ใส่มันฝรั่งที่หั่นแล้วลงไป ตามด้วยหอมหัวใหญ่ เคี่ยวต่ออีก 45-60 นาที 
6. ปิดท้ายด้วยการใส่ถั่วลิสงคั่ว ต้มต่ออีกสักพัก เมื่อได้ที่สามารถตักขึ้นเสิร์ฟพร้อมกินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือโรตีกันได้ตามชอบ

ประโยชน์ที่ได้จากเมนูอาหารไทย

เมนูอย่าง มัสมั่น ไก่ นั้นไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย แต่มาพร้อมกับประโยชน์ให้คุณได้โภชนาการที่ดี ไปพร้อมกับความอร่อย มีประโยชน์อะไรบ้างมาดูกัน

• เมนูนี้ถือว่าเป็นอาหารภาคใต้ทำให้มีรสชาติเผ็ดร้อน ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตที่ดี
• สูตรอาหารไทยแม้ว่าอาจมีมันเยอะ แต่ถือเป็นแหล่งพลังงานที่ดี ใครที่ต้องใช้แรง หรือต้องการเพิ่มพลังงานแนะนำว่าไม่ควรพลาด และเลือกกินตามปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียกับร่างกาย
• อาหาร ไทย โบราณเมนูนี้มีเนื้อไก่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี มีกรดอะมิโนจำเป็นที่ครบถ้วน ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต สร้างกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างภูมิต้านทาน

วันนี้ได้ทั้งการเตรียมวัตถุดิบและวิธีทำของเมนูอย่างมัสมั่นไก่กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครอยากเข้าครัว หาเมนูที่กินกันได้เยอะ ๆ แถมอร่อยในแบบที่คนไทยชอบ ต่างชาติปลื้ม บอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะลองเข้าครัวไปปรุงสูตรนี้ออกมาให้ได้รสชาติลงตัวในแบบที่คุณชอบกันมากที่สุด แต่ถ้าใครเหนื่อยอยากกินเมนูนี้แบบสบาย ๆ บอกเลยว่าร้านอาหารไทยในบ้านเราหลายร้านขึ้นชื่อเรื่องเมนูนี้เป็นอย่างมาก

อ่านบทความอื่นๆ:

• ต้มข่า ไก่ หัวปลี เมนูลื่นคอที่คุณก็ทำเองได้

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

ถ้าพูดถึงเมนูอย่าง ปูผัดผงกะหรี่ น่าจะเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งจะเดินทางไปกินที่ร้านก็อาจไม่สะดวก มาทำเองให้ได้ทั้งความสะดวก แถมปริมาณเยอะจุใจกันดีกว่า วันนี้เราเตรียมสูตรเด็ดเคล็ดลับที่จะทำให้เมนูโปรดจานนี้ของคุณเหมือนไปกินที่ร้านชื่อดังกันเลย

เสน่ห์ที่น่าสนใจของเมนู ปูผัดผงกะหรี่

เรามาทำความรู้จักกับเสน่ห์ของเมนูอย่าง ปู ผัดผงกะหรี่ กันก่อนดีกว่าว่าทำไมเมนูอาหารไทยเมนูนี้ถึงเป็นที่นิยม เหตุผลหลัก ๆ ก็เป็นเพราะว่าปู ผัดผงกระหรี่ มาพร้อมกับรสชาติที่กลมกล่อม มีเค็ม หวาน เผ็ดที่ลงตัว แถมเมื่อใช้ปูเป็นส่วนผสมหลักยังได้ความหวานของเนื้อปู และถ้าถามว่าปูผัดผง กระ หรี่ ใช้ ปู อะไร คำตอบคือ นิยมใช้เป็นปูดำสด แต่ถ้าไม่สะดวกก็อาจเปลี่ยนเป็นปูม้า เนื้อปูก้อน เนื้อปูกรรเชียง แทนได้ ขอแค่สดใหม่ก็สามารถทำให้คุณนั้นได้ลิ้มรสปูผัดผง กระ หรี่กันแล้ว

มาเตรียมวัตถุดิบทำปูผัดผงกะหรี่กัน

สำหรับปูผัดผงกะหรี่สูตรนี้เราจะใช้เป็นเนื้อปูก้อน เพราะทำง่าย หาซื้อสะดวก เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบหลักที่สดใหม่ก็เพิ่มความอร่อยของเมนูผัดผงกระหรี่จานนี้กันได้แล้ว มาเก็บลิสต์วัตถุดิบสูตรอาหารไทยทำเองเมนูนี้กันเลย

• เนื้อปูก้อน 1 ขีด (เพิ่มปริมาณได้ตามชอบ)
• กระเทียมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
• หอมใหญ่หั่น ½ ลูก
• ต้นหอมหั่นท่อน
• ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน
• พริกชี้ฟ้าแดง
• ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 2 ฟอง
• นมสด 160 มิลลิลิตร
• ผงกระหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนชา
• ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพริกเผา ½ ถ้วย
• น้ำมัน 50 มิลลิลิตร
• น้ำมัน 1 ถ้วย

วิธีทำปูผัดผงกะหรี่ตามสูตรอาหารไทย

เมื่อเตรียมวัตถุดิบของปูผัดผงกะหรี่กันเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มเข้าครัวและทำอาหารไทยง่ายๆ เมนูนี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่า บอกเลยว่าใช้เวลาไม่นาน แต่ได้จานที่ประทับใจมากินกันอย่างแน่นอน

1. เตรียมถ้วยเพื่อผสม โดยใส่นมข้นจืด ผงกะหรี่ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำพริกเผา ลงเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อคนให้เข้ากัน จากนั้นตอกไข่ใส่ชามและตีให้เข้ากัน แล้วนำมาเทรวมในชามผสม
2. ตั้งกระทะรอไว้โดยใช้ไฟกลาง และใส่น้ำมันที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อเป็นการเคลือบกระทะ เมื่อเคลือบทั่วแล้วให้ทำการเทน้ำมันส่วนเกินออก
3. เมื่อกระทะเริ่มร้อนได้ที่ให้ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไปเพียงเล็กน้อย จากนั้นตามด้วยการใส่กระเทียม หอมใหญ่ ลงไปเพื่อผัด ให้คุณผัดจนได้กลิ่นหอมของวัตถุดิบ
4. ใส่เนื้อปูที่เตรียมไว้ตามลงไป สักพักให้ใส่ส่วนผสมเหลวที่เตรียมเอาไว้ในขั้นตอนแรกลงไป แล้วค่อย ๆ ใช้ตะหลิวตะล่อมจนสังเกตได้ว่าไข่เริ่มสุกเล็กน้อย
5. เริ่มใส่ต้นหอม ขึ้นฉ่าย พริกชี้ฟ้าแดง ลงไปตาม แล้วใช้ตะหลิวตะล่อมน้ำซอสต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ไข่ที่ข้นตามที่คุณต้องการ เมื่อเสร็จแล้วสามารถตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ และกินกันได้เลย

ประโยชน์ของเมนู ปูผัดผงกะหรี่

ใครว่าเมนู ปู ผัดผงกะหรี่ มีแต่ความอร่อย กินแล้วก็ได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน เมื่อได้วิธีทำผัดผง กระ หรี่ ทะเลกันไปเรียบร้อยแล้ว เรามาเก็บประโยชน์จากกินเมนูนี้กันต่อดีกว่า

• ในผัดผงกระหรี่นั้นจะมีขมิ้นเป็นส่วนผสม ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบ ป้องกันแผลในกระเพาะ ฆ่าเชื้อรา ยับยั้งการสะสมของโปรตีนอะมีลอยด์ในสมอง ทำให้มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองได้ดี และยังป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่อาจจะเกิดกับผู้สูงอายุได้อีกด้วย
• ผงกะหรี่นั้นมีขิงเป็นอีกส่วนผสมหลัก ซึ่งมีสารอย่างเคอร์คูมินอยู่ ตัวนี้จะช่วยต้านอนุมูลอสิระ ลดสาเหตุการเกิดมะเร็ง ยับยั้งมะเร็งเต้านมไม่ให้ลุกลาม และชะลอการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก

เมนูอย่างปูผัดผงกะหรี่ ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่พกประโยชน์แถมมาให้คุณด้วย โดยยังสามารถปรับเป็นเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้หลากหลาย หมู ไก่ กุ้ง หมึก หรืออะไรที่ชอบก็สามารถนำมาทำเมนูนี้ได้ทั้งนั้น เพียงมีสูตรพื้นฐานนี้ไว้ผัดกับอะไรก็อร่อยอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

• หลนปู เมนูเครื่องจิ้มไทยโบราณ รสชาติเข้มข้นหอมมันละมุน

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

อย่างที่รู้กันดีกว่าผักคะน้านั้นมาพร้อมกับประโยชน์ที่น่าสนใจ แถมเมนูอย่าง คะน้าหมูกรอบ ก็ยังเป็นเมนูที่ทำง่าย ได้โปรตีน ไปพร้อมกับความอร่อย เหมาะมากกับคนที่กำลังเล่นเดิมพันในจังหวะที่ต้องลุ้น แต่ไม่อยากให้ท้องว่าง จะได้มีกำลังวางแผนการลงทุนกันต่อ ดังนั้นวันนี้เราจะชวนคุณมาทำเมนูนี้ทาน รับรองว่า อร่อย ได้ประโยชน์ แถมยังไม่พลาดทุกจังหวะการเดิมพันอีกด้วย

ประโยชน์ที่จะได้จากเมนู คะน้าหมูกรอบ

ก่อนที่เราจะไปลงลึกว่า คะน้า หมูกรอบ นั้นจะต้องเตรียมอะไรเพื่อให้พร้อมเสิร์ฟบ้าง เรามาดูประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากคะน้า หมูกรอบกันก่อนดีกว่า โดยประโยชน์แบบเต็ม ๆ จากเมนูอาหารไทยเมนูนี้มาจากคะน้าผักใบเขียว ตัวหลักของจาน โดยเมื่อกินคะน้าเข้าไปนั้นสามรรถช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา เพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและฟัน บำรุงเลือด บำรุงผิว กระตุ้นการขับถ่าย และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่าง ๆ ยิ่งถ้าเลือกเป็นคะน้าหมูกรอบราดข้าวแบบข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอรี่ยิ่งช่วยเพิ่มประโยชน์ให้กับคุณได้อีกเท่าด้วย

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมเพื่อทำคะน้าหมูกรอบ

ใครที่พร้อมเข้าครัวเพื่อเตรียมคะน้าหมูกรอบให้พร้อมกับการกินในเดิมพันรอบต่อไปกันแล้ว เรามาเริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบผัด คะน้า หมู กรอบกันให้ครบก่อนดีกว่า ต้องใช้อะไรบ้าง มาดูกันเลย

• คะน้า 400 กรัม
• กระเทียม 20 กรัม
• พริกแดงจินดา 10 กรัม
• หมูกรอบ 150 กรัม
• ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น
• น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ : ถ้าคุณต้องการกินพร้อมข้าวอย่าลืมหุงข้าวในแบบที่คุณชอบมาเตรียมกันเอาไว้ด้วย และถ้าต้องการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับสูตร คะน้าหมูกรอบขอแนะนำว่าให้เตรียมไข่ดาวหรือไข่ต้มเพื่อทานคู่กันไป ให้กลายเป็นเหมือนคะน้าหมูกรอบไข่ดาว เมนูตามสั่งยอดฮิตของไทยเรานั่นเอง บอกเลยว่าอร่อย ดีกับสุขภาพอย่างแน่นอน

สูตรเด็ดของการทำคะน้าหมูกรอบ

เมื่อเตรียมวัตถุดิบของคะน้าหมูกรอบ กันเรียบร้อยแล้วเรามาเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของวิธีทำ คะน้าหมูกรอบกันดีกว่า ใครอยากได้ผัดคะน้าไปกินระหว่างลุ้นบอลบอกเลยห้ามพลาด

1. นำก้านคะน้ามาล้างทำความสะอาด จากนั้นใช้มีดปอกตรงเปลือกก้านส่วนที่แข็งออก จากนั้นหั่นส่วนใบ และก้านคะน้า แล้วหั่นให้ชิ้นพอดีคำ หากไม่รีบแนะนำว่าให้แช่ และล้างหลาย ๆ รอบ เพื่อเป็นการล้างสารพิษตกค้าง หรือยาฆ่าแมลงออกให้หมด เพื่อความปลอดภัยในการกิน
2. หั่นหมูกรอบเตรียมเอาไว้ แนะนำว่าให้หั่นแบบพอดีคำ และเลือกเพิ่มลดจำนวนได้ตามที่คุณต้องการ
3. ทุบกระเทียมด้วยมีด แล้วหั่นหยาบ จากนั้นพักเตรียมเอาไว้
4. นำพริกแดงจินดามาล้างทำความสะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่นเตรียมเอาไว้
5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน เมื่อร้อนได้ที่ให้ใส่กระเทียม พริกแดงจินดา ผักคะน้าลงไป เพื่อเริ่มผัดโดยการใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำฝาอบมาปิด เพื่อให้ผักสุกเร็วขึ้น และยังมีสีเขียวสวยไปพร้อมกับความกรอบอร่อย
6. เมื่อผ่านไปประมาณ 3-5 นาทีให้เอาฝาปิดออก ผัดต่อเล็กน้อย ใส่หมูกรอบลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ จากนั้นผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน โดยไม่ต้องผัดนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้หมูกรอบหายกรอบได้ เมื่อสังเกตว่าทุกส่วนผสมเข้ากันดีก็ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย

ใครที่อยากปรับ คะน้า หมูกรอบ ให้กลายเป็นหมู ไก่ ปลาเค็ม หรือไม่ใส่เนื้อสัตว์ก็สามารถปรับสูตรอาหารไทยสูตรนี้ที่เป็นเมนูอาหารตามสั่งยอดนิยมกันได้ ส่วนใครอยากตามหาเมนูอาหารไทยเมนูอื่นเพื่อนำมากินตอนเล่นเดิมพันเกมต่าง ๆ บอกเลยว่าอย่าพลาดที่จะติดตามสูตรเด็ด และเมนูที่เหมาะกับการเดิมพันไปพร้อมกับเรา โดยเมื่อทั้งกินและเล่นกันอย่างเต็มที่แล้ว แนะนำว่าอย่าลืมพักสายตา ออกกำลังกาย และหากิจกรรมผ่อนคลายอื่น ๆ ทำเพิ่ม เพื่อให้สามารถเสริมประสิทธิภาพในการตัดสินใจเดิมพันให้ดีขึ้น สร้างกำไรได้มากขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ:

• กุ้งอบวุ้นเส้น รสชาติกลมกล่อมแบบภัตตาคาร ทำได้เอง

สนับสนุนโดย: ufaball.bet