หมวดหมู่: อาหารนานาชาติ

FOCACCIA

มาทำอาหารว่าง FOCACCIA ทานเองกันมาทำอาหารว่าง FOCACCIA ทานเองกัน

FOCACCIA

FOCACCIA เมนูขนมปังอิตาลีที่คุณสามารถทำทานเองได้แบบง่าย ๆ แถมยังปรับได้กับอีกหลากหลายเมนูอาหารอิตาลี ทำอย่างไรบ้างมาดูกัน

FOCACCIA คืออะไร

ขนมปังเป็นสิ่งพื้นฐานที่มักจะมีในเมนูอาหารอิตาลีเสมอและFOCACCIA(ฟอคคาเซีย) เป็นหนึ่งในนั้น โดย FOCACCIAคือ ขนมปังของอิตาลีที่อบด้วยเตาเผาแบบแบนคล้ายกับพิซซ่าและมาพร้อมความหอมแบบกรอบนอกนุ่มใน มักเสิร์ฟเป็นกับข้าวหรือขนมปังแซนวิช รสชาติมาพร้อมความเค็มนิด ๆ และหอมสมุนไพร ได้ทานคู่ซุป ซอส หรือจะทานเปล่า ๆ ก็ลงตัวทุกสไตล์ ทำให้ขนมปังชนิดนี้เป็นที่นิยมทั้งในอิตาลีและต่างประเทศเป็นอย่างมาก แถมวิธีทำยังไม่ยุ่งยาก ถ้าอยากลงทำด้วยตัวเองกันแล้วเรามาเริ่มเข้าครัวไปอบขนมปังกันเลยดีกว่า

FOCACCIA

วัตถุดิบเพื่อทำFOCACCIA

อยากลองทำขนมปังFOCACCIA เองไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการอบให้พร้อม แล้วคุณจะสามารถซึมซับวัฒนธรรมอาหารอิตาลีแบบง่าย ๆ ได้เองที่บ้าน เราลองมาตรวจสอบรายชื่อวัตถุดิบที่ต้องใช้กันดีกว่า

FOCACCIA

วัตถุดิบหลัก

  • แป้งอเนกประสงค์
  • ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับการอบและทาหน้าในแบบอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ

  • น้ำ 130 กรัม
  • น้ำมันมะกอก 15 กรัม
  • น้ำมันมะกอกสำหรับทาถาดอบ
  • น้ำมันมะกอกสำหรับหน้าขนมปัง
  • ดอกเกลือเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า
  • โรสแมรี่แห้งหรือสดสำหรับโรยหน้า

วิธีทำFOCACCIA 

FOCACCIA

อย่างที่เห็นกันแล้วว่าFOCACCIAนั้นไม่ได้มีวัตถุดิบที่ยุ่งยาก แต่กลับสามารถทำให้คุณได้รับอารมณ์ความรู้สึกแบบอาหารอิตาลี ง่ายๆ ดังนั้นเรามาเริ่มต้นเข้าสู่ขั้นตอนของวิธีทำกันเลยดีกว่า

  • นำแป้ง ยีสต์ น้ำตาลทราย เกลือ ใส่รวมกันในชามผสม
  • เทน้ำ น้ำมันลงไปแล้วผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นนวดต่ออีกประมาณ 10 นาที
  • นำแป้งมารวบให้ตึงเป็นทรงกลม จากนั้นพักแป้งเอาไว้ 1 ชั่วโมงเพื่อให้ฟูขึ้น
  • ทาถาดอบด้วยน้ำมันมะกอกให้ทั่ว จากนั้นนำแป้งมาวางแผ่และกด
  • เริ่มตกแต่งหน้าขนมปังด้วยน้ำมันมะกอก โรยโรสแมรี่ โรยดอกเกลือ ให้ทั่วหน้าขนมปัง จากนั้นพักแป้งไว้ 20 นาที
  • นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาฯ นาน 20 นาทีแล้วเสิร์ฟทานกันได้เลย
FOCACCIA

ถ้าคุณเคยเห็นขั้นตอนและวิธีการทำขนมปังแบบอื่นมาบ้างจะรู้เลยว่าFOCACCIAนั้นวัตถุดิบน้อยและทำง่ายกว่าขนมปังอีกหลาย ๆ ชนิดเป็นอย่างมาก และด้วยสูตรนี้คุณสามารถที่จะมีอาหารอิตาลี ทำเองเอาไว้เป็นกิจกรรมหรือเอาไว้ทำมอบให้กับคนที่คุณรักกันได้แบบง่าย ๆ

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน เมนูอินเตอร์ที่ทำง่ายกว่าที่คิดซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน เมนูอินเตอร์ที่ทำง่ายกว่าที่คิด

ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

การได้ซดซุปร้อน ๆ ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่ง และยิ่งถ้าได้เจอกับซุปรสชาติถูกใจที่คัดสรรวัตถุดิบด้วยตัวเองแล้วยิ่งดีกับสุขภาพกายและใจของคุณอย่างแน่นอน วันนี้เรามาเก็บสูตรการทำ ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน กันดีกว่า เผื่อว่าใครที่อยากเข้าครัวเองแล้วหาเมนูเด็ด ๆ มาทำจะได้ลองเอาไปฝึกกันดูบอกเลยว่าซุป กิ ม จิ เต้าหู้ อ่อนทำได้ง่ายกว่าที่คุณคิด

ที่มาที่ไปของ ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

สำหรับอาหารเกาหลีอย่าง ซุปกิมจิ เต้าหู้อ่อน หรือในภาษาเกาหลีที่เรียกกันว่ากิมจิชีเกนั้นเป็นการนำผักดองของเกาหลีอย่ากิมจิมาเป็นรสชาติหลักจากนั้นก็ทำการเติมเต้าหู้อ่อนและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ลงไป ซุปกิมจิ เต้าหู้อ่อน คลีนก็สามารถทำได้ เพราะเมื่อคุณทำเองก็สามารถลงเครื่องปรุงได้ตามใจชอบ แต่ก็ยังจะได้สูตรอาหารเกาหลีที่เรียกได้ว่าเป็นอาหารพื้นบ้านไปลิ้มรสกันอยู่ดี ถ้าอยากรู้แล้วว่าเมนูอาหารเกาหลียอดฮิตต้องทำอย่างไรบ้างก็มาเริม่ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

วัตถุดิบหลักของซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

เมื่อคุณต้องการเริ่มทำ ซุปกิมจิ เต้าหู้อ่อน สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการทำอาหารเกาหลี ทำ เอง ง่ายๆ ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่วัตถุดิบเหล่านี้ยังสามารถนำไปปรับเป็นเมนูอื่นกันได้อีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่าคุณต้องใช้อะไรเป็นส่วนผสมของการทำซุปกิมจิ เต้าหู้อ่อน ง่ายๆ บ้าง

  • กิมจิ 250 กรัม
  • หมูสามชั้น 350 กรัม
  • เห็ดเข็มทอง 100 กรัม
  • เต้าหู้ขาวอ่อน 1 ก้อน
  • หอมหัวใหญ่ ½  ลูก
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ต้นหอมญี่ปุ่น
  • คนอร์ซุปก้อน 1 ก้อน
  • พริกป่นเกาหลี ½  ช้อนโต๊ะ
  • ซอสโคชูจัง 1 + ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอม
  • เกลือ ¼  ช้อนชา
ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

ขั้นตอนการทำ ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบสำหรับ ซุปกิมจิ เต้าหู้อ่อน พร้อมแล้วก็ถึงเวลาเริ่มต้มกันแล้ว แม้ว่ารายละเอียดของวัตถุดิบจะเยอะแต่บอกเลยว่าทุกอย่างสามารถเก็บไว้ปรับทำเมนูอื่นได้อย่างแน่นอน ดังนั้นซื้อไว้ไม่เสียเปล่า แต่เริ่มแรกเรามาทำเมนูเด็ดที่ตั้งใจอย่างซุปกันก่อนดีกว่า

  1. ตั้งไฟกลางแล้วใส่หมูสามชั้นลงไปผัดในหม้อ ตามด้วยน้ำมันงา แล้วผัดน้ำมันงากับหมูสามชั้นจนสุก
  2. เมื่อหมูสุกเข้าที่ให้ใส่กิมจิลงไป ทำการผัดให้เข้ากัน
  3. เริ่มใส่หอมหัวใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น ซอสโคชูจัง แล้วผัดทุกส่วนผสมให้เข้ากัน
  4. เติมน้ำเปล่าลงไปประมาณ 500 ml. รอจนน้ำเดือด แล้วใส่คนอร์ เกลือ และพริกป่นเกาหลี
  5. เมื่อปรุงรสได้ตามที่ต้องการแล้วให้ใส่เห็ดเข็มทองและเต้าหู้อ่อนเข้าไป
  6. เมื่อเห็ดเริ่มสุกตอกไข่ไก่ใส่เข้าไปได้เลย จากนั้นปิดแก๊สและพร้อมเสิร์ฟได้ทันที

เพิ่มความอร่อยให้เมนูซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน ได้ง่าย ๆ แบบนี้

หลังจากที่คุณทำซุปเสร็จเรียบร้อยแล้ววิธีการทานก็มีส่วนเพิ่มความอร่อยด้วยเช่นเดียวกัน เราขอแนะนำให้คุณทานคู่กับข้าวสาวร้อน ๆ ผักสด หมูย่าง สาหร่าย บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ลงตัวเข้ากันมาที่สุด แถมซุปหม้อเดียวยังสามารถทานได้หลายคน ถ้าอยากจัดปาร์ตี้ไม่ควรพลาดเมนูนี้

ซุปกิมจิ เต้าหู้อ่อน

การทำอาหารเกาหลีอย่างซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน นั้นไม่ใช่เรื่องยากแถมยังเป็นเมนูที่อร่อยง่าย ปรุงรสได้ตามใจ ใครอยากเพิ่มวัตถุดิบอะไรก็สามารถทำได้ไม่มีผิด แถมยังสามารถทำแล้วเก็บเอาไว้ทานได้อีกหลายมื้อ แบบนี้เรียกว่าทั้งอร่อยและประหยัดในเวลาเดียวกัน

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/สมัครบาคาร่า888

READ MOREREAD MORE
วิธี ทำ กิ ม จิ

วิธี ทำ กิ ม จิ แบบง่าย ๆ ทำได้ที่บ้านวิธี ทำ กิ ม จิ แบบง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน

วิธี ทำ กิ ม จิ

สำหรับในตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกิมจิอาหารจากแดนโสมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วิธี ทำ กิ ม จิ นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด วันนี้ได้เวลามาเก็บกิ ม จิ สูตร ต้นตํารับไปทำกันเองแบบง่าย ๆ ที่บ้านกันแล้ว คุณต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วจะมีวิธีทำกิมจิ สูตรเกาหลีแท้อย่างไรเรามาเริ่มกันเลย

วิธี ทำ กิ ม จิ ต้องรู้อะไรก่อน

วิธีทำกิมจิ นั้นไม่ยากไม่ว่าคุณจะต้องการปรับให้เป็นวิธีทำ กิ ม จิ คลี นหรือทำเพื่อเป็นเครื่องเคียงอาหารเกาหลี ทำ เอง ง่ายๆ ก็สามารถทำได้ตามต้องการ แต่หัวใจสำคัญของการทำเมนูอาหารเกาหลียอดฮิตก็คือ การเข้าใจพื้นฐานของอาหารเกาหลีชนิดนี้ว่าเป็น การถนอมอาหาร รสชาติจะมีความเปรี้ยวเผ็ด และสามารถนำไปเป็นส่วนผสมของอาหารในสูตรอาหารเกาหลีได้อีกหลายเมนู ดังนั้นรู้วิธีทำเมนูนี้ก็สามารถต่อยอดได้อีกหลายเมนูอย่างแน่นอน

วิธี ทำ กิ ม จิ

วัตถุดิบหลักที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเข้าสู่ วิธีทำกิมจิ

สิ่งที่จะทำให้ให้ วิธีทำกิ จิ นั้นได้รสชาติออกมาตามแบบฉบับของเกาหลีมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้วัตถุดิบหลักให้ครบนั่นเอง มาดูกันดีกว่าว่าส่วนผสมเหล่านั้นที่จะช่วยทำให้คุณทำเครื่องเคียงหลักเมนูนี้ออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุดจำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง

  1. ผักกาดขาว 1 หัว
  2. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกป่นเกาหลี ½ ถ้วย
  5. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ต้นหอมซอย 3 ต้น
  8. หอมใหญ่หั่นชิ้น ¼ หัว
  9. กระเทียม 3 กลีบ
  10. ขิงสับ ½ ช้อนชา
วิธี ทำ กิ ม จิ

วิธีทำกิมจิ ตามแบบฉบับคนเกาหลีแท้

การจะทำกิมจินั้นไม่ใช่แค่การผสมทุกอย่างรวมกันเท่านั้น แต่ขั้นตอนของการเตรียมวัตถุดิบ การปรุงรส และการเก็บมีความสำคัญในทุกขั้นตอน เรามาเริ่ม วิธีทำกิมจิ ไปพร้อมกันเลยดีกว่า โดยสูตรที่เราหยิบมาฝากในวันนี้จะเป็นสูตรพื้นฐานอย่างกิมจิผักกาดขาว

  1. เริ่มจากการใส่เกลือลงไปในน้ำเปล่า 1 ½ ถ้วย แล้วนำผักกาดขาวที่หั่นแล้วลงไปแช่ ทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาให้นำผักกาดขาวมาพักไว้
  2. เติมน้ำเปล่า 1 ถ้วยลงไปในหม้อใบเล็ก แล้วเติมแป้งข้าวเจ้าลงไป คนด้วยไฟกลาง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จนสังเกตเห็นว่าเริ่มข้น
  3. ใส่ต้นหอม หอมใหญ่ ขิง ลงไป คนเพื่อผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทผสมกับผักกาดขาวที่ผักไว้ แล้วเริ่มนวด
  4. หลังจากทุกส่วนผสมเข้ากันดีสามารถทานได้เลย หรือเก็บใส่ขวดโหลเพื่อทานในครั้งต่อไปได้

เทคนิคการเก็บกิมจิ

การทำกิมจิในแต่ละครั้งทำทีละเยอะ ๆ คุ้มค่าคุ้มเวลามากกว่าอย่างแน่นอน แต่จะเก็บอย่างไรให้รสชาติดีที่สุด เราจึงได้นำเทคนิคดี ๆ ในการเก็บกิมจิมาฝากกัน เริ่มจากการเพิ่มความเปรี้ยวและกรอบให้กับกิมจิในไทยเราต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 2-4 สัปดาห์ แล้วรีบเอาเข้าไปเก็บต่อในตู้เย็นทันที เพราะด้วยสภาพอากาศจึงไม่สามารถเก็บไว้ข้างนอกได้เหมือนที่เกาหลีนั่นเอง

วิธีทำกิมจิ

เมื่อรู้ วิธีทำกิมจิ กันไปแล้วคุณยังสามารถค้นหาสูตรที่มีกิมจิเป็นวัตถุดิบหลักเพิ่มเติมเพื่อนำมาเพิ่มลูกเล่นได้ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดกิมจิ ซุปกิมจิ และอีกหลากหลายเมนูที่สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากเครื่องเคียงที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีเมนูนี้

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet

READ MOREREAD MORE
นา โช่

ทำความรู้จัก นา โช่ อีกหนึ่งเมนูอาหารสุดฮิตของเม็กซิโกทำความรู้จัก นา โช่ อีกหนึ่งเมนูอาหารสุดฮิตของเม็กซิโก

นา โช่ คือ อาหารประจำภูมิภาคทางตอนเหนือของเม็กซิโก ซึ่งปัจจุบันเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญคือ “ตีญาชิป” หรือเรียกอีกอย่างว่า “โทโทพอส” ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟในรูปแบบอาหารว่างหรืออาหารเรียกน้ำย่อย เพราะมีลักษณะกรอบทำให้ทานได้ง่าย และเหมาะกับทุกวัย ส่วนปัจจุบันแม้ว่าไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก แต่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารที่หลายคนบอกตรงกันว่าตรงใจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นลองมาทำทานที่บ้านน่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนูอร่อยที่หลายคนต้องติดใจแน่นอน

นา โช่

แจกสูตร นา โช่ ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้แถมยังอร่อยด้วย

หลังจากทำความรู้จัก นาโช่ (NACHOS) กันไปแล้ว ที่นี่มาดูส่วนประกอบและวิธีการทำเมนูนี้กันดีกว่า ต้องใช้วัตถุดิบและมีขั้นตอนการทำแบบไหน และจะต้องใช้เวลาในการทำนานหรือเปล่า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับหลายคนที่กำลังมองหาเมนูใหม่ ๆ หลังจากเบื่อเมนูเดิม ๆ ที่เคยชินทุก ๆ วัน แต่บอกก่อนเลยว่า นาโช่ชีส มีวิธีการทำง่ายสุด ๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าใครเพิ่งเข้าครัวพิสูจน์ฝีมือปลายจวักครั้งแรกก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี แถมยังได้คำชมกลับมาอีกด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันว่าวัตถุดิบที่ใช้กับเมนูนี้จะมีอะไรกันบ้างดังนี้

วัตถุดิบ 

  • แป้งตอร์ติญ่า (TORTILLAS) สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
  • เกลือทะเล
  • น้ำมันมะกอก
  • ซอสนาโช่ สำหรับจิ้ม มีส่วนผสมคือ เนย แป้งข้าวโพด นมสด เกลือ พริกชี้ฟ้า เชสด้าชีส
นา โช่

วิธีการเตรียมแป้ง

  • สำหรับขั้นตอนการเตรียม แผ่นนาโช่ ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพราะเริ่มต้นด้วยการตัดแป้งให้เป็น 4 ส่วนเท่า ๆ  กัน 
  • จากนั้นนำไปผึ่งให้โดนลมโดยภาชนะที่ใส่จะต้องมีรูระบายความร้อนได้ดี เพื่อทาน้ำมันมะกอกเบา ๆ ทั้ง 2 ด้าน 
  • จากนั้นนำเข้าเตาอบโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ที่ความร้อน 180 องศาเซลเซียส 
  • หลังจากนำแป้งออกจากเตาเรียบร้อยแล้วให้โรยเกลือนิดหน่อย
นา โช่

วิธีการทำ สูตรนาโช่ ครีมชีส 

  1. ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อน จากนั้นใส่เนยลงไปเพื่อละลาย
  2. ตามด้วยแป้งข้าวโพดลงไปโดยจะต้องตีให้เข้ากับเนย
  3. จากนั้นเติมนมสดลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ และ พริกชี้ฟ้าป่น เพื่อเพิ่มรสชาติให้นัวมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความหอมให้น่าสนใจแก่ซอส
  4. จากนั้นเมื่อทุกอย่างได้ที่ให้เติม เชสด้าชีสลงไป ซึ่งจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน 
  5. ค้นให้ชีสและส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันโดยต้องหมั่นคนต่อเนื่องจนชีสละลายทั้งหมด 
  6. จากนั้นนำไปราดบนแผ่นแป้งที่เตรียมเอาไว้เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
นาโช่

อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตของคนรักชีสเสิร์ฟได้หลายรูปแบบ

จากวิธีการทำในเบื้องต้นเห็นแล้วว่า นาโช่ เป็นเมนูอร่อยง่าย และยังสามารถทานเล่นได้ตลอดเวลา แถมยังสามารถทานแบบจิ้มหรือดิปโดยไม่ต้องราดก็ได้ ดังนั้นหลังจากทำความรู้จักกับ นาโช่ คือ เมนู อาหารเม็กซิกันไปแล้ว และเป็นคนหนึ่งที่รักเมนูชีส ๆ แนะนำว่าเมนูนี้เป็นเมนูเด็ดและเป็น อาหารเม็กซิกัน แนะนำที่ยากจะห้ามใจอยู่ แถมวิธีการทำซอสไม่ยากอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการเมนูอาหารในวันว่าง ๆ ทานเล่นกับครอบครัวเป็นที่สุด

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet

READ MOREREAD MORE
ทาโก้

ทาโก้ อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตอร่อยทุกครั้งที่ได้ชิมทาโก้ อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตอร่อยทุกครั้งที่ได้ชิม

ทาโก้ จัดอยู่ในโหมดอาหารที่ได้รับความนิยมจากสายชิมว่าอร่อยแบบลงตัว แถมยังเป็นเมนูอาหารที่ทานง่าย และทานได้บ่อยตามความชอบได้เลย ที่สำคัญในไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่หาได้ง่ายสุด ๆ อีกด้วย ด้วยส่วนผสมและวิธีการทำไม่ยุ่งยาก เพราะแค่มีแผ่นแป้งตอร์ติย่า (TORTILLA) เพียงแค่นี้ก็สามารถเนรมิตเมนูนี้ให้อร่อยได้อย่างใจ นอกจากนั้นซอสที่ใช้จะมีหลายตัวด้วยกัน อาทิเช่น ซัลซา, กัวคาโมเล่ หรือซาวครีม เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้รสชาติอร่อยมากขึ้นแนะนำว่าเลือกทำตามแบบที่ใจต้องการดีที่สุด

ทาโก้

ทำความรู้จักกับ ทาโก้ พร้อมกับวิธีการทำไม่ยุ่งยาก

ก่อนจะลงมือทำทาโก้ มาทำความรู้จักกับเมนู อาหารเม็กซิกัน ชนิดนี้กันก่อนดีกว่า โดย เมนูทาโก้ คือ  เป็นเมนูอาหารของเม็กซิกัน แต่ไม่มีรายงานว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงมาจากที่ไหน แต่เชื่อกันว่าเป็นเมนูอาหารของชนเผ่าพื้นเมืองอย่าง มายัน,แอชเท็ค, ลาตินอเมริกา เพราะองค์ประกอบหลักของเมนูจะเล่าถึงวัฒนธรรมเม็กซิโกและลาตินอเมริกาอย่างชัดเจน ส่วน ทาโก้ สูตร ซอสแต่ละพื้นที่จะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันต่อว่าวัตถุดิบที่ต้องเตรียมกับวิธีการทำมีอะไรกันบ้าง

วัตถุดิบสำหรับทำทาโก้

  • แป้งตอร์ติญ่าสำเร็จรูป (มี 2 แบบคือ ทำจากแป้งข้าวโพดหรือแป้งข้าวสาลี) 
  • ซอสทาโก้สำเร็จรูป อาทิเช่นซอสซัลซ่า หรือซอสเนื้อ หรือซาวครีม เป็นต้น (สามารถหาซื้อได้ในห้างสรรพสินค้า) หรือสามารถทำสูตรซอสด้วยตัวเอง 
  • ผักกาดแก้วขูดเส้น 
  • มะนาวหั่นเสี้ยว 
  • เชดด้าชีสขูด, มอซซาเรลลาชีสขูด 
  • ซอสทาบัสโก้ หรือซอสพริก
ทาโก้

สูตรซอสสำหรับคนที่เอง (ซัลซ่า)

วัตถุดิบ

  • มะเขือเทศหั่นเต๋า, หอมแดงสับละเอียด, กระเทียมสับละเอียด, ผักชีสับหยาบ, น้ำมะนาว, เกลือสมุทร, พริกไทยบด, น้ำมันมะกอก

วิธีการทำ 

  • นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในอ่างผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพักไว้ในตู้เย็น เมื่อถึงเวลาทานจะนำออกมาทา
ทาโก้

สูตรซอสทาโก้เนื้อของคนทำเอง

วัตถุดิบ 

  • เครื่องเทศละเอียดอย่าง หอมใหญ่สับละเอียด, กระเทียมกลีบใหญ่สับละเอียด, ผงปาปริก้า, พริกป่นละเอียด, ยี่หร่าป่นละเอียด, ลูกผักชีป่น
  • ไธม์แห้ง 
  • เนื้อวัว หรือเนื้อหมูตามชอบ
  • น้ำมันมะกอก
  • วูสเตอร์ซอส 
  • เครื่องปรุงคือ เกลือ, น้ำตาลทราย, เนยสดหรือจืด, แป้งข้าวโพด
  • น้ำสต๊อกไก่หรือเนื้อ 

วิธีการทำ

  1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกรอให้น้ำมันร้อน โดยใช้ไฟกลาง จากนั้นใส่หอมใหญ่กระเทียมสับผัดให้สุก ตามด้วยเนื้อสัตว์ตามที่ชอบ ผัดจนแห้ง
  2. ใส่เครื่องเทศทั้งหมดลงไปผัดให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยแป้งข้าวโพด และใส่น้ำสต๊อก 
  3. ใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 8-10 นาที หรือจนกว่าน้ำซอสจะงวด ตามด้วยการปรุงรสด้วยน้ำตาล เนยชิมรสให้ได้ตามชอบและตักใส่ถ้วยรอเสิร์ฟ
อาหารเม็กซิกัน

วิธีการประกอบทาโก้

  1. นำแป้งทาโก้ที่เตรียมเอาไว้ใส่ผักกาดแก้ว ตามด้วยทาซอสที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ต้น 
  2. จากนั้นโรยด้วยชีสขูดและใส่มะนาวหั่นพร้อมกับซอสทาบัสโก้ เป็นอันเสร็จขั้นตอน อาหารเม็กซิกัน แนะนำ
อาหารเม็กซิกัน

เคล็ดลับการทำอาหารเม็กซิกันให้อร่อย 

ในการทำ ทาโก้ (TACO) จะมีหลักการทำไม่ยากและไม่มากความ เพราะเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำง่าย แถมทานก็ง่ายและยังอร่อยอีกด้วย จนทำให้เป็นเมนูอร่อยที่หลายคนยกให้เป็นนัมเบอร์วัน สำหรับทริคการทำของเมนู อาหารเม็กซิกัน นี้คือ “ซอส” ซึ่งเป็นหัวใจของความอร่อย ซึ่งขั้นตอนการทำ ซอสทาโก้ วิธีทํา หลัก ๆ คือจะต้องใช้ไฟกลางไม่ควรแรง เพราะอาจจะทำให้ซอสไหม้ จนทำให้เสียรสชาติได้ ส่วนแป้งทาโก้ถ้าให้ดีที่สุดควรเป็นแป้งทำสดใหม่ ๆ จะให้รสชาติที่ดีและอร่อยมากกว่า

อาหารเม็กซิกัน

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet

READ MOREREAD MORE
พิซซ่าเวียดนาม

พิซซ่าเวียดนาม แป้งกรอบนาน ไส้แน่นสะใจพิซซ่าเวียดนาม แป้งกรอบนาน ไส้แน่นสะใจ

พิซซ่าเวียดนาม

พิซซ่าเวียดนาม หรือที่ชาวเวียดนามเรียกกันว่า BAHN TRANG NOUNG อาหารว่างทานเล่นที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับพิซซ่าที่เรารับประทานกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งนับว่าเป็น เมนูอาหารเวียดนาม ทำง่ายที่มีความหลากหลายอยู่ไม่น้อย หากมีโอกาสได้ลองทานจะรู้เลยว่าสามารถเลือกวัตถุดิบตกแต่งหน้าตาได้หลากหลาย แถมรสชาติยังอร่อยอย่าบอกใครเลยทีเดียว ในบทความนี้เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบยก สูตรพิซซ่าเวียดนาม มาบอกต่อให้ได้ลองทำตามด้วยค่ะ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ พิซซ่าเวียดนาม เมนูทำง่าย รังสรรค์ได้หลากหลาย

พิซซ่าเวียดนาม มีลักษณะคล้ายคลึงกับโตเกียว แต่จะแตกต่างกันตรงที่แผ่นแป้งจะมีขนาดใหญ่ และแข็งกว่า รวมถึงใส่วัตถุดิบต่างๆได้มากกว่า เมนูนี้ตามร้านค้าที่เราเห็นอยู่ทั่วไปนั้นมักจะใช้เตาถ่านร้อนๆในการปิ้งไปมาให้แผ่นแป้ง และส่วนผสมอื่นๆสุก ถือเป็น พิซซ่าเวียดนาม ต้นฉบับ ที่หอมคละคลุ้งเครื่องเทศ ผสานความหอมเฉพาะตัวของเตาถ่าน แต่หากใครไม่มีเตาถ่านก็สามารถทำ พิซซ่าเวียดนาม หม้ออบลมร้อน หรือกระทะที่มีอยู่ติดครัวก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราไปเตรียมวัตถุดิบกันเลย

วัตถุดิบทำ พิซซ่าชีสเวียดนาม

  1. แผ่นแป้งปอเปี๊ยะเวียดนาม
  2. กุ้งแห้ง ปริมาณตามชอบ
  3. ต้นหอมซอย ปริมาณตามชอบ
  4. ไข่ไก่ 5 ฟอง (ตีให้เข้ากัน)
  5. ไส้กรอกหั่นชิ้น ปริมาณตามชอบ
  6. ปูอัดฝอย ปริมาณตามชอบ
  7. มอสซาเรลล่าชีส เชดด้าชีด
  8. ซอสมะเขือเทศ ปริมาณตามชอบ
  9. ซอสพริก ปริมาณตามชอบ
  10. มายองเนส ปริมาณตามชอบ
พิซซ่าเวียดนาม

ขั้นตอนวิธีทำ 

  1. ขั้นตอนแรกในการทำ พิซซ่าเวียดนามง่ายๆ เริ่มจากการตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ใส่แผ่นแป้งปอเปี๊ยะเวียดนามลงไป ตามด้วยต้นหอมซอย กุ้งแห้ง และไข่ไก่ทาให้ทั่วแผ่นแป้ง เพื่อให้แป้งสุกทั่วกัน 
  2. ตกแต่งหน้า พิซซ่าเวียดนาม ด้วยไส้กรอก และปูอัดปริมาณตามชอบเลยค่ะ (ระหว่างนี้ให้ขยับกระทะเพื่อให้ความร้อนกระจายตัวให้ทั่ว) จากนั้นราดซอสพริก ซอสมะเขือเทศ มายองเนส และใส่มอสซาเรลล่าชีสให้ทั่ว 
  3. เมื่อส่วนผสมทั้งหมดสุกแล้ว ให้พับครึ่งเข้าหากันแล้วนำออกจากกระทะ ไปจัด พิซซ่าเวียดนามทำเอง ใส่จานเสิร์ฟรับประทานได้เลยค่ะ
พิซซ่าเวียดนาม

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ อาหารเวียดนาม ง่ายๆ ที่สามารถนำสูตรไปทำตามได้เองที่บ้าน แม้จะมีกระทะเพียงใบเดียวก็สามารถทำ พิซซ่าเวียดนาม ทานได้แล้ว หรือหากใครจะทำขายสร้างรายได้ก็สามารถทำได้เช่นกัน แถมวัตถุดิบส่วนใหญ่ไม่เน่าไม่เสีย สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน แน่นอนว่าทำขายแล้วไม่ขาดทุนแน่นอนค่ะ

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/

READ MOREREAD MORE
เป็ดปักกิ่ง

ใครว่า เป็ดปักกิ่ง ต้องไปที่ร้านเท่านั้น อยากทำเองก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยสูตรนี้ใครว่า เป็ดปักกิ่ง ต้องไปที่ร้านเท่านั้น อยากทำเองก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยสูตรนี้

เป็ดปักกิ่ง

สำหรับ เป็ดปักกิ่ง นั้นต้องยกให้เป็นเมนูในวันพิเศษที่เมื่อไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัวมักจะต้องมีมาไว้ แต่ถ้าอยากลองทำเองจะต้องเตรียมอะไร และทำอย่างไรบ้าง วันนี้เราหยิบเอาเมนูระดับภัตตาคารมาให้คุณได้ลองแกะสูตร แล้วลองทำไปพร้อมกันแล้ว รับรองว่าอร่อยถูกใจไม่แพ้ที่ร้านแน่นอน

ความเป็นมาของเมนู เป็ดปักกิ่ง

เป็ดปักกิ่ง

ชื่อของ เป็ด ปักกิ่ง จัดว่าเป็นชื่อที่สะดุดตาไม่น้อย ที่มาที่ไปของชื่อนี้เริ่มมาจากเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน แถมมีมาตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1275 กันเลยทีเดียว ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังอยู่เป็นวัฒนธรรมอาหารจีน รวมทั้งเมนูอาหารจีนโบราณที่นิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน เพราะด้วยความลงตัวของแผ่นหนังบางกรอบ สีน้ำตาลแวววาว ทานคู่กับแผ่นแป้งบางสำหรับห่อ ตามด้วยซอสหวาน และ เครื่องเคียงต่าง ๆ ทำให้รสชาติลงตัว แถมเนื้อก็ยังนุ่มอร่อย จนทำให้เป็นอาหารจีนที่นิยมนั่นเอง

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมเพื่อทำ เป็ดปักกิ่ง

ใครที่อยากลองทำเป็ดปักกิ่ง บอกเลยว่าไม่ยาก แต่อาจมีหลายขั้นตอนที่ต้องการความพิถีพิถัน แต่ทุกคนสามารถทำเป็ด ปักกิ่งได้อย่างแน่นอน พร้อมแล้วเรามาเตรียมวัตถุดิบทำอาหารจีนกันดีกว่า

เป็ดปักกิ่ง
  • วัตถุดิบของเป็ดปักกิ่ง เยาวราช
    • เป็ดสด 1 ตัว (แนะนำให้ซื้อแบบพร้อมทำ)
    • ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
    • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
    • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
    • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
    • แบะแซ 1 ช้อนโต๊ะ
    • พริกไทย ½ ช้อนโต๊ะ
    • กระเทียม 6 กลีบ
    • รากผักชี 4 ราก
    • เครื่องเคียง เช่น แตงกวาหั่นแท่ง หัวต้นหอมซอย
  • ส่วนผสมน้ำราดตัวเป็ด
    • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
    • เกลือ 1 ช้อนชา
    • น้ำส้มสายชู 4 ช้อนชา
    • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
    • สีผสมสีแดง 1 ช้อนชา
    • น้ำเปล่า
เป็ดปักกิ่ง
  • ส่วนผสมแป้งเป็ดปักกิ่ง
    • แป้งสาลี 1 ถ้วย
    • แป้งมัน 1 ถ้วย
    • น้ำมันหมู 3 ช้อนโต๊ะ
  • ส่วนผสมน้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง
    • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
    • เต้าเจี้ยว 1 ถ้วย

วิธีทำ เป็ดปักกิ่ง

เมื่อเตรียมวัตถุดิบเป็ดปักกิ่งเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลามาเริ่มทำเมนูอาหารจีนยอดนิยมเมนูนี้กันแล้ว บอกเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาอร่อยเหมือนเป็ดปักกิ่ง mk และร้านดังต่าง ๆ อย่างแน่นอน

เป็ดปักกิ่ง
  1. นำเป็ดสดที่เตรียมเอาไว้อย่างสะอาด มาเป่าลม เพื่อให้หนังเป็ดกับตัวเป็ดแยกออกจากกัน จากนั้นสับขา ปีก และคอออกจากตัวเป็ด เตรียมไว้
  2. นำรากผักชี พริกไทย กระเทียม มาโขลกให้ละเอียด นำไปผสมกับ ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย น้ำตาลทรายแดง แบะแซ และเหล้าจีน ผสมจนเข้ากัน นำไปยัดในท้องเป็ด พักไว้
  3. มาเริ่มทำน้ำราดตัวเป็ด ด้วยการตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า แล้วต้มจนน้ำเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้ง และเกลือ คนให้ละลายเข้ากันดี แล้วใส่สีผสมอาหารลงไป รอให้น้ำเดือด แล้วปิดเตา
  4. นำเป็ดที่เตรียมไว้มาราดด้วยน้ำราดให้ทั่ว หลาย ๆ รอบ และนำไปตากแดดไว้ จนสังเกตว่าหนังแห้งตึง ขั้นตอนนี้ควรทำอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  5. นำเป็ดที่ตากไว้มาอบด้วยหม้ออบลมร้อน ใช้ไฟ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 45 นาที เมื่อครบเวลานำเป็ดออกมาพลิกด้าน อบต่ออีก 35 นาที
  6. เมื่อเป็ดสุกนำออกจากเตา แล่เอาส่วนหนังกรอบออกแล้วจัดใส่จาน (สามารถแล่แบบติดเนื้อมาได้ถ้าชอบ)
  7. มาเริ่มทำแป้ง โดยการเตรียมชามผสม นำแป้งสาลี กับแป้งมัน นวดให้เข้ากันจนเหนียว ปั้นเป็นท่อนกลม ๆ แล้วตัดเป็นก้อนเล็ก ๆ ใช้ไม้คลึงแผ่เป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำไปผิงไฟที่เตาให้สุก แล้วเก็บเอาไว้ในตู้เย็น
  8. ทำน้ำจิ้ม ด้วยการนำเต้าเจี้ยว และน้ำตาลทราย มาเคี่ยวจนเปื่อย (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) จากนั้น กรองเอากากทิ้ง แล้วเก็บส่วนน้ำพักเตรียมไว้
  9. นำหนังเป็ดที่จัดใส่จานเตรียมไว้ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้ม แผ่นแป้ง และเครื่องเคียง

เป็ดปักกิ่งกินอย่างไร

เมื่อรู้วิธีทำกันไปแล้ว แต่ยังไม่รู้วิธีกินเป็ดปักกิ่ง เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับเมนู เป็ด ปักกิ่ง ให้ครบจบทุกขั้นตอนในบทความนี้กันดีกว่า

เป็ดปักกิ่ง
  • เตรียมแผ่นแป้ง หนังเป็ด และผัก มารวมไว้ด้วยกัน
  • เมื่อได้คำที่ต้องการแล้วให้ราดด้วยน้ำจิ้ม
  • ห่อให้กินง่าย จากนั้นก็กินกันได้เลย

วันนี้ได้รู้จักเป็ดปักกิ่งกันแบบครบทุกมุมเรียบร้อยแล้ว ใครที่อยากลองทำเองจะเห็นเลยว่าขั้นตอนไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลา และผ่านการเตรียมวัตถุดิบที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะที่จะเป็นกิจกรรมในครอบครัว หรือปาร์ตี้ที่จะได้รวมแชร์ช่วงเวลากัน แต่ถ้าใครอยากกินแบบเร็วทันใจ ลุยเข้าร้านอาหารจีน รับรองว่ามีพร้อมเสิร์ฟอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

READ MOREREAD MORE
จับ แช

จับ แช ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลี หอมกลิ่นน้ำมันงาจับ แช ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลี หอมกลิ่นน้ำมันงา

จับ แช

ในยุคที่กระแสเกาหลีฟีเวอร์แบบนี้ เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบยกอาหารเกาหลี ที่มีชื่อว่า จับ แช JAPCHAE มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ซึ่งชับแช,ฉับเช,จับเช หรือ จับแช คือ เมนูที่คล้ายกับผัดวุ้นเส้นของไทย แต่จะใช้วุ้นเส้นของเกาหลีที่เรียกว่า “ทังมยอน” ที่มีความหนาและเหนียวนุ่มกว่าคลุกเคล้าในน้ำมันงา พร้อมกับส่วนผสมของเนื้อวัว ไข่ และผักหลากชนิด โดยเมนูนี้ได้รับความนิยมมากในประเทศเกาหลี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลจะนิยมกันเป็นพิเศษ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ จับ แช เมนูอาหารเกาหลียอดนิยม

ในปัจจุบันเราสามารถหาทาน จับ แช หรือ ผัดวุ้นเส้นเกาหลี  ได้ง่ายทั่วไปตามร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย ในบางร้านนั้นจะลดขั้นตอนการทำที่หลายขั้นตอนลง โดยทำให้เป็น อาหารเกาหลีง่ายๆ ด้วยการใช้ซอสจับแชแบบสำเร็จรูปแทน ซึ่งแน่นอนว่ารสชาตินั้นแม้จะอร่อย แต่ก็มีความแตกต่างจากสูตรต้นตำรับอยู่มาก เราจึงแนะนำให้ใช้สูตรที่เรานำมาบอกต่อ เพื่อให้ได้ลิ้มลองอาหารเกาหลีดั้งเดิม ที่อร่อยไม่แพ้เชฟเกาหลีทำเองเลย ซึ่งในสูตรนี้เราขอแบ่งวัตถุดิบออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

วัตถุดิบสำหรับหมักเนื้อ

  1. เนื้อวัวหั่นชิ้น 300 กรัม
  2. กระเทียมจีนสับ 2 กลีบ
  3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  4. งาขาวคั่ว 2 ช้อนชา
  5. น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสถั่วเหลือง (กันจัง) 1 ช้อนโต๊ะ
  7. มิริน 1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. พริกไทยดำ ปริมาณตามชอบ

วัตถุดิบผัก และไข่ฝอย

  1. ผักโขม 400 กรัม
  2. หอมใหญ่ซอย 1 หัว
  3. แครอทซอย 1 หัว
  4. เห็ดชิทาเกะสด หั่นชิ้นบาง 4 ดอก
  5. พริกหวานสีแดงซอย 1/4 หัว
  6. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  7. น้ำมันพืช 
  8. เกลือ ½ ช้อนชา

วัตถุดิบทำเส้น จับแช

  1. วุ้นเส้นเกาหลี ทังมยอน 250 กรัม
  2. กระเทียมจีนสับหยาบ 2 กลีบ
  3. ซอสถั่วเหลือง (กันจัง) 1/3 ถ้วยตวง
  4. น้ำมันงา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกไทยดำ ปริมาณตามชอบ
จับ แช

ขั้นตอนวิธีทำ 

  1. ขั้นตอนแรกในการทำจับแช เริ่มจากการหมักเนื้อ โดยใส่เนื้อลงไปในชามผสม ตามด้วยวัตถุดิบในส่วนที่ 1 ที่เตรียมไว้ทั้งหมด (กระเทียม พริกไทยดำ น้ำตาลทราย งาขาวคั่ว น้ำมันงา ซีอิ๊วขาวเกาหลี มิริน) ใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วห่อชามผสมด้วยแผ่นถนอมอาหาร และนำไปพักไว้ในตู้เย็น
  2. นำมาผักโขมไปลวกในน้ำเดือดเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นนำไปกรองน้ำออกด้วยตะแกรง และล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดแล้วบีบน้ำออกให้พอหมาด นำมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำ ปรุงรสด้วยน้ำมันงา และซีอิ๊วขาวเกาหลี
  3. ตีไข่ที่เตรียมไว้ผสมกับเกลือให้เข้ากัน ตั้งกระทะเทฟล่อนทาน้ำมันให้ทั่ว รอให้ร้อนแล้วปรับเป็นไฟอ่อนก่อนจะใส่ไข่ที่เตรียมไว้ลงไปทอด เมื่อด้านล้างสุกแล้วให้พลิกกลับด้าน พักไว้ให้เย็นก่อนจะนำมาซอยให้เป็นเส้นเล็กๆ
  4. ตั้งกระทะด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ใส่น้ำมันลงไปในกระทะเล็กน้อย ใส่หัวหอมและต้มหอมลงไปผัดพร้อมกันจนเริ่มมีสีใส นำออกไปพักไว้แล้วใส่น้ำมันผัดเห็ดและเกลือต่อในกระทะใบเดียวกัน ผัดให้หอมแล้วนำออกไปพักไว้ จากนั้นใส่น้ำมันแล้วนำแครอทและพริกหวานลงไปผัดต่อ และนำออกมาพักไว้เช่นเดียวกัน
  5. ต่อมาให้ใส่น้ำมันลงไปในกระทะรอให้ร้อนแล้วใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไปผัดให้สุก
  6. นำวุ้นเส้นทังมยอน หรือวุ้นเส้นเกาหลีมาต้มในน้ำเดือดเป็นเวลา 10 นาที หรือจนกว่าจะสุกนุ่มดีแล้วนำไปกรองน้ำออกด้วยตะแกรง ใช้กรรไกรตัดเส้นให้สั้นลง 
  7. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงไปในชามผสม (ผัก เนื้อ ไข่ไก่ และวุ้นเส้น) ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง น้ำตาลทราย น้ำมันงา พริกไทยดำ และกระเทียมสับ จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำใส่จาน โรยหน้าด้วยงาขาวคั่ว และจัดเสิร์ฟ อาหารเกาหลี ของเราได้เลยค่ะ
จับ แช

READ MOREREAD MORE
โอ ยา โกะ ด้ง

โอ ยา โกะ ด้ง หรือข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ อาหารญี่ปุ่นยอดนิยมโอ ยา โกะ ด้ง หรือข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ อาหารญี่ปุ่นยอดนิยม

โอ ยา โกะ ด้ง

คอนนิจิวะ บทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำ เมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ซึ่งก็คือ โอ ยา โกะ ด้ง (OYAKODON) ชื่อนี้มาจากคำว่า OYA หมายถึงพ่อแม่ KO หมายถึงลูก และ DON หมายถึง ข้าว ซึ่งเป็นการอุปไมยถึงข้าวราดไก่กับไข่นั่นเอง เมนูนี้ถูกคิดค้นในปี ค.ศ.1891 โดยร้านอาหารแห่งหนึ่งในโตเกียวที่มีชื่อว่า “ทามาฮิเดะ” แต่เดิมนั้นเป็นเพียงเมนูหม้อที่ใส่เนื้อไก่และไข่ไก่เท่านั้น จนเวลาต่อก็ถูกดัดแปลงแบะเรียกว่า สูตรโอยาโกะด้ง กลายเป็นเมนูที่ราดข้าว เพื่อให้ทานได้ง่าย และสะดวกรวดเร็วขึ้น 

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ โอ ยา โกะ ด้ง เมนูอาหารญี่ปุ่น ทำง่าย

โอยาโกะด้ง คือ ข้าวราดหน้าหน้าไก่และไข่ของชาวญี่ปุ่น เป็นหนึ่งใน อาหารญี่ปุ่นง่ายๆ ที่เราอยากแนะนำให้ได้ลองทำทานกัน ไม่ต้องไปหาซื้อโอ ยา โกะ ด้ง ไกลถึงประเทศญี่ปุ่น เพียงหาวัตถุดิบที่หาซื้อได้ง่ายในประเทศไทย และลงมือทำด้วยตัวเองโดยใช้สูตรง่ายๆ ใช้เวลาในการทำไม่นาน ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าทำง่ายมาก ไม่ต้องใช้ขั้นตอนมากมายเลยค่ะ รับรองว่าอิ่มอร่อย และได้ประโยชน์จากวัตถุดิบอย่างแน่นอน

วัตถุดิบทำ โอยาโกะด้ง 

  1. สะโพกไก่ไร้หนัง หั่นชิ้น 300 กรัม
  2. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  3. หอมหัวใหญ่ซอย ½ หัว
  4. ต้นหอมซอย  1 ต้น
  5. ชิโรดาชิ  2 ช้อนโต๊ะ
  6. มิริน  2 ช้อนโต๊ะ
  7. โชยุ  ½  ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
  10. เหล้าสาเกสำหรับดับกลิ่นคาวของไก่
โอ ยา โกะ ด้ง

ขั้นตอน วิธีทำโอยาโกะด้ง

  1. ขั้นตอนแรกในการทำโอ ยา โกะ ด้ง ง่ายๆ เริ่มจากการผสมเครื่องปรุงทั้งหมดให้ละลายเข้ากันกับน้ำเปล่า (ชิโรดาชิ มิริน โชยุ น้ำตาล) 
  2. ใส่เนื้อไก่หั่นชิ้นลงไปในชามผสม ตามด้วยการใส่เหล้าสาเกเพื่อดับกลิ่นคาวของไก่ พักไว้
  3. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปในชามผสม คนเบาๆให้ไข่แดงแตก 
  4. ใส่เครื่องปรุงที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกลงไปในกระทะ ตามด้วยหอมใหญ่ และเนื้อไก่ลงไปเรียงให้ทั่วกระทะ เปิดเตาด้วยไฟแรง น้ำเดือดแล้วให้เปลี่ยนเป็นไฟกลางเคี่ยวต่อเป็นเวลา 5 นาที หรือจนกว่าไก่จะสุก (ระหว่างนี้ให้ช้อนฟองออกให้หมดนะคะ)
  5. เมื่อเนื้อไก่สุกแล้วให้ใส่ไข่ประมาณ 1/3 ของที่เตรียมไว้ เทลงไปให้ทั่วแล้วรอให้ไข่เริ่มสุก จึงใส่เพิ่มอีก 1/3 รอจนเริ่มสุกอีกครั้งแล้วใส่ไข่ส่วนที่เหลือลงไปจนหมด พอไข่สุกจนเป็นที่พอใจแล้วให้ปิดเตาตักเรียงบนข้าวร้อนๆ โรยหน้าด้วยต้นหอมได้เลย
โอ ยา โกะ ด้ง

จบลงไปแล้วกับ อาหารญี่ปุ่น แนะนำเมนูโอ ยา โกะ ด้ง แสนอร่อย รสชาติไม่จัดจ้าน หวาน และเค็มกำลังดี สามารถทำทานเองได้บ่อยตามต้องการ เพียงแค่ใช้สูตรนี้ที่เรานำมาบอกต่อ และหากใครอยากทำเมนูนี้ให้ลูกๆของคุณทาน ก็สามารถตัดวัตถุดิบที่ไม่เหมาะกับเด็กออกไปได้เลยค่ะ

READ MOREREAD MORE
ราเมง

ราเมง เมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่คนรักเส้นต้องห้ามพลาดราเมง เมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่คนรักเส้นต้องห้ามพลาด

ราเมง หรือราเมน (RAMEN) คือ บะหมี่น้ำของชาวญี่ปุ่น ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 อย่างคือ เส้นบะหมี่ญี่ปุ่นที่มีทั้งเส้นแบบหยัก และแบบตรง , เครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น หมูชาชู (เนื้อหมูย่าง) ต้นหอม ลูกชิ้นปลาคะมะโบโกะ ข้าวโพดหวาน ไข่ต้มยางมะตูม ฯลฯ และน้ำซุปที่มีการปรุงรสให้มีรสชาติอร่อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละจังหวัด 

ราเมง กับน้ำซุปที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ใครที่อยากลองจะลองทานราเมง กันดูสักครั้ง แต่ยังตัดสินใจไม่ถูกเมื่อไปร้าน อาหารญี่ปุ่น แล้วเปิดเมนูราเมง ขึ้นมาแล้วพบว่ามีมากจนเลือกไม่ถูก เราขอแนะนำน้ำซุปที่ได้รับความนิยมให้ทุกคนได้รู้จัก ดังนี้

  • ราเมงซุปกระดูกหมู/ราเมงทงคตสึ (TONKOTSU RAMEN) น้ำซุปสีขาวนวล รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ไม่จัดจ้าน เข้ากันได้ดีกับเส้นแบบตรงบาง มีกลิ่นหอมของกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวมาเป็นเวลานาน 
  • ราเมงมิโซะ (MISO RAMEN) น้ำซุปที่เรียกว่าแสดงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยความที่มีรสชาติเข้มข้นของมิโสะ และเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น รสชาติถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน
  • ราเมงโชยุ (SHOYU RAMEN) น้ำซุปที่เหมาะสำหรับคนที่ทานราเมนเป็นครั้งแรก มีส่วนผสมของโชยุ หรือซีอิ๊วญี่ปุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อม มีน้ำซุปสีน้ำตาลใส
  • ราเมงซุปเกลือ/ราเมงชิโอะ (SHIO RAMEN) น้ำซุปที่มีรสชาติอ่อน ๆ ของเกลือ แต่กลมกล่อมลงตัว น้ำซุปสีสดใส มีประวัติยาวนานที่สุด และถือว่าทำยากที่สุดอีกด้วย 

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ ราเมง ทงคตสึ

อาหารญี่ปุ่น ขึ้นชื่อ อย่าง ราเมง ทงคตสึ เป็นเมนูที่ทำง่าย แต่ใช้เวลาในการเคี่ยวน้ำซุปให้อร่อยกลมกล่อมค่อนข้างนาน บางสูตรนั้นถึงขั้นเคี่ยวไว้เป็นวัน ๆ เลยทีเดียว เพื่อให้ได้น้ำซุปที่กลมกล่อมที่สุด แต่ สูตรราเมนทงคตสึ ที่เรานำมาแนะนำนี้ ไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้น หากใครอยากลองทำทานด้วยตัวเอง มาดูวัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบทำน้ำซุปทงคตสึ

  1. กระดูกเล้ง 1 กิโลกรัม
  2. ซี่โครงหมูอ่อน 1 กิโลกรัม
  3. กระดูกไก่ 500 กรัม
  4. ต้นหอมใหญ่หั่นชิ้น 2 ต้น
  5. หัวหอมหั่นชิ้น 2 หัว
  6. กระเทียมจีนหั่นชิ้น 5 กลีบ
  7. ขิงแก่หั่นชิ้น 6 แว่น
  8. น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ
  9. โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ซุปไก่ 2 ก้อน
  11. มิริน 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ผงดาชิ 15 กรัม

วัตถุดิบอื่น ๆ 

  1. เส้นราเมน ปริมาณตามชอบ
  2. น้ำเปล่าสำหรับต้มน้ำซุป
ราเมง
https://www.vegan.io/recipes/tonkotsu-ramen

ขั้นตอนวิธีทำ ราเมง ทงคัตสึ

  1. ขั้นตอนแรกนำกระดูกเล้ง ซี่โครงหมูอ่อน และกระดูกอ่อนมาล้างด้วยแป้งมันหลาย ๆ น้ำให้สะอาด ก่อนจะนำไปลวกในหม้อที่น้ำเดือดจัดเป็นเวลา 10 นาที และนำออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อขจัดคราบไขมัน
  2. เตรียมน้ำเปล่าใส่ลงไปในหม้อให้ร้อน จากนั้นใส่ส่วนผสมในขั้นตอนแรกลงไปตามด้วยเครื่องต้มอย่าง ต้นหอมใหญ่ หัวหอม กระเทียมจีน และขิงแก่ ต้มรวมกัน และปรุงรสด้วยผงดาชิ น้ำตาลกรวด โชยุ มิริน และซุปไก่ก้อน คนให้เข้ากันแล้วเคี่ยวต่อจนเนื้อเริ่มเปื่อย จากนั้นให้ตักซี่โครงกระดูกอ่อนออกมาพักไว้ และเคี่ยวต่อจนเนื้อหลุดออกจากกระดูก โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 
  3. เมื่อน้ำซุปได้ที่แล้วให้นำมากรองใส่ชามผสมด้วยตะแกรง ทำการแยกเศษกระดูกออกจากเนื้อแล้วนำไปปั่นให้ละเอียด เพื่อนำมาผสมเพิ่มความเข้มข้นของน้ำซุป จากนั้นตักฟองที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำซุปออกให้หมด
  4. นำส่วนผสมของน้ำซุปไปตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้สามารถชิมน้ำซุป และปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบเลยค่ะ จากนั้นลวกเส้นราเมนให้สุกดี ตักน้ำซุปใส่ถ้วยก่อนจะนำเส้นใส่ลงไป ตกแต่งด้วยซี่โครงกระดูกอ่อนที่พักไว้ และท็อปปิ้งอื่น ๆ เช่น หมูชาชู สาหร่าย ไข่ต้ม หอมซอย

READ MOREREAD MORE