หมวดหมู่: อาหารไทย

ส่องเมนูอาหารภาคกลางขึ้นชื่อ

ส่องเมนูอาหารภาคกลางขึ้นชื่อ รสเด็ดส่องเมนูอาหารภาคกลางขึ้นชื่อ รสเด็ด

ส่องเมนูอาหารภาคกลางขึ้นชื่อ รสเด็ด
ส่องเมนูอาหารภาคกลางขึ้นชื่อ

               อาหารภาคกลางเป็นอาหารที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เผ็ดจนเกินไปรวมถึงเป็นรสชาติที่ใครหลายคนมักคุ้นชินกันเป็นอย่างดีซึ่งขอบอกว่าเมนูอาหารภาคกลางนั้นจะเน้นใช้ส่วนผสมของกะทิเป็นหลักรสชาติของอาหารจะเน้นความกลมกล่อมมีทุก รสชาติเข้ากันอย่างลงตัวซึ่งการทำอาหารในภาคกลางนั้นมักจะเรียกชื่อตามการปรุงและวิธีการประกอบอาหารเช่นถ้าหากอาหารมีหน้าตาที่ออกจะเป็นสีส้มหน่อยๆ มักจะเรียกกันว่าแกงส้มนั่นเอง

| 1.แกงไก่
แกงไก่

               แกงไก่เมนูขึ้นชื่อที่ขอนำเสนอเดิมทีเมนูนี้เป็นเมนูที่ใส่เนื้อวัวลงไปแต่ได้มีการนำมาประยุกต์ให้เปลี่ยนจากคนที่ไม่ทานเนื้อวัวเป็นเนื้อไก่แทนสูตรนี้รับรองว่าอร่อยติดใจได้รับทั้งความหอมกลมกล่อมอย่างแน่นอน

วัตถุดิบแกงไก่
  • ส่วนผสม แกงไก่
  • เนื้อไก่หั่นชิ้น
  • หางกะทิ
  • น้ำพริกแกง
  • หัวกะทิ
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำปลา
  • มะเขือเปราะ
  • มะเขือพวง
วิธีทำ

    1.เทหางกะทิลงไปในหม้อ ใส่เนื้อวัวลงไปคนให้เข้ากัน เคี่ยวจนเริ่มเปื่อย ยกลงจากเตา เตรียมไว้

    2.ตั้งกระทะใส่หัวกะทิลงไปผัดจนเดือด ตามด้วยพริกแกง ผัดจนกะทิแตกมันหลังจากนั้นให้ใส่พริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟต้มและคนให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นเบาไฟลง ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลา แนะนำว่าในการปรุงรสด้วยน้ำปลา ให้ปรุงตอนที่น้ำกำลังเดือดจะได้รสชาติความหอมของน้ำปลาที่กำลังพอดี

    3.หลังจากนั้นหั่นมะเขือเปราะแบบผ่า 4 ส่วนแล้วใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยมะเขือพวงและพริกชี้ฟ้า คนให้เข้ากันรอจนเดือดอีกครั้งใส่ใบโหระพาลงไปคนต่อสักครู่ ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

| 2. แกงส้มชะอมไข่
แกงส้มชะอมไข่

               แอบกระซิบว่าแกงส้มทุกภาคในประเทศไทยมีสีสันและรสชาติที่ไม่เหมือนกันสำหรับภาคกลางจะมีทั้งความหวานและความเปรี้ยวตัดกับรสชาติของไข่ชะอมที่หอมมันด้วยเครื่องแกงหลายชนิดผสมภาษาอกันขอบอกว่าเป็นความอร่อยที่ลงตัวอย่างแน่นอน

วัตถุดิบ 
  • ไข่ไก่
  • ชะอม
  • น้ำปลา
  • น้ำมันพืช
  • กุ้งสด
  • พริกแกงส้ม
  • น้ำมะขามเปียก
  • น้ำตาลปี๊บ
  • น้ำเปล่า
วัตถุดิบ พริกแกงส้ม
  • พริกแห้ง
  • หอมแดง
  • กะปิ
ขั้นตอนการทำแกงส้มชะอมไข่

    1.ขั้นตอนแรกให้ทำการเตรียมไข่ ตอกไข่ลงไปในจานที่ใช้สำหรับการเจียว เจียวไข่ ใส่ชะอม พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้

    2.หลังจากนั้นเริ่มโขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้ละเอียด ขั้นตอนนี้ใครที่ไม่อยากเตรียมมีพริกแกงสำเร็จขายสามารถทำได้เลย

    3.นำหม้อใส่น้ำเปล่า ตั้งไฟปานกลาง รอเดือดใส่เครื่องพริกแกงส้มลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม พอน้ำเดือดจัด ให้ใส่กุ้งลงไป ชิมรสชาติและปรุงตามใจชอบ ถ้าหากเป็นรสชาติทางภาคกลางจะเน้นเปรี้ยวหวานและเค็มตาม

    4.ตักแกงส้มใส่ถ้วย ตามด้วยชิ้นไข่เจียวชะอมทอด เสิร์ฟในขณะที่ยังร้อนรับรองว่าอร่ยติดใจอย่างแน่นอน

| 3. แกงเทโพ
แกงเทโพ

               เมนูนี้เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในสมัยอดีตซึ่งขอบอกว่าในปัจจุบันมีการหาทานได้ยากเนื่องจากเครื่องแกงที่ต้องใช้เครื่องแกงโดยเฉพาะรวมถึงขั้นตอนการทำที่ยากหลายบ้านมักจะซื้อทานมากกว่าทำแกงเทโพทานเองแต่วันนี้เราจะบอกวิธีการทำแกงเทโพที่ไม่ยากอย่างที่คิดใครๆก็ทำได้

วัตถุดิบ 
  • หัวกะทิ
  • น้ำพริกแกงเผ็ด
  • หมูสามชั้น
  • น้ำกะทิ
  • มะขามเปียก
  • น้ำสะอาด
  • น้ำตาลปี๊บ
  • น้ำปลา
  • เกลือป่น
  • ผักบุ้งไทย
  • มะกรูดหั่นแว่น
  • ใบมะกรูด
ขั้นตอนการทำแกงเทโพ

    1.ขั้นตอนเริ่มแรก ให้ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง เทหัวกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง รอจนเดือดและแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไป ผัดผสมจนเข้ากัน พอกลิ่นหอมและแตกมัน ใส่หมูสามชั้นลงไป ผัดพอหมูสุก ค่อย ๆ เทน้ำกะทิลงไป จากนั้นก็เร่งไฟให้แรงขึ้น ขั้นตอนการเทกะทิ ไม่ควรเทจนหมด เพราะจะได้รสชาติของเครื่องแกงที่เจือจาง เทเท่าส่วนผสมของเครื่องแกงที่กำลังพอดี

    2.ต่อมาเริ่มปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เกลือป่น และน้ำปลา รอให้เดือด ชิมรสชาติตามใจชอบได้เลย

    3.และขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะตักใส่จาน เร่งไฟให้น้ำแกงเดือดจัด ใส่ผักบุ้งกับลูกมะกรูดลงไป กดให้ผักบุ้งจมน้ำ จากนั้นก็รอให้เดือดและผักบุ้งสุกนิ่ม โรยใบมะกรูด ราดด้วยหัวกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน รอเดือด ปิดไฟ ตักใส่ชามพร้อมรับประทาน

READ MOREREAD MORE
6 เมนูอาหารไทย ที่ชาวต่างชาติชอบ

6 เมนูอาหารไทย ที่ชาวต่างชาติชอบ6 เมนูอาหารไทย ที่ชาวต่างชาติชอบ

6 เมนูอาหารไทย ที่ชาวต่างชาติชอบ
6 เมนูอาหารไทย ที่ชาวต่างชาติชอบ

               อาหารไทยเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อและได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติล้วนอยากมาทานอาหารไทยด้วยกันทั้งนั้นนอกจากนี้อาหารไทยยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่ดึงดูดคนได้ทั่วโลกเพราะมีรสจัดจ้านวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันดีกว่าว่าชาวต่างชาติที่มาประเทศไทยจะชอบเมนูอะไรกันบ้าง

| 1.ส้มตำ
ส้มตำปูปลาร้า

               เปิดกันมาที่เมนูแรกเป็นเมนูที่เรียกได้ว่าถูกปากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างแท้จริงส้มตำเป็นอาหารของชาวพื้นเมืองทางฝั่งอีสานซึ่งจะมีรสชาติที่จัดจ้านคลุกเคล้าไปด้วยการปรุงรสน้ำปลาเปรี้ยวหวานและเค็มซึ่งรสชาติจะอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของเราโดยเฉพาะและแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่แซ่บแล้วต้องมีรสชาติเผ็ดอย่างแน่นอนถือว่าเป็นเมนูยอดนิยมที่ชาว ต่างชาติมักจะมาทานกัน

| 2.ต้มยำกุ้ง
ต้มยำกุ้ง

               ต้มยำกุ้งเรียกได้ว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของประเทศไทยกันเลยทีเดียวถือเป็นเมนูที่ฮิตตลอดกาลสามารถบ่งบอกความเป็นไทยแท้ได้อย่างลงตัวเมนูนี้เป็นเมนูที่ชาวต่างชาติมักจะชอบมากเป็นอันดับที่สองด้วยรสชาติที่เปรี้ยวเผ็ดกำลังดีตัดกับความหวานของตัวกุ้งรวมไปถึงความหอมมันของการใช้กะทินอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากสมุนไพรหลายชนิดอีกด้วยยิ่งถ้าหากใครเป็นหวัดสดร้อนๆคล่องคอรับรองว่าหายหวัดอย่างแน่นอน

| 3.หมูกระทะ
หมูกระทะ

               หมูกระทะ ต้องขอบอกว่าเมนูนี้จัดว่าเป็นเมนูพิเศษที่ไม่ได้มีแค่ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบเมนูนี้เท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงชาวไทยที่ชื่นชอบเมนูนี้และสามารถทานเป็นอาหารจานหลักได้ทุกวันด้วยความพิเศษของการทานหมูกระทะที่ได้รสชาติคมกล่อมเนื้อหมูย่างหอมติดมันเล็กน้อยผสมผสานกับการจิ้มน้ำจิ้มเผ็ดหวานกำลังดีขอบอกว่าเป็นอะไรที่ฟินสุดๆยิ่งชาวต่างชาติมาเห็นเมนูนี้สร้างความแปลกใหม่อย่างมากแต่ความแปลกใหม่นี้มีความอร่อยที่ต้องอึ้งและติดใจกันไปตามๆกัน

| 4.ข้าวมันไก่
ข้าวมันไก่

               ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันของหมูชาวต่างชาติข้าวมันไก่ที่หอมซุปไก่กำลังดีบวกกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรเด็ดที่เห็นแล้วใครก็ต้องน้ำลายไหลอย่างแน่นอนผสมผสานกับข้าวมันที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการอบด้วยสมุนไพรอร่อยลงตัวแบบนี้ไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติที่หลงใหลในเมนูนี้ชาวไทยเองก็ต้องยอมให้กับเมนูนี้กันเลยทีเดียว

| 5.ก๋วยเตี๋ยวเรือ
ก๋วยเตี๋ยวเรือ

               ถัดมาเป็นเมนูที่ขึ้นชื่ออีกเมนูหนึ่งคือเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งขอบอกว่าเป็นเมนูที่เราอาจมองว่าหาทานได้ง่ายทั่วไปแต่รู้หรือไม่ว่าชาวต่างชาติชื่นชอบเมนูนี้อย่างมาก ด้วยความที่ก๋วยเตี๋ยวเรือมีน้ำซุปที่เข้มข้นกำลังดีหอมกลิ่นใบโหระพารวมถึงทานคู่กับแคบหมูกรอบๆ ตัดกับความเหนียวนุ่มของเส้นขอบอกว่าอร่อยจนอยากไปเปิดร้าน ที่เมืองนอกกันเลยทีเดียว

| 6.ผัดไท
ผัดไท

               ผัดไทไม่พูดถึงคงไม่ได้เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติไทยอีกเมนูหนึ่งกันเลยทีเดียวถือว่าเป็นเมนูที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยต้องมาทานให้ได้เนื่องจากเส้นผัดไทจะมีรสชาติเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหนียวนุ่มกำลังดีปรุงรสด้วยการใส่มะนาวเพิ่มอีกหน่อยหรือทานคู่กับผัวลิสงและผักคู่เคียงต่างๆรับรองว่าเป็นเมนูที่อร่อยลืมไม่ลงกันเลยทีเดียวไม่ใช่แค่ ต่างชาติเท่านั้นแต่ชาวไทยเอง ก็ต้องยอมแพ้ให้กับเมนูนี้เช่นเดียวกัน

| 7.แกงเขียวหวานไก่
แกงเขียวหวานไก่

               และเมนูสุดท้ายคือเมนูแกงเขียวหวานไก่เมนูนี้ไม่ใช่แค่ถูกปากเฉพาะคนไทยเท่านั้นแต่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถูกปากชาวต่างชาติไม่แพ้กันด้วยความที่แกงเขียวหวานไก่มีรสชาติที่กลมกล่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยความหอมมันของกะทิตัดกับมีความเผ็ดเล็กน้อยไม่เผ็ดจนเกินไปจึงทำให้เมนูนี้ก็ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติที่ไม่ทานผิดเป็นอย่างดีตัดกับมีสมุนไพรหลากหลายทานได้สบายขอบอกว่าเป็นเมนูที่ถ้าหากไปเปิดที่ต่างประเทศรับรองว่ารวยอย่างแน่นอน

               เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 6เมนูอาหารไทยที่ชาวต่างชาติชื่นชอบใครที่กำลังมองหาอาชีพหรือรายได้เสริมหรือมีญาติเป็นชาวต่างชาติอย่าลืมลองทำเมนูนี้ให้ทานรับรองว่าติดใจจนอยากมาประเทศไทยอีกอย่างแน่นอน

READ MOREREAD MORE
เมนูอาหารไทย

5 เมนูอาหารไทยโบราณหาทานยาก5 เมนูอาหารไทยโบราณหาทานยาก

5 เมนูอาหารไทยโบราณหาทานยาก
เมนูอาหารไทย

               เมื่อพูดถึงอาหารไทยแล้วนั้นต้องบอกว่าอาหารไทยมีหลากหลายเมนูมาก ๆ และประเทศไทยของเราก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอาหารหลายรสชาติแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาหารไทยบางเมนูที่ขึ้นชื่อก็ทำให้ชาวต่างชาติหลายคนที่ได้ลองนั้นติดใจ แต่ถ้าพูดถึงเมนูอาหารไทยหลัก ๆ ที่หลายคนจะนึกออกก็คงจะหนีไม่พ้นผัดไทย ต้มยำกุ้ง ส้มตำ แกงมัสมั่น เป็นต้น แต่จะบอกว่าหลายคนอาจจะลืมเมนูที่เป็นอาหารไทยโบราณไป หรือบางคนอาจจะยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราจะมานำเสนอ 5 เมนูอาหารไทยโบราณให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ จะมีเมนูใดบ้างไปดูกันเลย

| 1.แกงหอยเสียบใบมะขามหวาน
แกงหอยเสียบใบมะขามหวาน
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • หอยเสียบ
  • ปลาอินทรีย์เค็มทอด
  • ใบมะขามอ่อน
  • พริกแห้ง
  • หอมแดง
  • กะปิ
  • เกลือ
  • หัวกะทิ
วิธีทำ

– นำพริกแห้งที่ล้างแล้วมาตำกับหอมแดงให้เข้ากัน จากนั้นใส่กะปิ เกลือ และปลาอินทรีย์ทอด โดยให้แกะเอาแค่เนื้อแล้วตำให้เป็นเนื้อเดียวกัน

– นำใบมะขามอ่อนมาหั่นหยาบ ๆ แล้วพักไว้ จากนั้นนำน้ำพริกที่ตำไว้มาละลายกับหัวกะทิ และนำขึ้นตั้งไฟรอให้น้ำเดือด

– เมื่อน้ำเดือดแล้วนำหอยเสียบใส่ลงหม้อและรอให้น้ำเดือดอีกครั้ง

– ชิมรสดู หากได้รสชาติดีแล้วก็ไม่ต้องปรุงเพิ่ม แต่ถ้าหากต้องการรสเค็มเพิ่มก็ปรุงรสด้วยน้ำปลาได้

– ใส่ใบมะขามอ่อนที่หั่นไว้ลงหม้อตามลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นก็ยกลงจากเตา ถือเป็นอันเสร็จ

ประโยชน์และสรรพคุณ : เมนูนี้จะช่วยลดอาการหวัดได้ โดยหอยเสียบนั้นจะมีน้ำ โปรตีนเฮปาทีน ไขมัน ปูน และทองแดง ซึ่งมีสรรพคุณแก้พยาธิ บำบัดโรคดีซ่าน และใบมะขามมีสรรพคุณเป็นยาระบาย แก้ร้อนในฤดูร้อน แก้อาการเบื่ออาหาร และยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย

| 2.หมูโสร่ง
หมูโสร่ง
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • หมูบดละเอียด
  • เส้นหมี่ซั่วแบบขาว (แบบไม่เค็ม)
  • ไข่ไก่
  • รากผักชี
  • กระเทียม
  • เกลือ
  • น้ำปลา
  • พริกไทยป่น
  • น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ

– นำรากผักชี กระเทียม และพริกไทยป่นมาโขลกให้ละเอียด

– นำหมูบดมาหมักกับรากผักชี กระเทียม และพริกไทยป่นที่โขลกไว้ จากนั้นก็ตอกไข่ลงไป ตามด้วยเกลือและน้ำปลาเล็กน้อย

– คลุกให้ทุกอย่างเข้ากัน เสร็จแล้วเตรียมเส้นหมี่ซั่วมาพันหมูโสร่ง

– นำเส้นหมี่ซั่วมาทำเป็นบ่วงในส่วนของปลายเส้นเพื่อรองตัวหมูได้ จากนั้นตักหมูใส่เส้นหมี่ซั่วแล้วค่อย ๆ ม้วนเป็นวงกลม โดยให้พันไว้แบบหลวม ๆ ไม่ต้องแน่นมาก

– เมื่อพันตัวหมูโสร่งได้ในจำนวนที่ต้องการแล้วก็เตรียมทอด โดยให้ใส่น้ำมันลงกระทะครึ่งหนึ่ง และใช้ไฟอ่อน-ไฟกลางก่อน

– นำหมูโสร่งมาวางบนตะแกรงแล้วลงทอดได้เลย เมื่อหมูโสร่งอยู่ตัวแล้วก็นำลงกระทะโดยนำออกจากตะแกรง และทอดไปเรื่อย ๆ จนเป็นสีเหลืองได้ที่

– เมื่อทอดหมูโสร่งจนเริ่มเหลืองแล้วให้เร่งไฟแรง และทอดไปเรื่อย ๆ จนสุกได้ที่

– เมื่อทอดจนสุกแล้วก็นำออกจากกระทะ โดยวางบนกระดาษซับมันก่อน เสร็จแล้วนำไปจัดจาน สามารถทานคู่กับผักเครื่องเคียงและน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะหรือน้ำจิ้มไก่ได้

ประโยชน์และสรรพคุณ : ไข่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะลูทีนที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น และโคลีนที่ช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมด้วย นอกจากนี้ยังได้รับโปรตีน ไขมัน และโพแทสเซียมจากเนื้อหมูอีกด้วย

| 3.พริกกะเกลือ
พริกกะเกลือ
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • มะพร้าวขูดขาว
  • น้ำตาลปี๊บ
  • เกลือ
วิธีทำ

– ตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อน-ไฟกลาง แล้วนำมะพร้าวขูดมาคั่วให้หอม

– หลังจากคั่วมะพร้าวขูดให้เหลืองและหอมแล้วก็ปิดไฟ

– นำมะพร้าวขูดที่คั่วมาตำให้ละเอียดจนแตกมัน จากนั้นก็เทเกลือลงไปผสมในครกแล้วโขลกอีกเล็กน้อย

– ใส่น้ำตาลปี๊บตามลงไปแล้วกวนส่วนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็นำไปจัดเสิร์ฟ สามารถทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้

ประโยชน์และสรรพคุณ : เนื้อมะพร้าวนอกจากจะหวาน หอม และอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาคล้ายกับน้ำมันมะพร้าวด้วย ซึ่งไขมันชนิดดีในเนื้อมะพร้าวเป็นใยอาหารให้กับร่างกาย และในมะพร้าวยังมีสารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรตอีกด้วย

| 4.ต้มเนื้อจิ๋ว
ต้มเนื้อจิ๋ว
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อวัวหั่นชิ้น
  • มันเทศหั่นชิ้น
  • ใบโหระพา
  • ใบกะเพรา
  • หอมแดงซอย
  • พริกขี้หนูบุบ
  • น้ำมะขามเปียก
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
วิธีทำ

– ต้มน้ำให้เดือดและนำเนื้อวัวใส่ลงไปในหม้อ หรี่ไฟลง จากนั้นก็เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนเนื้อวัวเปื่อย

– เมื่อต้มเนื้อวัวจนเปื่อยแล้วก็นำมันเทศใส่ลงหม้อและต้มจนสุก

– พอมันเทศสุกแล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก ตามด้วยหอมแดงซอย

– ใส่ใบโหระพา ใบกะเพรา แล้วปิดไฟ จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและน้ำปลา

– ตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกขี้หนูบุบ ถือเป็นอันเสร็จ

ประโยชน์และสรรพคุณ : เนื้อวัวจะอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ รักษากล้ามเนื้อ และช่วยลดภาวะโลหิตจางได้ ส่วนมันเทศนั้นมีกากใยสูงช่วยให้ร่างกายอบอุ่น นอกจากนี้ใบโหระพาและใบกะเพราจะช่วยแก้ไอ ขับลม ลดไขมันในเลือด และแก้หวัดได้เป็นอย่างดี

| 5.ยำทวาย
ยำทวาย
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • อกไก่
  • แป้งสาลี
  • งาขาว
  • หอมแขก
  • หัวปลี
  • ผักบุ้ง
  • กะหล่ำปลี
  • ถั่วฝักยาว
  • มะเขือยาว
  • ถั่วงอก
  • หน่อไม้
  • พริกหยวก
  • ดอกขจร
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • น้ำปลา
  • กะทิ
ส่วนผสมน้ำยำ
  • ปลาช่อนทะเลแห้ง
  • หอมแดง
  • กระเทียม
  • รากผักชี
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่
  • ข่า
  • ตะไคร้
  • มะกรูด
  • กะปิ
  • เกลือ
  • น้ำมะขามเปียก
  • พริกไทยดำ
วิธีทำ

– เตรียมย่างปลาช่อนทะเลจนสุกหอม แล้วเตรียมปิ้งกะปิ โดยนำใบตองมาห่อกะปิก่อนแล้วนำไปปิ้ง

– ผ่าพริกแห้งเม็ดใหญ่แล้วเอาเมล็ดออก จากนั้นนำไปแช่น้ำเตรียมไว้

– ซอยหอมแขก ตะไคร้ ผิวมะกรูด หั่นรากผักชี ข่า และหอมแดงพอหยาบ ๆ

– โขลกพริกแกงจนแหลกแล้วตามด้วยกระเทียมและหอมแดง จากนั้นโขลกปลาช่อนทะเลแห้งให้แหลกเช่นเดียวกัน แล้วนำไปโขลกด้วยกันกับพริกแกง

– ตั้งกระทะแล้วเทน้ำมันลงไป จากนั้นก็เทแป้งสาลีลงไปผสมกับหอมแดงแขก ก่อนจะนำไปเจียวจนสุกแล้วพักไว้

– คั้นหัวกะทิ น้ำกะทิ และหากะทิ จากนั้นเทหัวกะทิลงกระทะเคี่ยวให้แตกมัน ตัดด้วยเกลือเล็กน้อย เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้เพื่อราดน้ำยำ

– นำน้ำกะทิเทลงกระทะแล้วเคี่ยวให้แตกมัน ตามด้วยพริกแกงลงกระทะ ผัดไปจนมีกลิ่นหอม ในขณะที่ผัดอยู่นั้นก็ค่อย ๆ เติมน้ำกะทิลงเป็นระยะ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าว และน้ำปลา

– เมื่อชิมรสได้รสชาติกลมกล่อมตามที่ต้องการแล้ว ก็มาคั่วงาขาวเตรียมเอาไว้ จากนั้นก็นำผักทุกอย่างที่จะเตรียมเสิร์ฟมาล้างให้สะอาด

– เทหางกะทิลงกระทะ นำชิ้นอกไก่ติดหนังลงไปต้มกับหางกะทิให้พอสุก

– เมื่ออกไก่สุกแล้วก็นำออกจากกระทะแล้วพักไว้ จากนั้นนำผักต่าง ๆ มาลวกกับน้ำกะทิ

– นำผักทุกอย่างที่ลวกกับน้ำกะทิมาน็อคด้วยน้ำเย็นเพื่อความสดกรอบ ฉีกเนื้ออกไก่เป็นเส้น ๆ จากนั้นก็นำทุกอย่างไปจัดเสิร์ฟได้เลย

ประโยชน์และสรรพคุณ : เมนูนี้จะเต็มไปด้วยผักหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางยา ซึ่งจะช่วยต่อต้านโรคต่าง ๆ และช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมถึงได้รับโปรตีน และโอเมก้า 3 จากเนื้อปลาอีกด้วย

               และนี่ก็คือ 5 เมนูอาหารไทยโบราณหาทานยาก ซึ่งเป็นเมนูที่มีความเก่าแก่ โบราณเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละเมนูอาหารไทยโบราณที่เราเอามานำเสนอนั้นต่างก็สืบทอดจากบรรพบุรุษ รุ่นสู่รุ่นนั่นเอง และแต่ละเมนูนั้นก็มีเรื่องราวความเป็นมาของตัวเอง ซึ่งเมนูที่เราเอามานำเสนอในวันนี้เป็นเมนูที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไปทำให้ลิ้นของคนเราเปลี่ยนไปด้วย ต้องการที่จะลองรสชาติใหม่ ๆ แต่อยากจะบอกว่าอาหารไทยโบราณทั้ง 5 เมนูนี้ก็ถือว่าเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ให้ประโยชน์มากอีกด้วย

READ MOREREAD MORE
เมนูอาหารจานด่วนไทย

เมนูอาหารจานด่วนไทยที่มาพร้อมกับประโยชน์ต่าง ๆ มากมายเมนูอาหารจานด่วนไทยที่มาพร้อมกับประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย

เมนูอาหารจานด่วนไทยที่มาพร้อมกับประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย
เมนูอาหารจานด่วนไทย

               เมื่อพูดถึงอาหารไทยนั้นต้องบอกว่ามีหลากหลายเมนูมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติอร่อย เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด มาครบรสให้เลือกได้หลากหลาย และเมนูอาหารที่มีประโยชน์อีกมากมาย แต่ทว่าเมนูอาหารที่ทั้งอร่อยและให้ประโยชน์นั้นหลายคนคงสงสัยว่ามีเมนูใดบ้าง และวันนี้เราขอแนะนำ 7 เมนูอาหารจานด่วนไทยที่มาพร้อมกับประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ต้องบอกว่าเป็นเมนูอาหารจานด่วนที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติเท่านั้น และจะมีเมนูใดบ้างไปดูกันเลยค่ะ

| 1.ผัดซีอิ๊ว
ผัดซีอิ๊ว
ภาพจาก : almocooking
 วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เส้นใหญ่
  • หมูหมัก
  • ไข่ไก่
  • น้ำมันสำหรับผัด
  • คะน้าหั่นท่อน
  • กระเทียมสับ
  • น้ำปลา
  • ซอสถั่วเหลือง
  • น้ำตาลทราย
  • ซีอิ้วดำ
  • เต้าเจี้ยว
  • พริกไทยป่น
วิธีทำ

1.ตั้งกระทะเปิดไฟแรงแล้วใส่น้ำมัน ตามด้วยกระเทียมลงผัดให้หอม

2.ใส่เต้าเจี้ยว และใส่หมูลงผัด ใส่เส้นใหญ่ลงกระทะ

3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลทราย และซีอิ้วดำ จากนั้นก็ผัดให้เข้ากัน และพักเส้นไว้ข้างกระทะ

4.ใส่ไข่ลงกระทะ นำเส้นกลบไข่ รอสักพัก แล้วก็ผัดให้เข้ากัน

5.ใส่คะน้าผัดจนสุก ตักใส่จาน และโรยพริกไทยลงไป

             ประโยชน์และสรรพคุณ เมนูนี้ให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ทั้งวิตามินที่ช่วยป้องกันมะเร็งจากยอดผักคะน้า โอเมก้า 3 จากน้ำปลาดี ไบโอตินจากไข่ และได้โปรตีนย่อยง่ายจากไข่ดาวและเนื้อหมู รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานจากเส้นและซีอิ๊ว

| 2.กวยจั๊บ
กวยจั๊บ
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เส้นกวยจั๊บ
  • เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้น ๆ
  • หนังหมูต้มสุกแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ
  • ม้าม
  • ไส้หมู
  • เลือดหมู
  • เต้าหู้ทอด
  • ต้มหอมซอย
  • กระเทียมเจียวตามชอบ
  • พริกไทย สำหรับโรยหน้า
  • น้ำซุปก๋วยจั๊บ
  • ผงพะโล้
  • รากผักชีบุบพอแตก
  • กระเทียมบุบพอแตก
  • โป้ยกั๊ก
  • อบเชย
  • ซีอิ๊วดำ
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำมันหอย
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลกรวด หรือน้ำตาลปี๊บ
  • น้ำซุปกระดูกหมู
วิธีทำ

1.ต้มน้ำสำหรับใช้ต้มเส้นก๋วยจั๋บ

2.ทำความสะอาดเครื่องในต่าง ๆ แล้วต้มให้สุก และหั่นเป็นชิ้น ๆ ไว้

3.ทำน้ำซุปกวยจั๊บน้ำซุปกระดูกหมูด้วยการยกขึ้นตั้งไฟ พอเริ่มเดือดก็ใส่กระเทียมบุบ รากผักชีบุบ อบเชย โป้ยกั๊ก ผงพะโล้และเครื่องปรุงต่าง ๆ ตามลงไป

4.ค่อย ๆ คนให้น้ำตาลละลาย และคอยระวังอย่าให้ไหม้ติดก้นหม้อ

5.ใส่เนื้อหมูหั่นชิ้นลงไป หรือจะใช้การผัดในกระทะเครื่องต่างในกระทะกับเนื้อหมูแล้วค่อยถ่ายหรือเติมน้ำซุปลงไปก็ได้

6.ต้มจนเปื่อยดีแล้ว จากนั้นก็ตักเส้นก๋วยจั๊บใส่ชาม และนำเครื่องต่าง ๆ ลงไปในชามด้วย ตักน้ำซุปกวยจั๊บพร้อมด้วยเนื้อหมูที่ต้มจนเปื่อย โรยหน้าด้วยต้นหอม กระเทียมเจียว และพริกไทยตามชอบ

               ประโยชน์และสรรพคุณ ในน้ำพะโล้มีสมุนไพรอย่างโป๊ยกั๊ก มีฤทธิ์ที่ช่วยฆ่าและป้องกันโรค นอกจากนี้ในเต้าหู้ทอดยังให้แคลเซียมในเปปไทด์ที่เป็นโปรตีนย่อยง่าย อีกทั้งยังได้รับพลังงานจากเส้นกวยจั๊บ และ เลือดหมูอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงโลหิตอีกด้วย

 | 3.ก๋วยเตี๋ยว
ก๋วยเตี๋ยว
ภาพจาก : Easy food good health by Andy
 วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เส้นก๋วยเตี๋ยว
  • ลูกชิ้น
  • ถั่วงอก
  • กระดูกหมู
  • น้ำสะอาด
  • คนอร์
  • รากผักชี
  • ต้นหอมผักชี
  • กระเทียมเจียว
  • พริกไทย
  • น้ำตาล
  • ซีอิ๋วขาว
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว
  • เกลือ
 วิธีทำ

1.นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ดมาโขลกเพื่อเตรียมทำน้ำซุป

2.ทำน้ำซุปด้วยการต้มน้ำในหม้อ รอจนน้ำเดือด และใส่กระดูกหมู กระเทียม รากผักชี ลงไป

3.ต้มจนกระดูกหมูเริ่มสุกแล้วก็ปรุงรสด้วยคนอร์ก้อน และใส่เกลือตามไป

4.ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสปรุงรสฝาเขียว และซีอิ๋วขาว แล้วรอสักประมาณ 15 นาทีเมื่อเริ่มมีฟองจากไขมันขึ้นมาก็ให้ตักฟองออก

5.เตรียมวัตดุดิบสำหรับเครื่องก๋วยเตี๋ยว

6.ต้มน้ำรอจนเดือดและลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว และถั่วงอกจนสุกแล้วตักใส่ชาม

7.ต้มไก่สับหรือหมูสับ และลูกชิ้นในหม้อน้ำซุปจนสุก จากนั้นก็ตักใส่ชาม

8.ตักน้ำซุปใส่ชาม พร้อมโรยด้วยกระเทียมเจียวและต้นหอมซอย

            ประโยชน์และสรรพคุณ เมนูนี้เราจะได้รับคอลลาเจนจากน้ำต้มกระดูกหมูที่ใช้เวลาเคี่ยวเป็นเวลานาน ผักบุ้ง ถั่วงอก และต้นหอมผักชี มีไฟเบอร์และอัลลิซินที่ช่วยในการลดไขมันในเลือดได้

| 4.ผัดกะเพราไก่ไข่ดาว
ผัดกะเพราไก่ไข่ดาว
ภากจาก : cookpad
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อไก่หั่นหรือสับ
  • ไข่ไก่
  • กระเทียม
  • พริกขี้หนู
  • ใบกะเพรา
  • น้ำมันพืช
  • น้ำมันหอย
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
วิธีทำ

1.เตรียมทอดไข่ดาว ตั้งกระทะ เทน้ำมันลงรอให้กระทะร้อนได้ที่แล้วตอกไข่ลงกระทะ เมื่อได้ไข่ดาวตามที่ต้องการแล้วให้ตักออกจากกระทะ แล้วพักไว้ก่อน

2.นำกระเทียมและพริกขี้หนูมาตำให้ละเอียด และเด็ดใบกะเพราเตรียมไว้

3.ตั้งกระทะเปิดไฟกลาง เทน้ำมันลงไป

4.นำกระเทียมและพริกที่ตำจนละเอียดลงกระทะ ผัดไปเรื่อย ๆ จนมีกลิ่นหอม

5.นำเนื้อไก่ที่เตรียมไว้ลงไปผัดในกระทะ

6.พอเนื้อไก่สุกประมาณหนึ่งแล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมันหอยอย่างละน้อย ๆ

7.ชิมรสดูก่อน เมื่อได้รสชาติตามที่ต้องการแล้วก็นำใบกะเพราใส่ลงกระทะ และผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จาน

                ประโยชน์และสรรพคุณ ใบกะเพราจะช่วยในการลดไขมันและบำรุงลำไส้ เนื้อไก่มีไขมันน้อย จัดเป็นเนื้อสุขภาพที่ย่อยง่าย ส่วนพริกจะให้แคปไซซินที่ช่วยแก้อาการภูมิแพ้ และไข่ดาวที่มีประโยชน์ช่วยให้วิตามินดูดซึมไขมันเข้าไปในร่างกายได้ดีขึ้น

 | 5.ข้าวผัด
ข้าวผัด
ภากจาก : sou-dai
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ข้าวสวยหุงสุก
  • เนื้อสัตว์ตามใจชอบ
  • ไข่ไก่
  • หอมใหญ่
  • ผักคะน้า
  • มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น
  • ต้นหอมซอย
  • ผักชีซอย
  • น้ำมันพืช
  • น้ำตาลทราย
  • ซอสปรุงรส
  • ซอยหอยนางรม
  • ซีอิ๊วดำ
  • พริกไทยป่น
วิธีทำ

1.ตั้งกระทะแล้วเปิดไฟระดับกลาง เทน้ำมันลงไป รอให้น้ำมันร้อนนิดหน่อยก็นำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปผัด

2.จากนั้นตอกไข่ลงกระทะแล้วตามด้วยหอมใหญ่ ผัดให้เข้ากันพอสุก

3.นำข้าวสวยเทลงในกระทะแล้วผัดให้เข้ากันก่อน จากนั้นก็นำผักคะน้าและมะเขือเทศลงกระทะตาม

4.ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วดำอย่างละน้อย ๆ

5.ผัดไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันดี พอสุกแล้วก็ตักใส่จานพร้อมกับเหยาะพริกไทยป่นลงไปเล็กน้อย

             ประโยชน์และสรรพคุณ น้ำมันที่ใช้ผัดช่วยดึงไลโคปีนจากมะเขือเทศเข้าสู่ผิว และเราจะได้รับวิตามินที่ช่วยลดไขมันในเลือดได้จากหอมใหญ่ และผักคะน้า นอกจากนี้ไข่ยังมีประโยชน์ช่วยให้วิตามินดูดซึมไขมันเข้าไปในร่างกายได้ดีขึ้นอีกด้วย

| 6.น้ำพริกปลาทู
น้ำพริกปลาทู
ภาพจาก : กับข้าวกับปลาโอ Plaocooking
 วัตถุดิบและส่วนผสม
  • พริก
  • หอมแดง
  • กระเทียม
  • ต้นหอม
  • ผักชี
  • น้ำเปล่า
  • น้ำปลาร้า
  • น้ำมะนาว
  • น้ำปลา
 วิธีทำ

1.ทำความสะอาดปลาทูด้วยการควักพุงออก

2.ตั้งหม้อเทน้ำเปล่าลงไป 2 ถ้วย รอให้น้ำเดือดแล้วใส่ปลาทูลงไป พอสุกแล้วตักขึ้นมาแกะเอาแต่เนื้อ

3.นำพริก หอมแดง และกระเทียมไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อนก่อน เสร็จแล้วก็นำใส่ครกตำพอแหลก ตามด้วยแกะเนื้อปลาทูลงไปแล้วตำต่อจนแหลกและเนื้อฟู จากนั้นให้พักไว้ก่อน

4.นำน้ำปลาร้าผสมกับน้ำเปล่าเคี่ยวจนน้ำเริ่มงวด เสร็จแล้วก็ใส่ลงในปลาทู

5.ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวกับน้ำปลา ตักใส่ถ้วย แล้วโรยด้วยต้นหอมและผักชี รับประทานกับผักสดหรือผักลวก

              ประโยชน์และสรรพคุณ ปลาทูทอดจะช่วยจับกับวิตามินเอจากพริกและกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในกะปิ อีกทั้งในปลาทูยังมีซูเปอร์วิตามินที่มีชื่อว่าแอสตาแซนธินด้วย

| 7.ผัดไทย
ผัดไทย
ภาพจาก : Sweets Sugar
 วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์แช่น้ำพอนุ่ม
  • กุ้งสดปอกเปลือก
  • กุ้งแห้งแช่น้ำ
  • เต้าหู้แข็งหั่นแท่งเล็ก
  • หัวไชโป๊
  • หัวผักกาดเค็มหวานสับหยาบ
  • ไข่ไก่
  • หัวหอมแดงสับ
  • กระเทียมสับ
  • น้ำมันพืช
  • คนอร์อร่อยชัวร์
  • น้ำเปล่า
  • ถั่วลิสงคั่วโขลกพอแหลก
  • ถั่วงอกเด็ดหาง
  • ใบกุยช่ายตามชอบ
  • น้ำปลา
  • น้ำมะขามเปียก
  • น้ำตาลปีบ
  • หัวปลี
  • มะนาว
  • พริกป่น
 วิธีทำ

1.เตรียมซอสผัดไทยด้วยการเคี่ยวน้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะขามเปียกเข้าด้วยกันจนข้นและพักไว้

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน 2 ฟช้อนโต๊ะ เมื่อไฟร้อน ก็ใส่หอมแดงและกระเทียมลงไปเจียวพอให้เหลือง

3.จากนั้นใส่เต้าหู้ กุ้งแห้ง และหัวไชโป๊ลงไปผัดจนเต้าหู้เหลืองเล็กน้อย ใส่กุ้งสดลงไปผัดพอสุก

4.ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวและซอสที่เคี่ยวไว้ลงไปผัดให้เข้ากันปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์

5.ผัดจนเส้นก๋วยเตี๋ยวสุกและนิ่ม ถ้าเส้นก๋วยเตี๋ยวยังไม่สุกสามารถเทน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยได้ จากนั้นแหวกตรงกลางเติมน้ำมันที่เหลืออีก 2 ช้อนโต๊ะ ตีไข่ลงไปใช้ตะหลิวคนไข่ให้เข้ากัน

6.เมื่อไข่เริ่มสุกให้ใส่ถั่วงอกและใบกุยช่ายลงไปผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟคู่กับหัวปลี ถั่วงอก มะนาว และพริกป่น

            ประโยชน์และสรรพคุณ มีวิตามินอีมากในน้ำมันที่ใช้ในการผัดและถั่วลิสงคั่ว และจะได้รับวิตามินเอจากผักใบเขียวมากมาย ขณะที่หัวปลีกับถั่วงอกนั้นได้ให้วิตามินบีกับกาบ้าที่ช่วยบำรุงสมองของเราอีกด้วย

READ MOREREAD MORE
5 เมนูอาหารไทยกระชากวัย ยิ่งกินยิ่งเด็ก

5 เมนูอาหารไทยกระชากวัย ยิ่งกินยิ่งเด็ก5 เมนูอาหารไทยกระชากวัย ยิ่งกินยิ่งเด็ก

5 เมนูอาหารไทยกระชากวัย ยิ่งกินยิ่งเด็ก
5 เมนูอาหารไทยกระชากวัย ยิ่งกินยิ่งเด็ก

               ทุกคนทราบกันไหมคะว่าอาหารประเภทใดบ้างที่ยิ่งกินแล้วยิ่งทำให้เราดูดีขึ้น หรือทำให้เราดูเด็กลง ต้องบอกเลยค่ะว่าอาหารไทยบางประเภทนั้นมีประโยชน์และยังสามารถช่วยให้คนกินนั้นดูเด็กลงได้ด้วยค่ะ หลายคนคงอยากจะรู้แล้วสินะว่าจะเป็นเมนูอะไร บอกเลยว่าเป็นเมนูใกล้ตัวที่หลาย ๆ คนมองข้ามไป และเราอยากจะบอกว่าเมนูนั้นมันมีประโยชน์กว่าที่ทุกคนคิดอีก จะมีเมนูใดบ้างตามมาดูกันค่ะ

| 1.น้ำพริกปลาทู ผักสดและผักต้ม
การทำน้ำพริกปลาทู
ภาพจาก : กับข้าวกับปลาโอ Plaocooking
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ปลาทู
  • ผักตามใจชอบ
  • น้ำมัน
  • น้ำสะอาด
  • พริก
  • กระเทียม
  • หัวหอมเล็ก
  • กะปิ
  • มะนาว
  • กุ้งแห้งปั่น
  •  วิธีทำ

    1.ทอดหรือย่างปลาทูให้สุก จากนั้นก็คั่วพริก กระเทียมกลีบเล็ก และหอมแดง โดยคั่วด้วยไฟอ่อน ๆ จนเปลือกด้านนอกไหม้ และมีกลิ่นหอม

    2.ปอกเปลือกกระเทียมและหอมแดงแล้วนำไปโขลก เริ่มจากโขลกพริกและก็ตามด้วยหอมแดง และกระเทียม สุดท้ายใส่เนื้อปลาทูลงไป

    3.ปรุงรสด้วยน้ำเชื่อม น้ำปลา มะนาว และน้ำต้มสุก

    4.ต้มผักสดต่าง ๆ ตามชอบ เสร็จแล้วก็ตักน้ำพริกปลาทู คู่กับผักสดและผักต้มต่าง ๆ ลงจาน

                  ประโยชน์และสรรพคุณ เมนูนี้จะอุดมไปด้วยสมุนไพรอย่างหอมแดงมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ กระเทียมมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบและก็ยังช่วยป้องกันอนุมูลอิสระด้วย อีกทั้งยังป้องกันเซลล์เสียหาย นอกจากนี้กระเทียมยังช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในเลือดด้วย ช่วยลดคอเลสเตอรอล และมีพริกขี้หนูที่ช่วยในการเผาผลาญ มีวิตามินซีสูง ซึ่งตัวนี้จะช่วยให้ความอ่อนเยาว์ เช่นเดียวกับบีตา-แคโรทีนและวิตามินเอด้วย และปลาทูจะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ  มีโอเมก้า 3 ป้องกันโรคความจำเสื่อม บำรุงตับอ่อน ช่วยเรื่องระบบประสาท และยังมีข้อมูลบอกด้วยว่าปลาทูนั้นจะทำให้สภาพจิตใจของเราดีขึ้นอีกด้วย

     | 2.ไข่เจียวม้วนผักหลายสี
    ไข่เจียวม้วน
    ภาพจาก : pantip
    วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ไข่ไก่
  • ผักปวยเล้งลวก
  • แคร์รอตหั่นยาว
  • เกลือ
  • น้ำจิ้ม
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำเปล่าต้มสุก
  • หอมผักชีหั่นฝอย
  • หัวหอมซอย
  •  วิธีทำ

    1.ลวกผัก แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำก่อน โดยจัดไว้เป็นแถว ๆ เตรียมไว้

    2.นำส่วนผสมน้ำจิ้มมาผสมให้เข้ากัน แล้วปรุงรสตามชอบ จากนั้นก็พักไว้ก่อน

    3.ตีไข่ไก่ใส่เกลือปรุงรสตามชอบ หรือจะใส่ผงปรุงรสก็ได้

    4.ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ รอจนกระทะร้อนแล้วค่อยทาด้วยน้ำมัน

    5.เทไข่ลงกระทะ กลิ้งให้ทั่วกระทะ เมื่อไข่เริ่มสุกแล้วก็ใส่แคร์รอตลงไป แล้วม้วนไข่ 1 ครั้ง จากนั้นให้วางปวยเล้งลงไปในกระทะ แล้วม้วนทบอีก 1 ชั้น ตามด้วย ปวยเล้งอีก 1 รอบ

    6.เมื่อได้ผักทั้งหมด 3 แถวและม้วนจนสุดปลายไข่แล้ว ต่อมาก็เทไข่รอบถัดไป แล้วม้วนไข่ ทำจนไข่หมดย่างให้เหลืองสวย

    7.นำไปห่อขึ้นรูปในเสื้อม้วนซูชิ รองด้วยกระดาษทำครัว โดยทำขนาดพอดีคำ จัดใส่จานให้สวยงามพร้อมรับประทาน

                  ประโยชน์และสรรพคุณ ได้รับคุณค่าจากผักสีต่าง ๆ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยรักษาเซลล์ให้แข็งแรง เป็นหนุ่มเป็นสาวยาวนาน และมีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและคุณค่ามากมายจากไข่ จัดเป็นมื้อเช้าหรือมื้อเย็นก็ยังไหว

    | 3.ส้มตำผลไม้ (โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์)
    ส้มตำผลไม้
    ภาพจาก : bloggang
     วัตถุดิบและส่วนผสม
  • สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ
  • แอปเปิ้ลเขียว/แดงหั่นชิ้นพอคำ
  • ฝรั่งชิ้นหั่นพอคำ
  • องุ่นแดง
  • กุ้งต้มสุก
  • กุ้งแห้ง2
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด
  • พริกขี้หนู
  • กระเทียมไทย
  • น้ำตาลปี๊บ
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • คนอร์อร่อยชัวร์
  •  วิธีทำ

    1.นำผลไม้ทั้งหมดไปแช่เย็น

    2.ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงในครก ตำให้พอแหลก

    3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และคนอร์ผงอร่อยชัวร์รสหมู จากนั้นก็คนให้น้ำตาลปี๊บละลาย

    4.ใส่กุ้งแห้ง กุ้งต้ม และผลไม้ทั้งหมดลงไป และคลุกเคล้าให้เข้ากัน

    5.ตักใส่จานแล้วโรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์

                    ประโยชน์และสรรพคุณ ผลไม้ส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูสภาพผิว และผลไม้ที่สามารถนำมาทำส้มตำให้อร่อยก็มีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชมพู่ แอปเปิล ฝรั่ง และยังมีแตงกวากับมะเขือเทศด้วย นอกจากนี้น้ำมะนาวเป็นวิตามินซีตัวดีเลยค่ะ ส่วนพริกขี้หนูก็เป็นตัวช่วยสำคัญ ยิ่งกินยิ่งเด็ก แต่ก็ไม่ควรทำเผ็ดมากจนแสบกระเพาะนะคะ และในส่วนของมะม่วงหิมพานต์นั้นก็อุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย ซึ่งมีน้ำมันที่สำคัญต่อผิว

     | 4.ต้มยำปลาทะเล
    ต้มยำปลาทะเล
    ภาพจาก : Food Guide Thailand
    วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ปลาทะเลอะไรก็ได้
  • เห็ดฟาง
  • ข่า
  • ตะไคร้
  • รากผักชี
  • ใบมะกรูด
  • หอมแดง
  • มะเขือเทศ
  • ผักชีฝรั่ง
  • ผงปรุงรส
  • น้ำปลา
  • เกลือป่น
  • น้ำตาลทราย
  • นมสด
  • พริกแห้ง
  • พริกขี้หนูสวน
  • น้ำมะนาว
  • พริกป่น
  • น้ำมะขามเปียก
  • น้ำพริกเผา
  •  วิธีทำ

    1.นำพริกแห้งมาทอดให้มีกลิ่นหอม เพื่อให้มีกลิ่นหอมและอร่อยมากยิ่งขึ้น

    2.ตั้งน้ำให้เดือดแล้วใส่เครื่องต้มยำ ที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยรากผักชี ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง เกลือป่น และผงปรุงรส

    3.รอให้น้ำเดือดจัดและนำปลาลงไป โดยไม่ต้องคน

    4.ต้มปลาให้สุกโดยไม่ต้องคน หลังจากนั้นใส่มะเขือเทศและเห็ดฟางลงไป แล้วปิดฟารอให้เดือดอีกครั้ง

    5.เมื่อทุกอย่างสุกเรียกร้อยแล้วก็ใส่น้ำพริกเผาที่เตรียมไว้ และปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา  และน้ำตาลทราย จากนั้นก็ใส่นมสด เพื่อเพิ่มความข้นให้กับน้ำให้น่ารับประทาน

    6.เมื่อทุกอย่างสุกแล้วก็ปิดแก๊สได้เลย หลังจากนั้นก็ใส่พริกขี้หนูสวน พริกทอด ผักชีฝรั่ง และตามด้วยน้ำมะนาว เสร็จแล้วก็ตักใส่ถ้วยรับประทาน

                 ประโยชน์และสรรพคุณ ปลาทะเลน้ำลึกส่วนใหญ่จะมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก นอกจากจะได้โอเมก้า 3 สูงแล้ว ในต้มยำยังมีสมุนไพรอยู่มากมาย อย่างเช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และน้ำมะนาวก็อุดมไปด้วยวิตามินซีสูงอีกด้วย

     | 5.แกงส้มปักษ์ใต้ปลาสาลี
    แกงส้มปักษ์ใต้ปลาสาลี
    ภาพจาก : เที่ยวตามใจ.คอม
     วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ผักบุ้งเด็ดเป็นท่อน
  • ปลาสำลีหั่นท่อน
  • พริกแกงส้มใต้
  • น้ำมะนาว
  • มะขามเปียก
  • น้ำตาลปี๊บ
  • เกลือ
  • น้ำปลา
  • น้ำเปล่า
  •  วิธีทำ

    1.ตั้งหม้อแล้วต้มน้ำให้เดือด จากนั้นก็ใส่พริกแกงลงไปละลายให้เข้ากัน

    2.ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว มะขามเปียก ชิมรสชาติดูก่อน

    3.เมื่อน้ำแกงเดือดก็ใส่ปลา โดยที่ไม่ต้องคน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที

    4.ใส่ผักบุ้งลงไป รอประมาณ 3-5 นาที เมื่อสุกแล้วก็ตักใส่ถ้วยรับประทาน

                    ประโยชน์และสรรพคุณ ปลาสำลีเป็นปลาที่มีโอเมก้าสูง และยังนำมาทำแกงส้มได้อร่อยอีกด้วย โดยแกงส้มปักษ์ใต้จะมีขมิ้นสีเหลือง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของแกงที่เป็นตัวสำคัญของการกระชากวัย และแม้ว่าจะมีสรรพคุณมหาศาล แต่ที่สำคัญก็คือมีฤทธิ์ฆ่าพวกเชื้อราและผิวหนังทั้งหลายได้ดี ช่วยแก้อาการแพ้ และขมิ้นก็ยังช่วยทำให้เรามีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นอีกด้วย

    READ MOREREAD MORE
    แกงเหลืองไข่ปลาริวกิว

    แกงเหลืองไข่ปลาริวกิว รสเปรี้ยวและเผ็ดนำ น้ำแกงมีสีเหลืองของขมิ้นแกงเหลืองไข่ปลาริวกิว รสเปรี้ยวและเผ็ดนำ น้ำแกงมีสีเหลืองของขมิ้น

    แกงเหลืองไข่ปลาริวกิว
    แกงเหลืองไข่ปลาริวกิว
    ภาพ : pinterest

    วัตถุดิบและส่วนผสม

    • ขมิ้น
    • หอมแดง
    • กระชาย
    • พริกสด
    • พริกแห้ง
    • เนื้อปลาต้มโขลก
    • ไข่ปลาริวกิว
    • หัวไชเท้า
    • ถั่วฝักยาว
    • ดอกแค
    • กะปิ
    • น้ำมะขามเปียก
    • น้ำตาลปี๊บ
    • น้ำปลา
    • เกลือ

     วิธีทำ

                   1.ทำน้ำพริกแกงส้มด้วยการตั้งหม้อเทน้ำ ตั้งใจแล้วใส่พริกสด และใส่พริกแห้งตามไป จากนั้นก็ใส่หอมแดงกับกระชาย และต้มเนื้อปลาเล็กปลาน้อย

                   2.แกะถุงไข่ปลาริวกิวออกแล้วลวกในน้ำให้เดือดประมาณ 3 นาที จากนั้นก็ตักขึ้นจากกระทะแล้วแช่น้ำคลายความร้อน

                   3.ละลายพริกแกง ใส่ผักที่สุกช้าลงไปก่อน อย่างหัวไชเท้ากับมะละกอ ปรุงรสด้วยกะปิสัก 1-2 ช้อน แล้วใส่เนื้อปลาโขลกลงไป

                   4.ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือ และน้ำปลา จากนั้นให้ชิมรสดูก่อน

                   5.เมื่อรสชาติโอเคแล้วก็ใส่ผักลงไป และตามด้วยดอกแค พอน้ำเริ่มจะเดือดได้ที่แล้วก็ใส่ไข่ปลาลงไป เสร็จแล้วก็ตักใส่ถ้วยรับประทาน

     สรรพคุณ น้ำแกงเหลืองจะมีส่วนประกอบของขมิ้นและสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้อยู่ที่ 25%

    READ MOREREAD MORE
    ต้มซุปเปอร์ตีนไก่

    ต้มยำขาไก่ อาหารรสแซบที่ครบรสทั้ง เปรี้ยว เผ็ด เข้ม หวานต้มยำขาไก่ อาหารรสแซบที่ครบรสทั้ง เปรี้ยว เผ็ด เข้ม หวาน

    ต้มซุปเปอร์ตีนไก่

    ต้มซุปเปอร์ตีนไก่
    ภาพ : ครัว กัณฐมณี Channel

    วัตถุดิบและส่วนผสม

    • น้ำเปล่า
    • ขาไก่
    • ข่าหั่นแว่น
    • ตะไคร้หั่นท่อน
    • หอมแดงที่ปอกเปลือกแล้ว
    • ใบมะกรูดฉีก
    • พริกสด
    • ผักชี
    • ผักชีฝรั่ง
    • พริกขี้หนูซอย
    • ผักชีฝรั่งซอย
    • ผักชีซอย
    • มะนาว
    • ซีอิ๊วดำ
    • น้ำปลา
    • ซอสปรุงรส

     วิธีทำ

                   1.ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟแรง จากนั้นก็ใส่ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูดลงไปต้ม

                   2.เมื่อน้ำเดือดพล่านแล้วก็ใส่ขาไก่ลงไปต้ม และพยายามช้อนฟองอากาศทิ้ง

                   3.ก่อนที่จะปรุงรสให้ตักส่วนผสมเครื่องต้มยำออกก่อนแล้วใส่ซีอิ๊วดำ น้ำปลา และซอสปรุงรสตามลงไป หลังจากนั้นก็คนผสมให้เข้ากันและชิมรสชาติ

                   4.ต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที จนขาไก่เปื่อย จากนั้นบีบมะนาวลงไป ตามด้วยพริกซอย และคนส่วนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยและโรยด้วยผักชีและผักชีฝรั่ง

     สรรพคุณ แม้ว่าต้มยำจะไม่ใช่อาหารประเภทแกง แต่ก็ถือว่าเป็นอาหารที่ยังมีน้ำซุปให้เราได้ซด ในต้มยำนั้นก็ยังมีสมุนไพรอย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริก อยู่ด้วย และจากการศึกษาก็พบว่าน้ำต้มยำนั้นสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 30%

    READ MOREREAD MORE
    แกงป่า

    แกงป่า อาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ช่วยไล่ลมแกงป่า อาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ช่วยไล่ลม

    แกงป่า

    แกงป่า
    ภาพ : เที่ยวตามใจ.คอม

    วัตถุดิบและส่วนผสม

    • น้ำพริกแกงป่า
    • น้ำเปล่า
    • เนื้อไก่หั่นชิ้น
    • มะเขือเปราะ
    • มะเขือพวง
    • ถั่วฝักยาว
    • ใบกะเพรา
    • กระชายซอย
    • พริกไทยสด
    • พริกสด
    • น้ำตาลทราย
    • น้ำปลา

     วิธีทำ

                   1.ใส่น้ำลงในหม้อแล้วต้มจนเดือด เติมน้ำพริกแกงป่าลงไปแล้วก็รอให้เดือดอีกครั้ง

                   2.ใส่เนื้อไก่ มะเขือเปราะ มะเขือพวง และถั่วฝักยาวลงไปตาม

                   3.ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลาย ชิมรสดูก่อน

                   4.เมื่อมะเขือสุกแล้วก็ใส่ใบกะเพรา กระชายซอย และพริกสดหั่นแฉลบตามไปด้วย เมื่อชิมได้รสชาติที่ต้องการแล้วก็ตักใส่ถ้วยรับประทาน

    สรรพคุณ น้ำแกงป่าเผ็ดร้อนจากกระชาย หอมแดง พริก และใบกะเพรา มีฤทธิ์ที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45% เทียบเท่ากับแกงเลียงและแกงส้ม

    READ MOREREAD MORE
    แกงส้ม

    แกงส้ม เป็นอาหารไทย ประเภทแกงที่มีรสเปรี้ยวแกงส้ม เป็นอาหารไทย ประเภทแกงที่มีรสเปรี้ยว

    แกงส้ม

    แกงส้ม
    ภาพ : pinterest

     วัตถุดิบและส่วนผสม

    • พริกแห้ง
    • หอมแดง
    • กระเทียม
    • กะปิ
    • กระชาย
    • กุ้งต้ม
    • เกลือ
    • กุ้งล้างปลอกเปลือกผ่าหลัง
    • มะละกอ
    • น้ำตาลทราย
    • น้ำตาลปี๊บ
    • น้ำมะขามเปียก

     วิธีทำ

                    1.โขลกเครื่องพริกแกงต่าง ๆ อย่างพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กะปิ กระชาย เกลือ ซึ่งให้โขลกทุกอย่างรวมกัน

                    2.พอโขลกพริกแกงดีแล้วก็ใส่เนื้อกุ้งลงไปแล้วโขลกให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักออกใส่ถ้วยพักไว้ก่อน

                    3.นำมะละกอมาล้างแล้วปอกเปลือก จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้น ๆ

                    4.ตั้งหม้อต้มน้ำด้วยไฟกลาง เมื่อน้ำเดือดแล้วก็ใส่พริกแกงส้มลงไป

                    5.ใส่มะละกอลงตามไป และปรุงรสตามใจชอบ

                    6.เมื่อมะละกอเริ่มสุกแล้วก็ใส่กุ้งลงไป และรอจนสุก หลังจากนั้นก็ตักใส่ถ้วยรับประทาน

     สรรพคุณ ในแกงส้มที่มีสมุนไพรหลากหลายชนิดในเครื่องแกงเช่นเดียวกัน ก็ได้พบว่าน้ำแกงของแกงส้มนั้นสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45% เท่ากันกับแกงเลียง

    READ MOREREAD MORE
    แกงเลียง

    แกงเลียง เมนูแกงไทยที่มีสารต้านมะเร็งแกงเลียง เมนูแกงไทยที่มีสารต้านมะเร็ง

    แกงเลียง

    แกงเลียง
    ภาพ : cookpad

     วัตถุดิบและส่วนผสม

    • บวบหั่นเป็นชิ้นพอคำ
    • ฟักทองหั่นเป็นชิ้นพอคำ
    • ซูกินีหั่นเป็นชิ้นพอคำ
    • ข้าวโพดอ่อนหั่นสไลซ์
    • เห็ดกระดุม
    • ใบแมงลัก
    • กุ้งสด
    • น้ำซุปไก่
    • น้ำปลา
    • กระชาย
    • หอมแดง
    • พริกไทยดำ
    • กุ้งแห้งป่นละเอียด
    • กะปิ

     วิธีทำ

                    1.โขลกเครื่องแกงไว้ก่อนเป็นอันดับแรกโดยการโขลกพริกไทยกับกระชาย แล้วใส่หอมแดงลงไปแล้วก็โขลกให้ละเอียด

                    2.ใส่กะปิลงไปโขลกรวมกัน จากนั้นก็ใส่กุ้งแห้งป่น โขลกรวมกันอีกครั้งให้ละเอียด

                    3.ใส่น้ำซุปไก่ลงไปในหม้อ ต้มให้เดือด จากนั้นก็ใส่เครื่องแกงลงไป พอน้ำเดือดก็ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน

                    4.ต้มพอเดือดอีกครั้งแล้วค่อยใส่ผักที่เหลืออื่น ๆ ลงไป พอน้ำเดือดแล้วก็ใส่บวบ ฟักทองอ่อน ซูกินี่ และเห็ดตามลงไป

                    5.เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ใส่กุ้งสดลงไป และปรุงรสด้วยน้ำปลา พอส่วนผสมเดือดแล้วก็ใส่ใบแมงลักลงไป เสร็จแล้วก็ตักใส่ชามรับประทาน

     สรรพคุณ จากการศึกษาพบว่า น้ำแกงเลียงที่ได้มาจากผักหลากชนิดและเครื่องแกงที่มากด้วยสมุนไพรนั้นสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45% เลยทีเดียว

    READ MOREREAD MORE