หมวดหมู่: อาหารสุขภาพ

ข้าวผัดธัญพืช

ข้าวผัดธัญพืช อาหารที่มีประโยชน์ และทำง่ายข้าวผัดธัญพืช อาหารที่มีประโยชน์ และทำง่าย

ข้าวผัดธัญพืช อาหารที่มีประโยชน์ และทำง่าย
ข้าวผัดธัญพืช

    อาหารยอดนิยมของคนไทยอีกหนึ่งเมนูนั่นก็คือ ข้าวผัด นั่นเองค่ะ ด้วยความที่สามารถทำได้ง่าย รสชาติอร่อยถูกปาก อีกทั้งยังเป็น อาหารที่มีประโยชน์ ทานได้บ่อยไม่มีเบื่อ แต่รู้หรือไม่คะว่าแท้จริงแล้วข้าวผัดนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เกิดจากการที่นำข้าวเย็นที่เหลือมาผัดคลุกเคล้ากับส่วนผสมอื่น ๆ จนเกิดเป็นเมนูนี้ขึ้นมา และแพร่กระจายไปในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย

| วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารที่มีประโยชน์ ข้าวผัดธัญพืช
ข้าวผัดธัญพืช

   นอกจากสิ่งที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้ว ข้าวผัดยังเป็น อาหารที่มีประโยชน์ ทานคู่กับเมนูอื่น ๆ ได้เข้ากันดี และทานกับอะไรก็อร่อย เราจึงได้นำสูตรในการทำ “ข้าวผัดธัญพืช” ที่ปราศจากเนื้อสัตว์ รับประโยชน์จากข้าว ผัก และไข่ไก่ล้วน ๆ เป็นเมนูที่อร่อย อิ่มสบายท้องมาก โดยเราสามารถเลือกใช้วัตถุดิบธัญพืชที่มีประโยชน์มากมายได้ตามชอบ จึงรับรองได้เลยว่าเมื่อได้ทานเมนูนี้แล้วต้องอร่อยถูกใจทุกคนแน่นอนค่ะ

วัตถุดิบในการทำข้าวผัดธัญพืช
  1. ข้าวกล้อง หรือข้าวสวยหุงสุก 200 กรัม
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ถั่วลิสงต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เมล็ดถั่วลันเตาต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ข้าวโพดต้ม 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ลูกเดือยต้ม 2 ช้อนโต๊ะ
  8. แครอท 2 ช้อนโต๊ะ
  9. พริกขี้หนูซอยตามชอบ
  10. ต้นหอมซอยตามชอบ
  11. มะนาวตามชอบ
  12. ซีอิ๊วขาวโซเดียมต่ำ 2 ช้อนโต๊ะ
  13. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  14. พริกไทยป่น ปริมาณตามชอบ
ข้าวผัดธัญพืช
ขั้นตอนวิธีการทำข้าวผัดธัญพืช 

     ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีข้าวผัดมากมายเกิดขึ้นมาให้เราได้ทำความรู้จัก และเลือกรับประทานกัน เช่น ข้าวผัดอเมริกัน ข้าวผัดสับปะรด ข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดเนื้อสัตว์ ข้าวผัดไข่ ข้าวผัดต้มยำ เป็นต้น แต่ในวันนี้เราจะเปลี่ยน เมนูข้าวผัด ที่หลายคนเคยทาน มาเป็น อาหารที่มีประโยชน์ ใส่ธัญพืชมากมายลงไปเป็นวัตถุดิบหลัก แต่ก็ยังคงความทำง่ายที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ โดยในวันนี้เราจะใช้การทำเพียง 2 ขั้นตอนเท่านั้น ดังนี้ 

  1. หลังจากที่เราเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้ว ขั้นตอนแรกใส่น้ำมันรำข้าวลงไปในกระทะ รอให้ร้อนแล้วใส่ไข่ไก่ลงไปผัดให้สุกเล็กน้อย ใส่ข้าว น้ำตาล ซีอิ๊วขาว ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. ใส่ธัญพืชที่เตรียมไว้ลงไป (ถั่วลิสง เมล็ดถั่วลันเตา ข้าวโพด ลูกเดือย แครอท หรือธัญพืชตามชอบ) ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยพริกไทย ต้นหอมซอยผัดอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้สามารถชิมรสแล้วปรุงเพิ่มตามชอบก่อนจัดเสิร์ฟพร้อมมะนาวหั่นซีกได้เลยนะคะ 

READ MOREREAD MORE
ขนมจีบไก่คลีน

ขนมจีบไก่คลีน อาหารว่างเพื่อสุขภาพขนมจีบไก่คลีน อาหารว่างเพื่อสุขภาพ

ขนมจีบไก่คลีน อาหารว่างเพื่อสุขภาพ
ขนมจีบไก่คลีน

วันนี้เราจะมาเอาใจสายคลีนด้วยเมนูอาหารว่างเพื่อสุขภาพ แบบอร่อย ๆ ทานง่าย พกพาไปทานได้ทุกที่ นั่นก็คือ “ขนมจีบไก่คลีน” นั่นเองค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ และดีต่อสุขภาพแน่นอน อีกทั้งยังสามารถทำได้ง่าย ถูกใจสายคลีนแบบเรา ๆ ที่กำลังมองหาเมนูใหม่ ๆ เพื่อมารับประทานกันในแต่ละวัน โดยที่ไม่ต้องหวั่นใจว่าทานแล้วจะเสียสุขภาพ

| วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารว่างเพื่อสุขภาพ 
ขนมจีบไก่คลีน

อาหารว่างเพื่อสุขภาพของเราในวันนี้ เป็นเมนูที่หลาย ๆ คนที่กำลังทานอาหารคลีนอยากจะรับประทานมาก ๆ แต่ก็ต้องอดใจ เพราะด้วยวัตถุดิบส่วนใหญ่นั้นไม่เหมาะกับสายคลีนแบบเรา ๆ เป็นแน่แท้ แต่ในวันนี้วัตถุดิบที่เราใช้จะเป็นวัตถุดิบที่สายคลีนสามารถทานได้อย่างแน่นอน หากใครพร้อมแล้วไปดูวัตถุดิบในการทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบในการทำขนมจีบไก่คลีน
  1. อกไก่ไร้หนังหั่นชิ้นเล็ก 500 กรัม
  2. พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
  3. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
  4. หัวไชเท้าหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
  5. แครอทหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
  6. เห็ดหอมหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
  7. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  8. แผ่นเกี๊ยว 20 แผ่น
  9. กระเทียม 10 กลีบ
  10. รากผักชี 5 ต้น
  11. น้ำมันเล็กน้อย
  12. .ใบตองสำหรับรองหม้อนึ่ง
ขนมจีบไก่คลีน
ขั้นตอนวิธีการทำขนมจีบไก่คลีน

ขนมจีบไก่คลีนที่เราหยิบยกมาแนะนำในวันนี้ มีประโยชน์มากมาย ทั้งประโยชน์จากอกไก่ที่มีมากมาย และดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นอาหารว่างที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ดังนั้น หากคุณอยากจะรับประทานอาหารว่างสักหนึ่งเมนู เราขอแนะนำอาหารว่างเพื่อสุขภาพจานนี้เลยค่ะ แต่ก่อนอื่นเราไปดูขั้นตอนวิธีการทำแบบง่าย ๆ กันเลยดีกว่า

  1. เตรียมวัตถุดิบของเราให้พร้อม ใส่อกไก่ รากผักชี พริกไทยดำ และกระเทียมลงไปบดด้วยเครื่องบดอาหารให้ละเอียดเข้ากันดี (หากใครไม่มีเครื่องบดอาหารสามารถใช้วิธีการสับ หรือโขลกให้เข้ากันได้นะคะ)
  2. นำส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 มาผสมกับแครอท เห็ดหอม หัวไชเท้าที่เตรียมไว้แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น คนให้เข้ากัน
  3. ตัดมุมทั้ง 4 ด้านของแผ่นเกี๊ยวออก ใส่ไส้ขนมจีบที่เตรียมไว้ลงไปตรงกลาง ทำการหมุนแผ่นเกี๊ยวแล้วพับขึ้น ห่อจับจีบให้สวยงาม ทำซ้ำกับส่วนผสมที่เหลือจนกว่าจะหมด
  4. ต้มน้ำในหม้อนึ่งให้เดือด ระหว่างรอให้นำใบตองวางรองในซึ้ง จากนั้นทาน้ำมันลงไปให้ทั่วใบตอง เพื่อไม่ให้ขนมจีบของเราติดก้นซึ้ง นำขนมจีบที่เตรียมไว้จัดวางลงไปให้ห่างกันเล็กน้อย เสร็จแล้วนำไปนึ่งโดยใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที 
  5. นำขนมจีบที่สุกแล้วออกมาจากหม้อนึ่ง จัดใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ

READ MOREREAD MORE
น้ำจิ้มคลีน

น้ำจิ้มคลีนหลากสไตล์น้ำจิ้มคลีนหลากสไตล์

น้ำจิ้มคลีนหลากสไตล์

    สวัสดีค่ะสายอาหารคลีน อาหารเพื่อสุขภาพทุกคน เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะประสบพบเจอกับปัญหาการทานอาหารคลีนที่มีรสชาติจืดชืด ไม่อร่อยเหมือนอาหารทั่วไปที่เคยรับประทาน หากจะไปซื้อน้ำจิ้มแบบต่าง ๆ มารับประทานควบคู่กับอาหารก็หวั่นใจกลัวจะไม่คลีนตามแบบที่เรารับประทาน ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง วันนี้เราจึงได้นำวิธีการทำน้ำจิ้มแบบต่าง ๆ มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน เพื่อนำไปรับประทานกันง่าย ๆ เพิ่มรสชาติของอาหารคลีนของเราได้หลากหลายเมนูเลยค่ะ

| 1.น้ำจิ้มสุกี้ 
น้ำจิ้มสุกี้

     สำหรับน้ำจิ้มแบบแรกที่เรานำมาแนะนำนั้นคือ “น้ำจิ้มสุกี้” รสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็มนิด ๆ อร่อยลงตัวสุด ๆ ทานได้แบบไม่ต้องกลัวผิดหลักอาหารคลีนที่เรารับประทานกัน แถมยังทานได้กับหลากหลายเมนูที่ไม่ใช่แค่สุกี้ โรยราดหน้าเนื้ออกไก่ต้มก็อร่อยสุด ๆ หรือแม้แต่จะนำไปทานกับผักต่าง ๆ ก็เข้ากันเป็นอย่างดี สำหรับใครที่อยากทานกันแล้ว ไปดูวัตถุดิบ และวิธีการทำของเราเลยค่ะ

วัตถุดิบในการทำน้ำจิ้มสุกี้
  1. กระเทียมแกะเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ
  2. พริก 7 เม็ด 
  3. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
  4. ซอสพริก (โลวโซเดียม) 1 ถ้วยตวง 
  5. ซอสมะเขือเทศ (โลวโซเดียม) 1 + ½ ถ้วยตวง
  6. ซอสปรุงรส 2 ช้อน
  7. น้ำตาลอีรีท 4 ช้อน
  8. น้ำมันงา 1 ช้อน
  9. งาขาวคั่ว 1-2 ช้อน
วิธีการทำน้ำจิ้มสุกี้
  1. ขั้นตอนแรกให้นำกระเทียม พริก และน้ำเปล่าไปปั่นให้ละเอียดเข้ากัน เสร็จแล้วใส่ลงไปในหม้อ เติมซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ซอสปรุงรส และน้ำตาลอีรีท
  2. ตั้งหม้อที่เราเตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้วยไฟอ่อน เคี่ยวให้ส่วนผสมเข้ากันจนเข้มข้น เมื่อเข้มข้น แล้วให้ใส่น้ำมันงา และงาขาวคั่ว เคี่ยวต่อเล็กน้อย แล้วปิดไฟ นำไปใส่ขวดไว้รับประทานได้เลยค่ะ
| 2.น้ำจิ้มซีฟู๊ดคลีน
น้ำจิ้มซีฟู๊ด

     มาต่อกันที่น้ำจิ้มซีฟู๊ดสำหรับสายคลีน ที่หากเราจะไปซื้อมาไว้รับประทานควบคู่กับอาหารคลีนก็มีราคาที่สูงมากกว่าน้ำจิ้มทั่วไป เพราะฉะนั้นการทำรับประทานด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของเราได้เป็นอย่างดี และขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเรื่องความอร่อย เพราะอร่อยเด็ด เผ็ด แซ่บ เปรี้ยวจี๊ด ไม่แพ้น้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรดัง ๆ จากร้านอาหารต่าง ๆ ที่เราเคยรับประทานกันเลยค่ะ

วัตถุดิบในการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด
  1. น้ำต้มสุก 950 มิลลิลิตร
  2. น้ำมะนาว 3 -4 ลูก
  3. พริกแดงจินดาเด็ดก้าน 30 เม็ด
  4. กะเทียมจีนปลอกเปลือก 5 หัว
  5. น้ำผึ้งแท้ 2 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือดำ หรือเกลือชมพู 1 ช้อนชา
  7. รากผักชี 3 – 4 ราก
วิธีการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด
  1. ขั้นตอนแรกให้นำน้ำเปล่าต้มสุก พริกแดงจินดา กระเทียมจีน น้ำผึ้ง และเกลือลงไปปั่นรวมกันในเครื่องปั่น พอปั่นจะละเอียดแล้วให้เติมน้ำมะนาวลงไป และปั่นต่ออีกครั้งให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่ขวดไว้รับประทาน หรือจะทานเลยก็ได้ค่ะ
| 3.น้ำจิ้มแจ่วคลีน แซ่บ ๆ
น้ำจิ้มแจ่ว

     อีกหนึ่งน้ำจิ้มยอดนิยมที่หลาย ๆ คนนิยมรับประทานกันเป็นประจำ น้ำจิ้มแจ่วคลีนนั้นสามารถทานได้กับเมนูอาหารคลีนหลากหลายอย่าง ทั้งอกไก่ย่าง คู่กับผักสดผักต้มนา ๆ ชนิด รวมถึงเมนูอื่น ๆ ก็อร่อยเข้ากันมาก ๆ แถมยังสามารถทำได้ง่าย เก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานาน ใช้วัตถุดิบในการทำแค่ไม่กี่อย่าง เซฟค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องปรุงรสอาหารได้มาก โดยส่วนผสมที่เรานำมาแนะนำนี้สามารถทำได้ 1 ถ้วย หากใครจะทำในปริมาณที่เพิ่มขึ้นให้ปรับเพิ่มส่วนผสมค่ะ ใครอยากรับประทานกันแล้ว ไปดูขั้นตอนวิธีการทำของเราเลยค่ะ

วัตถุดิบในการทำน้ำจิ้มแจ่ว
  1. น้ำมะขามเปียก
  2. น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
  4. ข้าวคั่ว
  5. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำน้ำจิ้มแจ่ว
  1. ขั้นตอนแรกใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ลงไปในถ้วยคนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วเติมพริกป่น และข้าวคั่วลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง และจัดเสิร์ฟคู่กับอาหารคลีนของเราได้เลยค่ะ หากใครอยากโรยหน้าด้วยผักอื่น ๆ เช่น โหระพา ผักชีใบเลื่อย ตะไคร้ ฯลฯ ก็สามารถทำได้นะคะ

READ MOREREAD MORE
เค้กกล้วยหอม

เค้กกล้วยหอม เมนูอาหารคลีนเค้กกล้วยหอม เมนูอาหารคลีน

เค้กกล้วยหอม เมนูอาหารคลีน
เค้กกล้วยหอม เมนูอาหารคลีน

     สำหรับอาหารคลีนนั้น เป็นอาหารทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และช่วยในการลดน้ำหนัก เมื่อทำทานเองก็ประหยัดเวลา และเงินในกระเป๋าอีกด้วย แต่อีกหนึ่งปัญหาหลักที่ทำให้การทานเมนูอาหารคลีนนั้นเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น นั่นก็คือสายคลีนบางคนยังตัดปัญหาเรื่องความอยากในการทานขนมหวานไม่ได้นั่นเอง จึงมีบางคนที่ตั้งวันชีทเดย์ ซึ่งเป็นวันที่จะสามารถทานอะไรก็ได้ตามใจชอบ เช่น ขนมหวานเบเกอรี่ , เมนูยอดนิยมอย่างหมูกะทะ ปิ้งย่าง ชาบู บุฟเฟ่ต์ ฯลฯ ซึ่งมักจะกำหนดให้เป็นหนึ่งวันในหนึ่งอาทิตย์ และกลับไปทานอาหารคลีนในวันหลังจากนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ให้ตัวเอง และร่างกายได้รับประทานของตามที่ชื่นชอบ

     แต่สำหรับสายคลีนที่ตัดเรื่องขนมหวานไม่ได้จริง ๆ หักห้ามใจไม่อยู่ เผลอทานกันจนคลีนแตก และไม่กลับมาทานคลีนอีกเลย นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเวลาที่เราทานอาหารเพื่อสุขภาพมาอย่างเคร่งครัด ซึ่งเราก็มีเทคนิคในการแก้ปัญหาเหล่านี้ นั่นก็คือ การแนะนำเมนูอาหารคลีนที่เป็นขนมหวาน ปราศจากสิ่งต้องห้ามสำหรับสายคลีน ทานได้แบบสบายใจหายห่วงเรื่องสุขภาพ และน้ำหนักที่จะเพิ่มขึ้น

     หลายคนอาจจะอยากรู้แล้วว่าขนมหวานมันจะเป็นเมนูอาหารคลีนได้อย่างไร มันจะน่ารับประทานหรือไม่ รสชาติจะอร่อยแบบขนมหวานทั่วไปไหม เราก็จะขอแก้ข้อสงสัยนี้ ด้วยการแนะนำขนมหวานแบบคลีน ๆ อย่าง “เค้กกล้วยหอม” ให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อน

| ทำความรู้จักเมนูอาหารคลีน เค้กกล้วยหอมไร้แป้ง
เค้กกล้วยหอม เมนูอาหารคลีน

     เมนูอาหารคลีนที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ คือ เค้กกล้วยหอม ซึ่งเป็นเค้กที่ไร้แป้ง ไร้น้ำตาล ทานแล้วไม่คลีนแตก หรือน้ำหนักขึ้นใด ๆ เลย เพราะเราใช้วัตถุดิบสำหรับสายคลีนล้วน ๆ เพื่อรังสรรค์เมนูนี้ให้ออกมาอร่อยกลมกล่อม หวาน หอม นุ่มละมุน ไม่แพ้เค้กกล้วยหอมทั่วไปที่เรานิยมทานกันเลยละค่ะ เป็นของหวานสายคลีนที่พกพาไปทานที่ไหนก็ได้ สะดวก ประโยชน์ก็เยอะอีกด้วย จากวัตถุดิบหลักอย่างกล้วยหอมที่มีประโยชน์มากมาย เช่น บำรุงกระดูก สายตา หัวใจ แถมยังช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย 

     เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงสนใจเมนูนี้ และอยากจะทานกันขึ้นมาบ้างแล้ว หากจะไปหาซื้อทานก็คงจะพบเจอแต่เค้กกล้วยหอมแบบธรรมดา ๆ ไม่คลีนแบบที่เราต้องการ เราจึงมีสูตรดี ๆ และวิธีการทำมานำเสนอให้ได้ลองทำทานเองกันนะคะ ก่อนอื่นเลยไปดูวัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับทำเมนูนี้กันเลย

วัตถุดิบในการทำเค้กกล้วยหอม
  1. ข้าวโอ๊ตป่น 90 กรัม
  2. ผงฟู 1/4 ชช. 
  3. เบคกิ้งโซดา 1/2 ชช.
  4. กล้วยหอม 120 กรัม
  5. นมอัลมอนด์ไม่หวาน 50 กรัม
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  7. เกลือ 1/4 ชช.
  8. น้ำมันคาโนล่า/รำข้าว 90 กรัม
  9. น้ำผึ้ง 80 กรัม
  10. ลูกเกด 50 กรัม
  11. ธัญพืชโรยหน้าตามชอบ
วัตถุดิบในการทำเค้กกล้วยหอมแบบคลีน
วิธีการทำเค้กกล้วยหอม

     หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับเมนูอาหารคลีน ในรูปแบบขนมหวานอย่างเค้กกล้วยหอมกันมาแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนวิธีการทำที่แสนจะง่ายดายแล้วค่ะ เพียงคุณมีเตาอบ หรือแม้แต่ไมโครเวฟในครัวเรือน ก็สามารถทำเมนูนี้ออกมาได้แล้ว ขอย้ำเลยว่าใคร ๆ ก็สามารถทำได้ค่ะ ดังนั้น เราไปดูวิธีการทำกันเลยค่ะ

  1. ขั้นตอนแรกบดกล้วยให้ละเอียด ใส่นมอัลมอนด์ลงไปผสมให้เข้ากัน และพักไว้
  2. นำไข่ น้ำมันรำข้าว และน้ำผึ้ง ใส่ลงไปในถ้วยผสม และตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ต เกลือ ผงฟู เบคกิ้งโซดาลงไปคนต่อจนกว่าส่วนผสมจะละลายเข้ากัน สุดท้ายใส่ส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 และลูกเกดลงไปคนเล็กน้อยให้เข้ากัน
  3. ตักใส่พิมพ์จนเกือบเต็ม เผื่อไว้ตอนเนื้อเค้กฟู ในขั้นตอนนี้สามารถใส่ธัญพืชโรยหน้าได้ตามชอบเลยค่ะ
  4. นำไปเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศา ไฟบนล่าง เป็นเวลา 30 นาที หรือจนกว่าขนมของเราจะสุกค่ะ เสร็จแล้วนำออกจากเตา จัดเสิร์ฟได้เลย หรือใครจะนำไปแช่ตู้เย็นไว้ทานแบบเย็น ๆ ฟิน ๆ ก็สามารถทำได้นะคะ

     อ่านจบแล้วอย่าลืมไปทำทานกันนะคะ สำหรับเมนูอาหารคลีนสายขนมหวาน ดีต่อสุขภาพ ทานแล้วไม่อ้วน ที่เราได้นำมาฝากกันในตอนนี้ และก่อนจะจากกัน เราก็ขอให้สายคลีนทุกคนมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และที่สำคัญ อย่าลืมไปดูเมนูอื่น ๆ ที่เราได้แนะนำกันไปในเว็บไซต์นี้นะคะ รับรองว่ามีเมนูที่ถูกตาต้องใจ แถมทานแล้วอร่อยถูกปากแน่นอน

ภาพจาก

READ MOREREAD MORE
ลาบปลาทูน่า

ลาบปลาทูน่าลาบปลาทูน่า

ลาบปลาทูน่า
ลาบปลาทูน่า

     หลายคนที่รับประทานอาหารคลีนคงเกิดอาการเบื่ออาหารรสชาติจืดชืด หรือเมนูอกไก่แบบเดิม ๆ ที่รับประทานกันเป็นประจำ และอยากรับประทานเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ อยากหาเมนูใหม่ ๆ มาเป็นตัวเลือกในการรับประทาน ในวันนี้เราจึงมีเมนูสุดแซ่บที่เป็นเมนูของทางภาคอีสานของประเทศไทยมาแนะนำ ซึ่งเราได้ใช้ปลาทูน่ามาเป็นส่วนประกอบหลัก สายคลีนไม่ต้องกลัวคลีนแตกนะคะ เพราะวัตถุดิบทั้งหมดล้วนเป็นวัตถุดิบแบบคลีน ๆ ทั้งหมดเลยค่ะ สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าคือเมนูอะไร ? อร่อยไหม ? คลีนจริงหรือไม่ ? เราจะขอตอบคำถามนี้ และแนะนำสูตรวิธีการทำในบทความนี้เลยค่ะ

     เมนูอาหารคลีนที่เราหยิบยกนำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันในวันนี้ นั่นก็คือ “ลาบปลาทูน่า” แบบอีสานสไตล์ที่ทานแล้วต้องอุทานว่า “แซ่บอิหลี” เพราะเป็นเมนูที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี แถมยังเป็นเมนูยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ รสชาตินั้นเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม อร่อยครบรสแบบสุด ๆ ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ และผักชนิดต่าง ๆ แล้ว ยิ่งเข้ากันเป็นอย่างดี หากใครอยากรับประทานกันแล้ว เราไปทำความรู้จักกับคุณประโยชน์ของอาหารจานนี้กันต่ออีกสักนิดนะคะ

ลาบปลาทูน่า อาหารคลีนทำง่าย มากมายคุณประโยชน์

     ลาบปลาทูน่าเป็นเมนูที่ประยุกต์มาจากลาบอีสานสไตล์ เราจึงไม่ต้องเอ่ยถึงรสชาติความอร่อย เพราะหลายคนคงรู้กันเป็นอย่างดีแล้ว เพราะเป็นเมนูที่อยู่คู่กับชาวไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน และได้รับความนิยมรับประทานในประเทศไทย และต่างประเทศเองก็มีการทำเมนูนี้ด้วยเช่นกัน เพราะรสชาติถูกปากถูกใจทั้งคนไทย และต่างประเทศ แต่วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เราจะนำมาใช้ในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบของอาหารคลีนทั้งหมด ซึ่งรับรองว่าจะได้ทั้งความอร่อยแบบครบรสไม่แพ้ลาบทั่วไป และดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน ใครที่เป็นสายรักสุขภาพ ชื่นชอบอาหารอีสาน และเมนูอาหารแบบเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ ต้องห้ามพลาดกันเลยนะคะ ส่วนของประโยชน์ของเมนูลาบปลาทูน่าก็มีมากมาย เหมาะจะรับประทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ

     ลาบนั้นเป็นเมนูที่มีประโยชน์มากมายอยู่แล้ว จากวัตถุดิบต่าง ๆ ที่นำมาใช้ประกอบอาหาร เช่น มะนาว ช่วยลดการปวดหัว ลดเหงือกบวม รักษาโรคต่าง ๆ , หอมแดง เป็นสมุนไพรที่ช่วยให้เจริญอาหาร ต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงเลือด และหัวใจ , ต้นหอม ช่วยบำรุงสายตา และสมอง ช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง , ผักชีฝรั่ง ช่วยบำรุงกระดูด และฟัน ฯลฯ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์ของวัตถุดิบในการทำอาหารคลีนเมนูนี้เท่านั้นนะคะ ไม่ใช่ทั้งหมด และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทูน่า ซึ่งมีประโยชน์มากมาย เช่น บำรุงหัวใจ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก ฯลฯ มีประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้วใครละจะอดใจไหว เราไปดูวัตถุดิบ และขั้นตอนการทำของเรากันเลยดีกว่าค่ะ

| ลาบปลาทูน่า
วัตถุดิบในการทำลาบปลาทูน่า
วัตถุดิบในการทำลาบปลาทูน่า
  1. ทูน่าในน้ำแร่  2 กระป๋อง 
  2. หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกป่น 2 ช้อนชา 
  4. ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา 
  5. น้ำปลาลดโซเดียม 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  7. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วยตวง
  9. ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
  10. ผักเครื่องเคียงตามชอบ เช่น ถั่วฝักยาว แตง ฯลฯ
ลาบปลาทูน่า
วิธีการทำลาบปลาทูน่า

     หากใครเคยทำเมนูลาบแบบปกติแล้ว จะรู้ว่าเป็นลาบปลาทูน่าเป็นเมนูอาหารคลีนที่สามารถทำง่ายมาก ๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่มากมาย ขั้นตอนในการทำก็น้อยไม่ยุ่งยาก สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยทำอาหารมาก่อน หรือไม่ชอบทำอาหารเลยก็สามารถทำได้ค่ะ ใช้เวลาเพียงน้อยนิดก็ได้เมนูสุดแซ่บมารับประทานกันแบบคลีน ๆ และดีต่อสุขภาพแล้ว ดังนั้น เราไปดูขั้นตอนการทำลาบปลาทูน่าของเรากันเลยค่ะ

  1. ขั้นตอนแรกปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว ในถ้วยแล้วคนผสมให้เข้ากัน (ใครชอบรสไหนก็สามารถปรุงรสได้ตามชอบเลยนะคะ) จากนั้นใส่ทูน่าลงไปคนผสมให้เข้ากัน 
  2. ขั้นตอนต่อไปใส่ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และหอมแดง ลงไปคนผสมให้เข้ากันค่ะ จากนั้นจัดใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ 

ภาพจาก :

READ MOREREAD MORE
สเต็กไก่พริกไทยดำ

สเต็กอกไก่พริกไทยดำสเต็กอกไก่พริกไทยดำ

สเต็กอกไก่พริกไทยดำ
เมนูอาหารคลีนสเต็กไก่พริกไทยดำ

     หลาย ๆ คนคงกำลังเคร่งครัดกับการทานอาหารคลีน เพื่อสุขภาพ หรือลดน้ำหนักกันอยู่ ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายเมนูให้เราได้เลือกรับประทานตามความชอบ ซึ่งก็อร่อยไม่แพ้อาหารทั่วไปที่เราทานกันเลย แถมยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่ก็มีหลากหลายปัญหาที่เข้ามาขัดขวางการทานอาหารคลีนของเรา ซึ่งหนึ่งในปัญหาก็มีเรื่องของราคาที่สูง เมื่อเราไปซื้ออาหารคลีนจากร้านต่าง ๆ ที่ขาย ทั้งในรูปแบบหน้าร้าน และแบบออนไลน์ ซึ่งทั้งสองแบบนี้ก็มีราคาที่แพงกว่าอาหารทั่วไป ร้านที่ขายเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดก็เห็นได้ยากมาก ทั้ง ๆ ที่วัตถุดิบก็มีเพียงไม่กี่ชนิด และทำได้อย่างง่ายดาย หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้ราคาสูงกว่าปกติ 

     การทานอาหารคลีนนั้นดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ดีต่อเงินในกระเป๋า เมื่อเราต้องซื้ออาหารคลีนตามร้านในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ ที่จะซื้ออะไรสักอย่างต้องคิดแล้วคิดอีก มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากเราจะต้องเสียเงินซื้ออาหารคลีนราคาสูงในทุก ๆ วัน เราจึงได้นำเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน แบบง่าย ๆ วัตถุดิบน้อย และที่สำคัญ คือ ราคาถูกมาก แบบก.ไก่ล้านตัวไปเลย 

     สำหรับเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดที่เราได้นำมาแนะนำในวันนี้ก็คือ “สเต็กอกไก่พริกไทยดำ” เมนูที่แม้จะไม่ใช่อาหารคลีนก็ราคาสูงกว่าอาหารทั่วไป แต่เมื่อเราทำเองกลับใช้ต้นทุนที่ต่ำ เนื่องจากวัตถุดิบในการทำน้อย แถมยังทำได้ง่าย ประหยัดเวลาอีกด้วย

| เมนูอาหารคลีนแบบประหยัด SAVE COST ด้วยสเต็กไก่พริกไทยดำ
สเต็กไก่พริกไทยดำ

     สเต็กไก่พริกไทยดำนับเป็นเมนูยอดฮิตที่ทานได้สะดวก รวดเร็ว ในเวลาเร่งรีบ แถมยังอร่อยติดปากติดใจใครหลาย ๆ คน เมื่อเบื่ออาหารเดิม ๆ ที่รับประทานอยู่ ก็เลือกที่จะนานเมนูนี้ เพราะมีเครื่องเคียงหลากหลายที่ถูกจัดมาในจาน ซึ่งก็เข้ากันเป็นอย่างดีกับสเต็กไก่เนื้อนุ่ม หอมละมุนพริกไทยดำ ตัดเลี่ยนด้วยผักต่าง ๆ แต่เมื่อนำมาเป็นเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดแล้ว รสชาติความอร่อยก็ไม่ได้ลดลงไปเลย แถมยังเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ประหยัดเวลาในการทำ และดีต่อเงินในกระเป๋าของเราอีกด้วยนะคะ

     หลายคนคงสงสัยว่าทำไมสเต็กอกไก่มันเป็นอาหารคลีนที่ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ เราขอตอบเลยค่ะว่าจริง เพราะวัตถุดิบที่ใช้ในการทำนั้นต่างเป็นวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น และเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่เลือกมารับประทานก็คลีน อุดมด้วยคุณประโยชน์ และสารอาหารมากมาย ดังนั้น เราไปดูวัตถุดิบ ขั้นตอน และวิธีการทำกันเลยดีกว่าค่ะ 

วัตถุดิบ
  1. อกไก่ไร้หนัง 1 ชิ้น 200 กรัม
  2. พริกไทย 1 ช้อนชา
  3. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือเล็กน้อย
  5. เครื่องเคียงตามชอบ เช่น บล็อกโคลี่ แครอท ไข่ต้ม มะเขือเทศราชินี ฯลฯ
วัตถุดิบ สเต็กไก่พริกไทยดํา
วิธีการทำ

     หลังจากได้รู้จักกับวัตถุดิบในการทำอาหารคลีนแบบประหยัดที่เราได้นำมาฝากกันในตอนนี้ คงเข้าใจแล้วใช่ไหมละคะ ว่าเป็นเมนูที่ประหยัดอย่างไร สเต็กอกไก่พริกไทยดำเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบน้อยมาก ๆ วัตถุดิบส่วนมากที่นำมาประกอบอาหารนั้นเราก็มีกันอยู่แล้วในครัวเรือน ทำให้สามารถทำได้อย่างสะดวก ไม่ต้องไปหาซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติม และสำหรับขั้นตอนวิธีการทำนั้นก็แสนจะง่ายดาย ขั้นตอนน้อย ทำให้อาหารของเราไม่เสียคุณประโยชน์ที่มีไปอย่างแน่นอน แถมยังใช้เวลาในการทำน้อย แม้จะเป็นตอนที่เร่งรีบก็สามารถทำเมนูทานกันได้แบบง่าย ๆ ดังนั้น เราไปดูวิธีการทำกันเลยค่ะ

  1. ขั้นตอนแรก หั่นอกไก่ให้มีเป็นชิ้นบาง ใช้มีดกรีดเนื้อไก่เล็กน้อย เพราะจะช่วยให้สุกได้เร็วขึ้น จากนั้นโรยด้วยพริกไทยดำ และซอสหอยนางรม หมักให้เข้ากัน
  2. ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง นำอกไก่ที่หมักไว้ลงไปย่าง และกลับด้านเพื่อให้สุกทั่วกัน สำหรับใครที่อยากนำวัตถุดิบเครื่องเคียงมาย่างด้วยก็สามารถทำได้นะคะ พอไก่ของเราสุกได้ที่แล้วก็นำไปจัดเสิร์ฟ พร้อมเครื่องเคียงคลีน ๆ อื่น ๆ ได้เลยค่ะ

     เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากอ่านเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ กับวิธีการทำง่าย ๆ แค่สองขั้นตอน หลายคนคงเก็บไว้เป็นลิสต์เมนูอาหารคลีนไว้รับประทานกันแล้วใช่ไหมละคะ เพราะสามารถทำได้ง่าย วัตถุดิบน้อย อร่อย ดีต่อสุขภาพ และประหยัดเงินในกระเป๋าของเราได้อีกด้วยค่ะ

ภาพจาก : กินได้อร่อยด้วย , wongnai.com , Baanya Steak House

READ MOREREAD MORE
อาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมาย

อาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมายอาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมาย

อาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมาย
อาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมาย

               อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าอาหารมื้อเช้านั้นเป็นมื้อที่สำคัญมากที่สุด เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ และร่างกายของเราก็ต้องการพลังงานเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวัน ดังนั้นเราทุกคนควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเช้า และควรใส่ใจในรายละเอียดของอาหารด้วย วันนี้เรามีเมนูอาหารเช้าคลีน ๆ แต่ได้ประโยชน์มากมาย ถือว่าเป็นเมนูที่เอาใจคนดูแลสุขภาพและคนลดน้ำหนักเลย ส่วนจะมีเมนูใดบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ

| 1.แกงจืดเต้าหู้หมูสับ (1 ถ้วย = 80 แคลอรี่)
แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • หมูสับ
  • เต้าหู้ไข่
  • คนอร์ก้อน
  • แคร์รอต
  • ผักกาดขาว
  • คื่นฉ่าย
  • กระเทียม
  • พริกไทยขาว
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำปลา
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกผสมหมูสับ พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว และน้ำปลา คลุกเคล้าพอเข้ากัน

– ต้มน้ำเปล่าแล้วใส่กระเทียม คนอร์ก้อน พอน้ำเดือดแล้วก็ปั้นหมูสับที่หมักไว้เป็นก้อนกลมลงต้มพอสุก จากนั้นก็ใส่เกลือป่น และคอยช้อนฟองออก

– ปรุงรสด้วยน้ำปลาแล้วคนให้เข้ากัน ใส่ผักกาดขาว ใส่เต้าหู้ไข่ โรยด้วนคื่นฉ่าย

– เสร็จแล้วก็ตักใส่ชามและโรยด้วยพริกไทย ถือเป็นอันเสร็จ

| 2.ต้มเลือดหมู (1 ถ้วย = 120 แคลอรี่)
ต้มเลือดหมู
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เลือดหมูหั่นก้อนพอดีคำต้มสุก
  • หมูสับหมักกับน้ำตาลทราย ซอสปรุงรส และพริกไทย
  • เนื้อหมูหั่นบาง ๆ ลวกสุก
  • ตับหมูหั่นบาง ๆ ลวกสุก
  • เต้าหู้หลอดหั่น
  • ตำลึงเด็ดเอกแต่ยอด
  • ตั้งฉ่าย
  • ซุปก้อน
  • คึ่นฉ่ายกับต้นหอมหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ
  • น้ำเปล่า
  • น้ำปลา
  • ซอสปรุงรส
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้ตั้งน้ำในหม้อบนไฟกลาง ๆ แล้วใส่ซุปก้อน ตั้งฉ่าย จากนั้นรอให้เดือดสักพัก เพื่อให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม

– ปั้นหมูสับหมักเป็นก้อนเล็กแล้วนำใส่ลงไปในน้ำที่กำลังเดือด และรอให้สุก

– ใส่หมูชิ้นลวก ตับลวก เต้าหู้หลอด แล้วปรุงรสน้ำซุปด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรส จากนั้นก็ชิมรสตามที่ต้องการ

– ใส่เลือดหมู พอเดือดดีแล้วก็ใส่คึ่นฉ่ายกับต้นหอม และเมื่อเดือดอีกทีก็ปิดไฟได้เลย โดยก่อนจะเสิร์ฟนั้นให้ใส่ตำลึงก้นถ้วยแล้วตักต้มเลือดหมูราดทับ แค่นี้ก็รับประทานได้แล้ว

| 3.โจ๊กหมู (1 ถ้วย = 160 แคลอรี่)
โจ๊กหมู
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ข้าวหอมมะลิบดพอละเอียด
  • ข้าวเหนียวบดพอละเอียด
  • เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนิ่ม
  • ขิงหั่นแว่น
  • ขิงซอย
  • ผักชี
  • รากผักชี
  • ต้นหอมซอย
  • คนอร์ซอสข้นปรุงรส (รสหมู)
  • ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม
  • น้ำเปล่า
ส่วนผสมหมักหมูเด้ง
  • หมูสับ
  • ไข่ขาวครึ่งฟอง
  • แป้งมัน
  • รากผักชีสับละเอียด
  • คนอร์ ซอสข้น
  • เบคกิ้งโซดา
  • น้ำมันงา
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำมันหอย
  • เกลือ
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้หมักหมูเด้งก่อน นำส่วนผสมทุกอย่างมาคลุกเคล้ากับหมูสับ จากนั้นนำหมูที่คลุกไว้ลงไปนวดในครกจนได้เนื้อหมูเด้ง ๆ หมักเก็บไว้ในตู้เย็น

– เตรียมส่วนผสมและเครื่องปรุงในการทำโจ๊ก โดยตั้งหม้อแล้วต้มน้ำให้เดือด จากนั้นก็ใส่ข้าวหอมมะลิบดและข้าวเหนียวบดลงไปตุ๋น หมั่นคน ๆ บ่อย ๆ เพราะข้าวจะไหม้ติดก้นหม้อ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ตุ๋นจนข้าวสุกเนื้อเนียนแล้วปิดเตา

– ทำน้ำซุปต่อ โดยตั้งหม้อต้มน้ำ ใส่รากผักชีและเห็ดหอมลงไป รอจนเดือดแล้วใส่ขิงหั่นแว่น จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเห็ดหอม และคนอร์ซอสข้น รอให้เดือดอีกรอบ

– ปั้นหมูเด้งเป็นก้อน ๆ พอดีคำ แล้วใส่ลงไปต้มจนสุก

– ตักหมูเด้งออกให้เหลือแต่น้ำซุป จากนั้นตักข้าวที่ตุ๋นไว้ใส่กับน้ำซุป คนให้เข้ากัน แล้วตักใส่ชาม ตอกไข่ลวก โรยต้นหอมผักชี ขิงซอย และหมูเด้ง แค่นี้ก็รับประทานได้แล้ว

| 4.เกี๊ยวปลาน้ำใส (1 ถ้วย = 165 แคลอรี่)
เกี๊ยวปลาน้ำใส
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อปลากรายบดละเอียด
  • เนื้อกุ้งบดละเอียด
  • เนื้อหมูบดละเอียด
  • แป้งมันสำปะหลัง
  • ต้นหอมซอย
  • สามเกลอ
  • คนอร์ ซุปก้อนรสหมู
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำเกลือเย็นจัด (เกลือป่น 1/2 ช้อนชา)
  • น้ำเปล่า
  • กระเทียมเจียว (สำหรับโรยหน้า)
  • ผักชี (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ

– นำกุ้งบดละเอียดไปใส่ลงในชามผสม ตามด้วยเนื้อหมูบดละเอียด ซอสปรุงรส สามเกลอ และต้นหอมซอย จากนั้นก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนจะนำไปห่อเกี๊ยว

– นำเนื้อปลากรายบดละเอียดใส่ลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และน้ำเกลือเย็นจัด ค่อย ๆ ใส่น้ำเกลือลงไปนวดให้เข้ากัน หากเนื้อปลาติดมือก็ให้ทยอยใส่แป้งลงไป จากนั้นก็นวดจนเนื้อแป้งเป็นก้อนเนียนและไม่เหนียวติดมือ

– โรยแป้งนวลลงบนเขียงไม้เพื่อให้นวดแป้งเกี๊ยวแล้วไม่ติดเขียง วางเกี๊ยวปลาลงบนเขียงโดยใช้ไม้คลึงนวดให้เป็นแผ่นบาง ๆ และตัดให้ได้สี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 3×3 นิ้ว เพื่อนำไปห่อไส้

– นำเกี๊ยวปลาไปห่อด้วยไส้ที่เตรียมไว้ และพักไว้เตรียมนำไปลวก

– ตั้งหม้อน้ำบนเตาแก๊ส รอให้น้ำเดือดแล้วใส่เกี๊ยวปลาลงไปต้มให้สุก เมื่อเกี๊ยวปลาลอยขึ้นมาแล้วให้นำขึ้นจากน้ำ

– ตั้งหม้อบนเตาแก๊สแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป รอให้น้ำเดือด และใส่คนอร์ ซุปก้อนรสหมู ลงไปในน้ำเดือด คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่เกี๊ยวปลาที่ลวกไว้ลงไป

– รอให้เดือดอีกรอบแล้วน้ำซุปซึมเข้าเกี๊ยวปลา จากนั้นก็ปิดไฟและตักเสิร์ฟโดยตักเกี๊ยวปลาใส่ลงในชามจัดเสิร์ฟ แล้วโรยกระเทียมเจียวและผักชี หรือถ้าใครกลัวอ้วนก็ไม่ต้องโรยกระเทียมเจียวก็ได้

| 5.ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส (1 ถ้วย = 220 แคลอรี่)
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เส้นก๋วยเตี๋ยว
  • ลูกชิ้น
  • กระดูกหมู
  • ถั่วงอก
  • น้ำสะอาด
  • กระเทียม
  • ต้นหอมผักชี
  • รากผักชี
  • กระเทียมเจียว
  • คนอร์
  • พริกไทย
  • น้ำตาล
  • ซีอิ๋วขาว
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว
  • เกลือ
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกเตรียมทำน้ำซุป โดยมีรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด นำทุกอย่างมาโขลก

– เริ่มทำน้ำซุปโดยต้มน้ำสะอาดในหม้อ และรอจนน้ำเดือด จากนั้นก็ใส่กระดูกหมู กระเทียม และรากผักชีลงไป

– ต้มจนกระดูกหมูเริ่มสุก ปรุงรสด้วยคนอร์ก้อน และใส่เกลือ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสปรุงรสฝาเขียว และซีอิ๋วขาว

– ต้มต่อประมาณ 15 นาทีจะเริ่มมีฟองจากไขมันขึ้นมา ให้ตักฟองออก

– เมื่อได้น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวแล้วก็มาเตรียมวัตถุดิบสำหรับเครื่องก๋วยเตี๋ยว โดยต้มน้ำสะอาดรอจนเดือดแล้วลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว และถั่วงอกจนสุก จากนั้นก็นำไปใส่ชาม

– ต้มไก่สับหรือหมูสับ ในหม้อน้ำซุปจนสุกแล้วใส่ชาม

– ต้มลูกชิ้นในหม้อน้ำซุปแล้วใส่ชาม

– ขั้นตอนสุดท้ายให้ตักน้ำซุปใส่ชาม และใส่กระเทียมเจียว ตามด้วยต้นหอมซอย ถือเป็นอันเสร็จ

               จบไปแล้วกับการนำเสนออาหารเช้าคลีน ๆ ที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมายเลยทีเดียว ซึ่งทั้ง 5 เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่หาทานได้ไม่ยากเลยค่ะ ส่วนใครที่กังวลเกี่ยวกับส่วนผสมของทางร้านกลัวว่าจะใส่อะไรมาให้แล้วทำให้อ้วนนั้นไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะถ้าเราไปทานที่ร้านเราก็ยังสามารถสั่งได้ว่าต้องการแบบไหน ทางร้านเขาก็จะทำตามที่เราต้องการ หรือถ้าใครมีเวลามากพอและสะดวกที่จะทำรับประทานเองที่บ้านอันนี้ก็จัดไปเลยค่ะ เพราะทั้ง 5 เมนูอาหารเช้าคลีน ๆ ที่เราแนะนำไปนั้นทำได้ไม่ยากเลย ขอแค่มีวัตถุดิบและส่วนผสมครบก็ทำได้แล้ว

READ MOREREAD MORE
เมนูอาหารคลีน

เมนูอาหารคลีนแบบประหยัดและทำง่ายเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดและทำง่าย

เมนูอาหารคลีนแบบประหยัดและทำง่าย
เมนูอาหารคลีน

                 ในช่วงที่เงินในกระเป๋าน้อย คนเราก็มักจะมองหาอาหารที่มีราคาถูกเพื่อประหยัดให้ได้มากที่สุดใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งในช่วงขาลงของเศรษฐกิจของก็ยิ่งแพง เราก็ยิ่งไม่มีเงินที่จะซื้ออาหารแพง ๆ มารับประทาน ส่วนอาหารที่ลดราคาก็มักจะไม่ได้คุณภาพและอยู่ได้ไม่นาน ถ้าไม่รีบรับประทานมันก็เสีย หลายคนคงมีคำถามว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์แบบนี้ และสำหรับคนที่ต้องการทานอาหารคลีนแบบประหยัดก็คงจะคิดแล้วคิดอีกว่าจะหาเมนูอะไรมาทานดี ใครที่กำลังมองหาเมนูอาหารคลีนแบบประหยัด ๆ คุณมาถูกทางแล้วค่ะ เพราะวันนี้เราจะมานำเสนอ 5 เมนูอาหารคลีนแบบประหยัดที่สามารถทำทานเองได้ที่บ้านง่าย ๆ บอกเลยว่านอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณแล้วยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วยนะ จะมีเมนูใดบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

| 1.โยเกิร์ตกับผลไม้
โยเกิร์ตกับผลไม้
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • โยเกิร์ต
  • กล้วย
  • มะละกอ
  • ธัญพืช
วิธีทำ

– ตักโยเกิร์ตใส่ถ้วยตามปริมาณที่ต้องการอย่างพอดี ๆ

– หั่นกล้วยและมะละกอเป็นชิ้นพอดีคำใส่ลงในถ้วยโยเกิร์ต

– โรยหน้าด้วยธัญพืช เพียงง่าย ๆ แค่นี้ก็รับประทานได้แล้ว

ประโยชน์ : ในเมนูนี้เราจะได้วิตามินต่าง ๆ และในผลไม้ก็มีไฟเบอร์ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

| 2.ไข่มะกอก
ไข่มะกอก
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ไข่ไก่
  • มะกอก
  • น้ำผึ้ง
  • เกลือ
  • พริกไทยป่น
  • น้ำมัน
วิธีทำ

– นำมะกอกมาหั่นแว่นตามปริมาณที่ต้องการ เสร็จแล้วพักไว้

– ตั้งกระทะ โดยใช้ไฟอ่อน-ไฟกลาง เทน้ำมันลงในกระทะ

– เมื่อน้ำมันเดือดแล้วให้ตอกไข่ไก่ลงในกระทะตามที่ต้องการ

– นำมะกอกหั่นแว่นที่เตรียมไว้ใส่ลงในกระทะ แล้วผัดให้เข้ากันไข่

– ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วปิดเตาแล้วตักใส่จานรับประทานได้เลย

ประโยชน์ : ในเมนูนี้เราจะได้รับสารอาหารที่ดีจากไข่มากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงสมอง และยังได้รับประโยชน์จากมะกอกอีกด้วย ซึ่งมะกอกไม่ได้แค่ช่วยในการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่มะกอกยังมีสรรพคุณทางยามากมายเลย เช่น ป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง และยังดีต่อลำไส้อีกด้วย

| 3.แซนวิชไข่ต้ม
แซนวิชไข่ต้ม
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ขนมปังโฮลวีท
  • ไข่ต้ม
  • มายองเนส
  • เกลือ
  • พริกไทย
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้ตั้งหม้อแล้วต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่เกลือลงไปในน้ำนิดหน่อย แล้วค่อย ๆ ต้มไข่ประมาณ 9-10 นาที โดยให้ไข่แดงสุกแบบพอดี ๆ ไม่ถึงกับสุกจนไข่แข็งกระด้าง

– นำไข่ที่ต้มเสร็จแล้วขึ้นมาแช่ไว้ในน้ำเย็น แล้วแกะเปลือกออกให้หมด จากนั้นให้นำไข่มาสับให้ละเอียดใส่ชามรวมกันไว้ โดยสามารถแบ่งไข่แดงออกได้

– ใส่มายองเนส เกลือ และพริกไทย ลงไปในชามไข่สับ แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นชิมรสแล้วปรุงตามใจชอบ

– ปิ้งขนมปัง โดยใช้วิธีวางนาบบนกระทะก็ได้ เพื่อให้ผิวของขนมปังเป็นสีน้ำตาลนิดหนึ่ง

– ตักไส้ไข่ต้มที่เตรียมเรียบร้อยแล้วมาทาบนขนมปังที่ปิ้งไว้ จากนั้นนำขนมปังอีกแผ่นหนึ่งมาวางทับไว้ด้านบนแล้วหั่นครึ่ง เพียงแค่นี้ก็สามารถรับประทานได้แล้ว

ประโยชน์ : ในเมนูนี้เราจะได้รับโปรตีน แคลเซียม วิตามินต่าง ๆ และธาตุเหล็กจากไข่ต้ม และได้รับคาร์โบไฮเดรตจากขนมปังโฮลวีทที่จะช่วยให้เราอิ่มท้อง ไม่หิวบ่อยอีกด้วย

| 4.ข้าวกล้องกับอกไก่ม้วน
ข้าวกล้องกับอกไก่ม้วน
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ข้าวกล้องหุงสุก
  • อกไก่ลอกหนัง
  • พริกฝรั่งสีแดงและสีเหลือง
  • ผักโขมสด
  • ชีสแท่ง (สูตรไขมันต่ำ)
  • น้ำสลัดอิตาเลียน (สำหรับทาไก่ระหว่างย่าง)
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้นำพริกฝรั่งมาหั่นเป็นเส้นยาว ๆ แล้วนำไปย่างในกระทะจนสุก จากนั้นก็ปิดไฟ

– นำเนื้ออกไก่มาผ่าครึ่งแบบไม่ต้องขาดออกจากกันแล้วเปิดออกให้เป็นแผ่นใหญ่ แล้วนำผักโขมสดวางลงบนอกไก่ ตามด้วยชีสแท่งและพริกฝรั่งย่าง

– ม้วนเนื้ออกไก่ประกบเข้าด้วยกัน แล้วใช้ไม้จิ้มฟันกลัดเนื้ออกไก่เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวไส้ทะลักออกมา

– นำอกไก่ม้วนไปย่างในกระทะ โดยระหว่างย่างนั้นให้ทาน้ำสลัดอิตาเลียนบนเนื้ออกไก่ไปเรื่อย ๆ และย่างด้านละประมาณ 5 นาที จนเนื้ออกไก่สุกพอดี

– ตักออกจากกระทะแล้วแกะเอาไม้จิ้มฟันออก จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องและผักสลัด

ประโยชน์ : ข้าวกล้องเป็นอาหารที่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง และช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับกระเพาะอาหารได้ดี นอกจากนี้ข้าวกล้องยังช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคเหน็บชา โรคโลหิตจาง โรคปากนกกระจอก โรคหัวใจ เป็นต้น และเราจะได้รับโปรตีนชั้นดีจากเนื้ออกไก่ที่จะช่วยเสริมสร้างและบำรุงกล้ามเนื้อได้ดด้วย

| 5.ยำปลากระป๋อง
ยำปลากระป๋อง
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ปลากระป๋อง
  • หอมแดงซอย
  • พริกขี้หนู
  • มะนาว
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกเตรียมหอมแดงและพริกขี้หนู มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำหอมแดงมาซอย และหั่นพริกขี้หนู

– นำมะนาวมาหั่นครึ่งซีก (สามารถบีบมะนาวได้ตามใจชอบ)

– นำปลากระป๋องมาเทใส่ชาม แล้วนำพริก และหอมแดงซอยมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นก็บีบมะนาวลงไป เพียงแค่นี้ก็เสร็จพร้อมรับประทานแล้ว

ประโยชน์ : เมนูนี้เราจะได้รับสารอาหารสำคัญสำหรับกระดูกถึง 16 ชนิดเลยทีเดียว และน้ำซอสมะเขือเทศในปลากระป๋องก็ยังมีสารไลโคปินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดีด้วย ปลากระป๋องจึงจัดได้ว่าเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกได้ดีชนิดหนึ่งเลย และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุนด้วย

 

               เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย กับเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดที่เรานำมาแนะนำ ต้องบอกเลยว่าเมนูอาหารคลีนแบบประหยัดทั้งหมดนี้สามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายมาก ๆ อีกทั้งยังมีราคาถูกอีกด้วย แถมยังช่วยให้สุขภาพดีได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ถูกและดีแบบนี้ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ใครที่กำลังหาเมนูอาหารคลีนแบบประหยัด ๆ ก็ลองนำเมนูที่เราแนะนำไปทำทานดูได้นะคะ เมนูทั้งหมดนี้เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ และไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาเลยค่ะ เพราะแต่ละเมนูนั้นใช้เวลาไม่นานเลย

READ MOREREAD MORE
เมนูอาหารคลีน

เมนูอาหารคลีนที่ไม่ธรรมดาแนะนำให้กับทุกคนเมนูอาหารคลีนที่ไม่ธรรมดาแนะนำให้กับทุกคน

เมนูอาหารคลีนที่ไม่ธรรมดา
เมนูอาหารคลีน

               ในสมัยนี้เราจะเห็นได้ว่าอาหารคลีนนั้นเริ่มเป็นที่นิยมกันมากในหมู่คนรักสุขภาพและคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะเป็นอาหารที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการปรุงแต่งมากนัก พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นอาหารที่มีรสชาติไม่หวาน ไม่เค็ม และไม่เผ็ดมาก แต่เป็นอาหารรสชาติกลาง ๆ หรือรสจืดเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่เพิ่งจะรับประทานอาหารคลีน แรก ๆ ก็คงจะไม่คุ้นชินกับรสชาติจืด ๆ อาจจะบอกว่าไม่อร่อย แต่จริง ๆ แล้วอาหารคลีนที่มีรสชาติดีก็มีอยู่เช่นกัน บางเมนูเราต้องปรับลิ้นให้คุ้นเคย สำหรับคนที่ชอบทานอาหารรสจัดนั้นอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อให้ลิ้นคุ้ยเคยกับรสชาติของอาหารคลีน แต่ในวันนี้เรามีเมนูอาหารคลีนที่ไม่ธรรมดามาแนะนำให้กับทุกคน มีเมนูใดบ้างมาดูกันเลยค่ะ

| 1.ไก่บาร์บีคิวคลีน (1 ถ้วย = 247 แคลอรี่)
ไก่บาร์บีคิวคลีน
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้ออกไก่หั่นเต๋า
  • สับปะรดหั่นเต๋า
  • มะเขือเทศหั่นเต๋า
  • พริกชี้ฟ้าเขียว
  • เกลือป่นและพริกไทยดำ
  • พาร์สลีย์สับ
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้นำเนื้ออกไก่ สับปะรด มะเขือเทศหั่นเต๋า และพริกชี้ฟ้าเขียว มาเสียบไม้ โรยเกลือ พริกไทยดำ และพาร์สลีย์สับ

– นำไปย่างในกระทะเทฟลอน โดยใส่น้ำมันพอให้ไม่ติดกระทะประมาณ 1-2 ช้อนชา เมื่อสุกแล้วทำการจัดใส่จาน พร้อมรับประทาน

ประโยชน์ : เมนนี้เราจะได้รับโปรตีนจากอกไก่ไปเต็ม ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และได้รับวิตามินต่าง ๆ จากสับปะรดและมะเขือเทศด้วย

| 2.แกงคั่วมะระกุ้งสด (1 ถ้วย = 263 แคลอรี่)
แกงคั่วมะระกุ้งสด
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • มะระจีนหั่นชิ้นบาง ๆ ตามขวาง
  • กุ้งสดขนาดกลางแกะเปลือก
  • พริกชี้ฟ้าแดงและเหลืองหั่นแฉลบ
  • น้ำพริกแกงคั่วสำเร็จรูป
  • กะทิ
  • น้ำตาลปี๊บ
  • น้ำปลา
  • ใบมะกรูดฉีก
  • น้ำมันพืช
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกลวกมะระในน้ำเดือดจนสุก แล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที จากนั้นก็ยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำ และพักไว้

– ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันด้วยไฟกลางจนหอม แช้วใส่กุ้งลงไปผัดพอสุก

– เติมกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ จากนั้นก็ใส่มะระลวก ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้า แล้วรอจนเดือด

– เมื่อเดือดแล้วให้ยกลงจากเตา และตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ

ประโยชน์ : มะระมีส่วนช่วยให้ฟันและกระดูกแข็งแรง เนื่องจากมะระนั้นมีแคลเซียม และมะระก็ยังช่วยให้ดวงตาสดใสขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย นอกจากนี้เรายังจะได้รับโปรตีนและวิตามินต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระดูก

| 3.ผัดบวบใส่ไข่ (1 ถ้วย = 286 แคลอรี่)
ผัดบวบใส่ไข่
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • บวบ
  • ไข่ไก่
  • กระเทียม
  • น้ำมันหอย
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำตาลทราย
  • ผงปรุงรส รสหมู
  • น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบ โดยใช้มีดปอกเปลือกบวบออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด และหั่นตามชอบ กระเทียมบุบ และสับให้ละเอียด

– ตั้งกะทะใส่น้ำมัน พอร้อนแล้วให้ใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม

– ใส่บวบที่ล้างสะเด็ดน้ำ จากนั้นผัดเข้ากัน

– เกลี่ยบวบออก ให้มีช่องว่างตรงกลางกระทะแล้วตอกไข่ลงไป จากนั้นคนให้ไข่ผสมกัน ทิ้งไว้ให้จับตัวกันเป็นก้อน

– ผัดไข่ผสมกับบวบแล้วเติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่านิดหน่อย

– ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ผงปรุงรส น้ำตาล และซีอิ้วขาว เมื่อบวบสุกแล้วก็ถือเป็นอันเสร็จ

ประโยชน์ : บวบเป็นผักธาตุเย็น ซึ่งถ้ากล่าวถึงสรรพคุณทางยาก็ถือว่าเป็นสมุนไพรเย็น ที่ช่วยคลายความร้อนได้ดี และมีคุณค่าทางพชสมุนไพร  อีกทั้งยังมีเส้นใยสูง นอกจากนี้ยังได้รับโปรตีนและวิตามินจากไข่อีกด้วย

| 4.แกงเขียวหวานไก่คลีน (1 ถ้วย = 291 แคลอรี่)
แกงเขียวหวานไก่
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • อกไก่
  • เลือดไก่
  • มะเขือเปราะ
  • มะเขือพวง
  • โหระพา
  • พริกชี้ฟ้า
  • พริกแกงเขียวหวานออร์แกนิก
  • นมสดขาดมันเนย
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • น้ำปลา สูตร Low Sodium
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้นำมะเขือเปาะ มะเขือพวง โหระพา และพริกชี้ฟ้า มาล้างทำความสะอาดเตรียมไว้ก่อน

– นำอกไก่ลอกหนัง และเลือดไก่ มาล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วก็นำเนื้ออกไก่ และเลือดไก่มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

– ตั้งกระทะ โดยใช้ไฟกลาง จากนั้นนำนมขาดมันเนยใส่ลงไป โดยให้แบ่งใส่ อย่าเพิ่งใส่ครั้งแรกหมด ตามด้วยพริกแกงเขียวหวานออร์แกนิก แล้วผัดให้เข้ากัน รอจนพริกแกงหอม

– ค่อย ๆ เติมนมขาดมันเนยลงไปทีละนิด แล้วรอจนเข้ากันกับเครื่องแกง จากนั้นค่อยใส่อกไก่ลงไป

– ผัดจนอกไก่สุก และเติมนมขาดมันเนยลงไปอีกจนหมด เสร็จแล้วทิ้งไว้สักครู่

– หลังจากนั้นนำมะเขือเปราะ มะเขือพวง และพริกชี้ฟ้า ใส่ตามลงไป หมั่นคนให้มะเขือจมน้ำแกง มะเขือจะได้ไม่ดำ

– รอจนมะเขือสุกดีแล้วใส่เลือดไก่ตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา สูตร Low Sodium แล้วคนให้เข้ากันดี

– เสร็จแล้วใส่ใบโหระพาลงไป แล้วคนให้ทั่ว จากนั้นก็ปิดไฟและยกลงจากเตา

– ตักเสิร์ฟใส่ถ้วย โดยตกแต่งให้สวยงามด้วยใบโหระพาและพริกชี้ฟ้า

ประโยชน์ : นอกจากจะได้โปรตีนจากไก่แล้ว พริกชีฟ้ายังมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยขับเสมหะ และแก้หวัดอีกด้วย

| 5.สเต๊กไก่กระทะ (1 ถ้วย = 353 แคลอรี่)
สเต๊กไก่กระทะ
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อสเต๊กหรือชิ้นเนื้อ
  • พริกไทย
  • สมุนไพร (ส่วนผสมเพิ่มเติม)
  • เนย
  • เกลือ
  • น้ำมัน
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกนำเนื้อสเต๊กมาปรุงรสด้วยเกลือและทิ้งให้อยู่ในอุณหภูมิห้องก่อนที่จะเริ่มทอด

– เทน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติ (จะเป็นน้ำมันคาโนลาหรือน้ำมันถั่วก็ได้) 1-2 ช้อนชาลงในกระทะร้อน ๆ

– นำเนื้อสเต๊กลงไปทอดในกระทะ พยายามพลิกเนื้อสเต๊กกลับด้านไปมา

– ทอดเนื้อสเต๊กประมาณ 3-6 นาที ในแต่ละด้าน ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นเนื้อและระดับความสุกที่ต้องการ

– ก่อนที่เนื้อสเต๊กจะสุก ให้ใส่เนยลงไปประมาณ 2 ช้อนชา และสมุนไพรหรือสารสกัดที่ให้กลิ่นหอม

– ใช้เทอร์โมมิเตอร์ในการตรวจสอบระดับความสุก และถ้าได้อุณหภูมิที่ที่เหลืออีกประมาณ 3 องศาเซลเซียสก่อนจะได้ระดับความสุกที่ต้องการ ให้นำเนื้อสเต๊กออกจากกระทะ จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นก่อนเสิร์ฟ

ประโยชน์ : เมนูนี้จะได้รับโปรตีนจากไก่ไปเต็ม ๆ เลย ซึ่งอย่างที่รู้ ๆ กันว่าเนื้อไก่นั้นเป็นเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง โดยจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รักษากล้ามเนื้อ และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกพรุนอีกด้วย

                และนี่คือเมนูอาหารคลีนที่ไม่ธรรมดาที่เราอยากจะแนะนำให้คนที่รักสุขภาพสามารถเลือกทานอาหารในเมนูต่าง ๆ ได้ ซึ่งแต่ละเมนูก็จะมีรสชาติอร่อยแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ใครจะชอบเมนูไหนก็สามารถเลือกทานได้เลย แต่แนะนำให้ทานในปริมาณที่พอดีนะคะ เพราะถ้าทานมากไปก็ส่งผลไม่ดีต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน ยังไงก็ขอให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการทานอาหารคลีนกันนะคะ

READ MOREREAD MORE
มัดรวม3เมนูอาหารสุขภาพจากอกไก่

มัดรวม3เมนูอาหารสุขภาพจากอกไก่ สูตรเด็ด ทานง่ายแน่นอนมัดรวม3เมนูอาหารสุขภาพจากอกไก่ สูตรเด็ด ทานง่ายแน่นอน

มัดรวม3เมนูอาหารสุขภาพจากอกไก่ สูตรเด็ด ทานง่ายแน่นอน
มัดรวม3เมนูอาหารสุขภาพจากอกไก่

               ช่วงนี้กระแสคนรักสุขภาพกำลังมาแรงมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักมักจะเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายรวมถึงเน้นอาหารเพื่อสุขภาพโดยส่วนใหญ่ วันนี้เราได้รวบรวมมัดรวม3เมนูอาหารสุขภาพจากอกไก่ สูตรเด็ด ทานง่ายแน่นอน ที่เราสามารถทำทานได้ที่บ้านมาฝากทุกคนกัน

| 1.ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนอกไก่
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนอกไก่
ภาพจาก : bigc
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ไก่สับ 500 กรัม
  • พริกไทยป่น (เล็กน้อย)
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • แครอท 1 หัว
  • ผักสลัดตามชอบ
  • ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ
  • ผักชีฝรั่ง
  • แป้งเปาะเปี๊ยะญวน
 วิธีทำ

1.นำไก่สับที่เตรียมไว้ไปผสมกับกับพริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย แล้วหมักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง

2.นำไก่ไปรวนกับน้ำเล็กน้อยในกระทะ ตามด้วยซอสปรุงรสและซอสหอยนางรม ผัดทิ้งไว้จนแห้ง

3.นำแป้งเปาะเปี๊ยะญวนไปแช่น้ำแล้ววางแผ่ให้เป็นรูปวงกลม 

4.วางผักกาดหอม โหระพา ผักชีฝรั่ง แครอท และส่วนผสมไส้บนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะญวน พับแป้งด้านข้างทั้ง 2 ด้านมาทับบนไส้แล้วม้วนเป็นท่อนกลม หั่นเป็นชิ้น ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มลุยสวน

สรรพคุณ

                เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเนื่องจากใช้วัตถุดิบที่ทำจากผักโดยส่วนใหญ่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแถมยังได้ประโยชน์จากสารอาหารอีกด้วย

| 2.สลัดอกไก่
สลัดอกไก่
ภาพจาก : cpbrand thailand
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • อกไก่ต้ม 2 ชิ้น
  • อะโวคาโด 2-3 ลูก
  • เม็ดข้าวโพดสุก 1 ถ้วย
  • เบคอนทอด ประมาณ 170 กรัม
  • ต้นหอมซอย 1/4 ถ้วย
  • ผักชีลาวสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ต้ม 2 ฟอง
วัตถุดิบ น้ำสลัดเลมอน
  • น้ำเลมอน 3 ช้อนโต๊ะ
  • นำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ

1.นำไก่ต้มที่เตรียมไว้ ฉีกเป็นชิ้นๆ

2.นำเอาส่วนผสมทั้งหมดได้แก่ อะโวคาโด  เม็ดข้าวโพดสุก เบคอนทอด คลุกรวมกัน

3.ใส่ต้นหอมซอยและผักชีฝรั่งลงไปคลุกให้เข้ากันกับส่วนผสมทั้งหมด

4.นำไข่ไก่ที่เตรียมไว้ วางโรยหน้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

5.คลุกน้ำสลัด โดยเริ่มจากนำน้ำเลมอนเทลงผสมกับน้ำมันมะกอก หลังจากนั้นใส่เกลือและพริกไทยตามลงไป ปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบ

สรรพคุณ

               เมนูง่ายๆที่ทำให้ทุกคนอิ่มอร่อยไปกับโปรตีนเมนูนี้สำหรับคนที่รักสุขภาพต้องห้ามพลาดเพราะจะเน้นไปที่ผักต่างๆทานคู่กับอกไก่ที่มีโปรตีนไขมันต่ำราดด้วยน้ำสลัดหอมๆใครที่อยากมีสุขภาพดีๆต้องห้ามพลาด

| 3.เมนูส้มตำไทยไข่เค็ม
ส้มตำไทยไข่เค็ม
ภาพจาก : haveazeed
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • มะละกอสับ
  • ไข่เค็ม 1 ฟอง
  • มะเขือเทศ 3 ลูก
  • พริกขี้หนู (ตามชอบ)
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาว 2 ฝัก
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1.นำไก่ต้มที่เตรียมไว้ ฉีกเป็นชิ้นๆ

2.นำเอาส่วนผสมทั้งหมดได้แก่ อะโวคาโด  เม็ดข้าวโพดสุก เบคอนทอด คลุกรวมกัน

3.ใส่ต้นหอมซอยและผักชีฝรั่งลงไปคลุกให้เข้ากันกับส่วนผสมทั้งหมด

4.นำไข่ไก่ที่เตรียมไว้ วางโรยหน้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

5.คลุกน้ำสลัด โดยเริ่มจากนำน้ำเลมอนเทลงผสมกับน้ำมันมะกอก หลังจากนั้นใส่เกลือและพริกไทยตามลงไป ปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบ

สรรพคุณ

               หลายคนอาจจะงงว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างไรแต่แท้จริงแล้วมะละกอเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณช่วยล้างพิษในลำไส้อย่างยิ่งนอกจากนี้ในส้มตำยังมีผัก หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศที่ช่วยบำรุงผิวพรรณทานคู่กับส้มตำเพื่อเสริมโปรตีนก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้นนอกจากจะได้ความอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกเพียบ ว่าแล้วก็ออกไปตามหาส้มตำไทยไข่เค็มทานกันบ้างดีกว่า

               เป็นอย่างไรกันบ้างกลับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพนี้อย่าลืมว่า การทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเดียวจะทำให้ร่างกายแข็งแรงนั้นไม่ใช่ความจริง 100% สิ่งที่จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงควบคู่ไปกับการทานอาหารเพื่อสุขภาพคือการออกกำลังกายและการหันมาใส่ใจสุขภาพดังนั้นแล้วควรทานอาหารที่ดีควบคู่กับการออกกำลังกายไปด้วยจะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงปราศจากความเจ็บป่วย

READ MOREREAD MORE