เปิดเมนูอาหารนานาชาติที่ใคร ๆ ก็อยากจะลิ้มรส
 เปิดเมนูอาหารนานาชาติ

               อาหารนานาชาติ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามาจากหลายชาติ ซึ่งแต่ละชาตินั้นก็จะมีเมนูอาหารที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ วัตถุดิบ วิธีการปรุงอาหาร รวมไปถึงวิธีการรับประทานก็ย่อมมีความแตกต่างกันออกไปตามขนบธรรมเนียม วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของแต่ละชาตินั้น ๆ โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำเมนูอาหารนานาชาติที่จะทำให้ใคร ๆ ที่เข้ามาเห็นก็ต้องอยากที่จะลิ้มรสของอาหารเมนูนั้น ๆ จะมีเมนูอาหารจากชาติใดบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ

 | 1.สปาเก็ตตี้ครีมแซลมอน
สปาเก็ตตี้ครีมแซลมอน
ภากจาก : dailydeliciousthai.blogspot
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เส้นสปาเก็ตตี้
  • แซลมอนรมควันหั่นชิ้น
  • เนยแข็งชนิดจืด
  • เกลือ
  • วิปปิ้งครีม
  • วิสกี้
  • อิตาเลี่ยนพาสลี่
  • พริกไทย
  • น้ำเลมอน
  •  วิธีทำ

    1.ตั้งกระทะแล้วนำเนยจืดลงไปละลาย และใส่เนื้อปลาแซลมอน

    2.คนให้เนื้อปลาสุกดี จากนั้นก็ใส่น้ำมะนาวและวิสกี้

    3.คนสักพักแล้วใส่วิปปิ้งครีมลงไป และปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

    4.ในระหว่างนี้ให้ตั้งหม้ออีกเตาแล้วใส่น้ำและเกลือ ต้มเส้นสปาเก็ตตี

    5.ตั้งเนื้อซอสโดยใช้ไฟอ่อนประมาณ 5 นาที รอให้เนื้อซอสข้นขึ้นแล้วก็ใส่อิตาเลี่ยนพาสลี่ และใส่เส้นสปาเก็ตตี้ตามไป

    6.นวดเส้นให้เนื้อซอสซึมเข้าเส้นก่อน โดยสามารถเติมน้ำลวกเส้นสปาเก็ตตี้ ถ้าเนื้อซอสแห้งแล้วก็ตักลงจานรับประทาน

                    ประโยชน์และสรรพคุณ แซลมอนมีส่วนช่วยในการป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพ บำรุงกระดูกและยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าอีกด้วย ส่วนเนยจืดนั้นจะอุดมไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ และพริกไทยก็ยังช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและยังป้องกันมะเร็งด้วย

    | 2.ลาซานญ่า
    ลาซานญ่า
    ภาพจาก : unileverfoodsolutions
     วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อวัวหรือเนื้อหมูบด
  • แคร์รอตหั่นชิ้นเล็ก ๆ
  • กระเทียมสับละเอียด
  • หอมใหญ่
  • มะเขือเทศปอกเปลือกและเอาเม็ดออก หั่นบาง ๆ
  • ซอสมะเขือเทศ
  • ผงออริกาโน่
  • พริกไทย
  • ผงน้ำซุปไก่
  • เกลือ
  • น้ำตาล
  • น้ำมันพืช
  • น้ำ
  •  ส่วนผสมของซอสชีส
  • นมสด
  • เชดดาร์ชีสขูด
  • เนย
  • แป้งสาลี
  • พริกไทย
  • ผงลูกจันทน์เทศ
  • เกลือ
  •  วิธีทำ

    1.อุ่นกระทะให้ร้อนก่อนแล้วผัดหอมและกระเทียมสับให้พอหอม

    2.ใส่เนื้อบด แล้วค่อย ๆ คนจนสุก จากนั้นก็ใส่ซอสมะเขือเทศ และมะเขือเทศสับลงไป คนให้เข้ากัน

    3.โรยเกลือ น้ำตาล พริกไทย และออริกาโน่ ต่อมาก็เทน้ำและปรุงโดยใช้ความร้อนต่ำ ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยเอาลงจากเตาแก๊ส จากนั้นนำมาพักไว้ด้านข้าง

    4.ทำซอสชีสโดยการตั้งกระทะและเปิดไฟปานกลาง ละลายเนยที่เตรียมไว้ จากนั้นก็ใส่แป้งแล้วคนให้เข้ากัน และค่อย ๆ เทนมสดแล้วคนไปเรื่อย ๆ

    5.ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และผงลูกจันทน์เทศ แล้วใส่ชีสขูด จากนั้นก็คนจนเป็นแผ่นหนา เอาลงจากเตาและพักไว้

    6.ใส่แผ่นลาซานญ่าลงในถาด แล้วตักซอสเนื้อใส่ลงไปบาง ๆ โดยเกลี่ยให้ทั่วก้นถาด ตามด้วยซอสชีส และวางแผ่นลาซานญ่าอีกชั้น ให้ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เรียงสลับกันจนหมด

    7.หลังจากทำเสร็จแล้วให้นำเข้าเตาอบ ประมาณ 30 นาที โดยใช้ไฟในอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เมื่อสุกดีแล้วก็นำออกมาจัดเสิร์ฟ

                     ประโยชน์และสรรพคุณ หอมใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ และมีสรรพคุณที่ช่วยขับปัสสาวะ และพริกไทยก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการย่อยอาหารและยังป้องกันมะเร็งอีกด้วย

    | 3.ซีฟู๊ด ปาเอย่า
    ซีฟู๊ด ปาเอย่า
    ภาพจาก : pantip
     วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ข้าว ปาเอญ่า (ใช้ข้าวหอมไทยแทนได้)
  • น้ำสต๊อกไก่
  • กุ้งสดและปลาสดแล่เป็นชิ้น ๆ
  • ปลาหมึกหั่นแว่น
  • หอยแมลงภู่
  • มะเขือเทศหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
  • ถั่วลันเตาแช่แข็ง
  • หัวหอม
  • กระเทียมสับละเอียด
  • เกลือ
  • พริกไทย
  • น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืช
  • พริกแดงหั่นหยาบ
  • โหระพาสับหยาบ
  • ผักชีฝรั่งสับหยาบ
  • หญ้าฝรั่น
  •  วิธีทำ

    1.ตั้งกระทะเปิดไฟแล้วใส่น้ำมันลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ พอร้อนดีแล้วก็ใส่อาหารทะเลทั้งหมดลงไปผัดจนเริ่มสุก

    2.โรยเกลือเล็กน้อย ใส่พริกแดง โหระพา และผักชีฝรั่งลงไปผัดแล้วให้รีบตักขึ้นใส่จานพักไว้

    3.ตั้งกระทะเปิดไฟแล้วใส่น้ำมันลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ พอร้อนดีแล้วให้ใส่ถั่วลันเตา และมะเขือเทศลงไปผัดพอสุก จากนั้นก็ตักขึ้นพักไว้

    4.ตั้งกระทะเปิดไฟอีกครั้ง ใส่น้ำมันที่เหลือหนึ่งช้อนโต๊ะลงไป พอกระทะร้อนแล้วก็ใส่หัวหอมและกระเทียมลงไปผัดจนหอม

    5.ใส่ข้าว และใส่หญ้าฝรั่น จากนั้นก็โรยเกลือ คลุกเคล้าให้ทั่ว จากนั้นใส่น้ำสต๊อกไก่

    และให้เปิดไฟแรงประมาณ 15 นาที ข้าวจะเริ่มเดือด หลังจากนั้นก็เบาไฟลง

    6.นำส่วนผสมที่ตักพักไว้ลงไปผัดเคล้าให้ทั่ว ชิมรสดูก่อน แล้วนำกุ้ง ปลา ปลาหมึก และหอยที่ผัดพักไว้มาเรียงไว้บนข้าวที่กำลังเดือด

    7.เมื่อน้ำซุปเริ่มแห้งแล้วข้าวก็จะสุกนิ่ม ปิดไฟและปิดฝาไว้ ปล่อยให้อบไว้อีกประมาณ 10 นาที และโรยพริกไทยก่อนรับประทาน

                     ประโยชน์และสรรพคุณ เมนูนี้จะได้รับสารอาหารจากอาหารทะเลมากมาย ซึ่งจะอุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหารที่ดี อย่างเช่นโปรตีน รวมทั้งแร่ธาตุที่สำคัญอย่างไอโอดีน แคลเซียม เหล็ก และวิตามินบี

     | 4.เรนดัง
    เรนดัง
    ภาพจาก : travelzeed
    วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อวัว
  • กะทิ
  • กระวานเทศ
  • โป๊ยกั๊ก
  • อบเชย
  • ใบซาลามหรือใบกระวาน
  • ใบมะกรูด
  • ตะไคร้
  • ลูกผักชี
  • ยี่หร่า
  • ลูกจันทน์ป่น
  • พริกไทย
  • แคนเดิลนัด
  • น้ำมันพืช
  • มะพร้าวคั่ว
  • น้ำตาลโตนด
  • เกลือ
  • ซีอิ๊วดำ
  •  วิธีทำ

    1.โขลกพริกชี้ฟ้าแดง หัวหอม และกระเทียมไว้ก่อน

    2.หั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นใหญ่

    3.ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมัน จากนั้นผัดพริกแกงจนหอม และใส่เนื้อลงไปผัด

    4.เติมกะทิ และใส่กระวานเทศ โป๊ยกั๊ก อบเชย ใบซาลาม ใบมะกรูด เสร็จแล้วเคี่ยวจนเนื้อเปื่อย แล้วก็ใส่มะพร้าวคั่วลงไป

    5.ปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนด เกลือ และซีอิ๊วดำ และเคี่ยวจนน้ำขลุกขลิก

    6.ตักเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยเลอมัง หรือกือตูปัต ผักลวก และน้ำพริกซัมบัล

                    ประโยชน์และสรรพคุณ เนื้อวัวจะอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินและเกลือแร่ที่มีคุณภาพสูง และมะพร้าวจะช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ยังจะได้รับประโยชน์มากมายจากสมุนไพรต่าง ๆ อีกด้วย

    | 5.ฮัมมูส
    ฮัมมูส
    ภาพจาก : PHOLFOODMAFIA
     วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ถั่วลูกไก่ดิบ
  • น้ำมันมะกอก
  • กระเทียม
  • เกลือ
  • น้ำมะนาวเลมอน
  • พริกคาเยน
  • ขนมปังพิต้า
  • แคร์รอต
  • เซเลอรี่
  •  วิธีทำ

    1.ให้ล้างและแช่ถั่วลูกไก่ในน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง

    2.นำไปต้มในหม้ออัดแรงดันให้สุกดี เป็นเวลา 45 นาที

    3.นำถั่วลูกไก่ น้ำมันมะกอก กระเทียม และเกลือใส่เครื่องบดสับ โดยบดให้เข้ากัน ปรับเนื้อสัมผัสให้นุ่มขึ้นด้วยน้ำสะอาด ¼ ถ้วยและปรุงรสด้วยพริกคาเยน

    4.ก่อนจะเสิร์ฟให้พรมน้ำมันมะกอกอีกเล็กน้อย และโรยหน้าพริกคาเยน โดยให้รับประทานกับขนมปังพิต้า แคร์รอต และเซเลอรี่

                    ประโยชน์และสรรพคุณ น้ำมันมะกอกจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอี ส่วนน้ำมะนาวเลมอนจะช่วยลดเลือนริ้วรอย และแคร์รอตจะช่วยบำรุงและรักษาสายตา อีกทั้งยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วย