ขนมอินทนิล – ความอร่อยและสีสันที่มอบความสุขในทุก ๆ วัน
ขนมอินทนิล

ขนมอินทนิล นั้นอาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นเคยเท่าไรนัก แต่บอกเลยว่าถ้าใครได้ลองจะต้องติดใจกับเมนูขนมของไทยเมนูนี้กันอย่างแน่นอน เพราะมาพร้อมรสชาติที่กลมกล่อม แป้งเหนียวนุ่น ทุกอย่างเข้ากันได้ดีและลงตัวเป็นที่สุด ซึ่งเมื่อหาทานยาก แต่สามารถทำทานเองได้ก็ไม่ควรพลาด เพราะวันนี้เราขนเอาทั้งวัตถุดิบและวิธีทำมาฝากคุณกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถทำความรู้จักเมนูนี้แล้วไปลองทำตามสูตรกันได้เลย ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มลุยกับเมนูนี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

ขนมอินทนิล คืออะไร

ขนมอินทนิล

ถ้าใครยังไม่รู้จักเราลองมาทำความรู้จักกับ ขนม อินทนิล กันก่อนดีกว่า จริง ๆ แล้วขนมไทยชนิดนี้มีอีกชื่อเรียกที่คุ้นเคยมากกว่าคือหยกสด โดยอินทนิล หยกสด วิธีทำคือนำแป้งมาผสมกับน้ำใบเตยสีเขียว กวนจนเหนียวแล้วปั้นเป็นก้อน เติมกะทิหอม ๆ ใส่น้ำแข็งเย็น ๆ แต่เหตุผลที่ของหวานอินทนิลหาทานยากก็เป็นเพราะเมนูนี้ใช้เวลาในการทำนานในขั้นตอนของการกวน แต่บอกเลยว่าถ้าคุณมีเวลาว่างพอและได้ลองทำจะเป็นหนึ่งในเมนูขนมไทยโบราณที่คุณจะประทับใจที่ได้ลองทำด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เพราะเมนูนี้คือหนึ่งในขนมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณของบ้านเรา ขนมที่ปรับเปลี่ยนจากการมีแค่กะทิ น้ำตาล แป้ง มาให้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แสนจะมีเอกลักษณ์

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับการทำ ขนมอินทนิล

ใครอยากลองทำ ขนมอินทนิล เรามาเข้าสู่ขั้นตอนของการเตรียมวัตถุดิบสำหรับขนมอินทนิลคือของที่ต้องสดใหม่และมีคุณภาพ เพื่อทำตามสูตรขนมอินทนิลแบบดั้งเดิม ดังนั้นเมนูนี้จะต้องใช้อะไรบ้างเรามาเริ่มเตรียมไปพร้อมกันเลยดีกว่า เรียบร้อยแล้วจะได้ไปสู่ขั้นตอนของการใช้วิธี ทํา อินทนิล ง่ายๆ กัน

ขนมอินทนิล
  • ส่วนผสมน้ำกะทิตามหลักสูตรขนมไทย – ​น้ำกะทิ 4 ถ้วย(หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง หางกะทิ 3 ถ้วยตวง)
    – น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วยตวง
    – ​เกลือป่น 1 ช้อนชา
    – ​เทียนอบขนม
  • ส่วนผสมแป้งเพื่อทำตามวิธี ทํา อินทนิล มะพร้าวอ่อน – แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
    – น้ำใบเตย 4 ถ้วย

วิธีทำ ขนมอินทนิล ตามสูตรขนมไทยโบราณ

เมื่อเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเรามาเริ่มทำขนมอินทนิล กันดีกว่า มาดูกันว่าเมนูขนมไทยเมนูนี้จะมาพร้อมกับวิธีทำที่ทำให้คุณสนุกและได้ประสบการณ์อะไรใหม่ ๆ ในการทำของหวานไทยเพิ่มขึ้นบ้าง

ขนมอินทนิล
  1. เริ่มทำกะทิอบควันเทียนก่อน โดยการเทน้ำกะทิใส่ในอ่าง จุดเทียนอบขนมให้ไฟลามไปถึงตรงขี้ผึ้งแล้วค่อนดับเทียน จากนั้นใส่เทียนเอาไว้ในถ้วยเล็ก ๆ แล้วเอาไปใส่ไว้ในอ่างน้ำกะทิ อบน้ำกะทิทิ้งไว้ 30 นาที จุดเทียนซ้ำอีก 1-2 ครั้ง เมื่อน้ำกะทิได้อบควันเทียนแล้วก็สามารถนำไปตั้งไฟใส่น้ำตาลทรายและเกลือ คนผสมให้ทุกส่วนละลาย รอเดือดแล้วยกลง
  2. หลังจากกะทิเรียบร้อยแล้วเรามาเริ่มขั้นตอนของการทำขนมกันต่อ ผสมแป้งกับน้ำใบเตย คนให้แป้งละลายเข้ากับน้ำใบเตย
  3. จากนั้นเริ่มตั้งไฟอ่อนและต้องใช้พายกวนตลอดเพื่อไม่ให้ไหม้ติดก้นหม้อ กวนไปจนขนมเริ่มสุก ตัวแป้งจะเหนียวพร้อมทั้งใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อแป้งสุกทั่วกันแล้วให้นำหม้อลงแช่ในอ่างน้ำแข็ง วิธีนี้จะช่วยลดอุณหภูมิไม่ให้ร้อนไป เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถจับตัวได้ 
  4. มาเริ่มจับตัวขนมกันต่อด้วยการเตรียมถ้วยเอาไว้เพื่อใส่น้ำคอยจุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งขนมติดมือ ใช้นิ้วที่เปียกนั้นหยิบขนมแบบพอดีคำ จากนั้นหย่อนลงไปในน้ำกะทิ ตอนที่หยิบให้ใช้นิ้วปั้นให้กลม ๆ เล็กน้อยไปด้วย ทำไปเรื่อย ๆ จนแป้งหมด
  5. จากนั้นนำขนมมาใส่ถ้วย เทน้ำแข็งบดลงไป ราดน้ำกะทิ เพียงเท่านนี้ก็พร้อมเสิร์ฟให้ได้ทานเมนูที่เหนียมนุ่ม หอม หวาน ชื่นใจ เหมาะที่จะเป็นอาหารว่างเพิ่มมวลความสุขกันแล้ว

หมายเหตุ : ตัวขนมอินทนิลที่ดีจะไม่แข็งเป็นไตตรงกลาง

มารู้จักอีกมุมของขนมอินทนิล

ขนมอินทนิล

ความจริงแล้วเมื่อเริ่มแรก ขนมอินทนิลจะเป็นสีม่วงจากดอกอัญชัน เพราะชื่อของขนมนั้นจริง ๆ แล้วมาจากการเลียนแบบทั้งรูป สี จากต้นไม้ที่ชื่อว่าต้นอินทนิล ซึ่งมีช่อสีม่วง หรือม่วงอมชมพู แต่เหตุผลที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นสีเขียวอย่างที่เราพอจะคุ้นเคยกันในตอนนี้ก็เป็นเพราะว่าใบเตยนั้นมีราคาถูกและสามารถหาได้ง่ายกว่านั่นเอง ดังนั้นถ้าใครอยากทำเมนูขนมนี้แบบต้นตำรับจริง ๆ จะต้องทำเป็นสีม่วงจากดอกอัญชันเพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ที่แท้จริง

ขนมอินทนิล

ใครที่สะดวกอยากทำ ขนม อินทนิล สามารถนำวัตถุดิบและสูตรนี้ไปปรับกันได้เลย และถ้าอยากทำให้เป็นสีม่วงก็เพียงแค่เปลี่ยนใบเตยเป็นอัญชัน หรือจะทำให้เมนูนี้น่าสนใจขึ้นด้วยการทำผสมกันทั้งสองสีก็ถือว่าเป็นลูกเล่นใหม่ ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไรนัก ดังนั้นคุณอาจกลายเป็นคนที่ผสมผสานสีสันของธรรมชาติให้ออกมาในรูปแบบของขนมเมนูนี้ได้อย่างลงตัว ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มออกตามล่าวัตถุดิบแล้วเจ้าครัวกวนขนมหยกสดมาให้ทุกคนที่ได้ชิมประทับใจจนต้องให้คุณทำเพิ่มอีกรอบกันดีกว่า

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/