หมวดหมู่: สูตรขนม

ถั่วแปป

มาทำขนม ถั่วแปป ทานเองที่บ้านกันดีกว่ามาทำขนม ถั่วแปป ทานเองที่บ้านกันดีกว่า

ถั่วแปป

ใครกำลังหากิจกรรมวันหยุดทำ หรืออยากลองทำขนมง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ขอแนะนำเลยว่าเมนูอย่าง ถั่วแปป นั้นเหมาะที่จะเป็นเมนูแรก ๆ ที่คุณลองทำ เพราะเป็นเมนูที่ทั้งทำงานและอร่อย ดังนั้นคุณจะได้เจอกับประสบการณ์ที่ดีในการทำขนมชนิดนี้กันอย่างแน่นอน วันนี้เราลองมาทำความรู้จัก พร้อมทั้งเก็บรายการวัตถุดิบและวิธีทำไปลองทำกันดีกว่า เมนูนี้ถ้าทำเป็นแล้วรับรองว่าจะติดใจกลับมาทำทานกันเองบ่อย ๆ อย่างแน่นอน

ขนม ถั่วแปป คืออะไร

แม้ว่าจะเคยได้ยินชื่อของ ถั่ว แปป กันมาบ้าง แต่ถ้าใครยังไม่รู้จักเมนูนี้ดีเท่าที่ควร เรามาลองทำความรู้จักก่อนที่จะเริ่มทำกันดีกว่าจะได้อินมากขี้นว่าเสน่ห์ของถั่วแปบโบราณนั่นเป็นอย่างไร แล้วทำไมเมนูขนมไทยโบราณนี้จึงยังเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน

ถั่วแปป

สำหรับถั่วแปบสดนั้นเป็นขนมไทย ง่ายๆ ที่นิยมกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำจากแป้งข้าวเหนียว มีไส้ที่ทำจากถั่วเขียวอยู่ข้างใน ซึ่งส่วนที่ยุ่งยากที่สุดคือการทำไส้นั่นเอง และเมื่อมีไส้เรียบร้อยแล้วก็จะต้องมีการคลุกกับมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย และก่อนทานต้องโรยน้ำตาลทราบพ่วงมาด้วยงาคั่วหอม ๆ ถึงจะกลายเป็นขนมถั่วแปบของหวานไทยที่สมบูรณ์แบบ

วัตถุดิบที่ต้องใช้ในการทำ

เรามาเริ่มเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมสำหรับการทำถั่วแปป กันดีกว่า ส่วนผสมของถั่วแปบ คืออะไรบ้าง ต้องใช้จำนวนมากน้อยขนาดไหน มาเก็บรายละเอียดแล้วมาเริ่มเข้าครัวทำเมนูของหวานไทยเมนูนี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่า

ถั่วแปป
  • ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 500 กรัม 
  • มะพร้าวทึนทึก 1 ลูก 
  • แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม 
  • น้ำอัญชันเข้มข้น 1 ถ้วยตวง 
  • น้ำใบเตยเข้มข้น 1 ถ้วยตวง 
  • น้ำกระเจี๊ยบเข้มข้น 1 ถ้วยตวง 
  • งาขาวคั่ว ½ ถ้วยตวง 
  • งาดำคั่ว ½ ถ้วยตวง 
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 
  • เกลือป่นเล็กน้อย 

วิธีทำถั่วแปป เมนูของหวานไทยง่ายๆ

เตรียมวัตถุดิบในการทำถั่ว แปปกันไปเรียบร้อยแล้ว เราลองมาเข้าสู่วิธีการทำขนมถั่วแปบกันดีกว่าว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ได้ความเหนียม นุ่ม หนึบ และหวานกำลังดีที่ทานแล้วอร่อยติดใจ ช่วยเติมพลังงานให้กับวันนั้นของคุณสดใสได้มากยิ่งขึ้นง่าย ๆ ด้วยสูตรขนมถั่วแปบสูตรนี้

ถั่วแปป
  1. เริ่มจากการนึ่งถั่วกับมะพร้าวก่อน โดยให้คุณนำถั่วเขียวมาใส่ในกะละมัง ล้างให้สะอาด แช่น้ำทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
  2. เมื่อครบเวลาให้คุณนำถั่วเขียวมาสะเด็ดน้ำออก แล้วนึ่งด้วยไฟแรง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
  3. ระหว่างที่รอนึ่งถึงเวลาของการนำมะพร้าวมาขูดให้กลายเป็นฝอยกันแล้ว อย่าลืมคลุกด้วยเกลือเล็กน้อยเพิ่มรสชาติ แล้วนำไปนึ่ง 10 นาที
  4. หลังจากทั้งสองอย่างนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำมาผสมกันในถาด จากนั้นพักรอเอาไว้
  5. มาเริ่มขั้นตอนของการต้มแป้ง ให้คุณแบ่งแป้งข้าวเหนียวออกเป็น 3 ส่วน ให้ส่วนหนึ่งอยู่ในน้ำผสมอัญชัน อีกส่วนอยู่ในน้ำผสมใบเตย และอีกส่วนอยู่ในน้ำผสมกระเจี๊ยบ เพื่อให้สีออกมาต่างกัน
  6. ตั้งหม้อต้มน้ำจนเดือด จากนั้นนำแป้งที่นวดไว้มาปั้นให้เป็นแผ่นวงรีแล้วนำลงไปต้ม รอจนแป้งลอยตัวแล้วตักขึ้นมาเพื่อนำไปคลุกกับถั่วและมะพร้าวที่ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ พับแป้งให้ห่อถั่ว ทำไปเรื่อย ๆ จนแป้งหมด
  7. เมื่อครบแล้วก็สามารถเสิร์ฟกันได้เลย โดยให้คุณเตรียมน้ำตาลพร้อมทั้งงาคั่วเอาไว้ข้าง ๆ ก่อนทานก็ตักใส่เพื่อให้ได้รสชาติของถั่ว แปบแบบต้นตำรับ

ถั่วแปป สามารถทำเป็นสีอะไรได้บ้าง

อย่างที่เห็นกันไปแล้วว่านอกจากความอร่อยสีสันของถั่วแปป ก็ยังจัดเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง แล้วถ้าคุณอยากได้สีสันของถั่วแปบโบราณให้มากกว่านี้คุณสามารถที่จะใช้อะไรมาทำสีจากธรรมชาติให้กับขนมไทยเมนูนี้ได้บ้างเราลองมาหาแรงบันดาลใจกันดีกว่า

ถั่วแปป
  • สีแดง สามารถทำจากกระเจี๊ยบ บีทรูท สตรอว์เบดอร์รี่ และทับทิม
  • สีเหลือง สามารถทำได้จากขมิ้นและฟักทอง
  • สีชมพู สามารถทำได้จากบีทรูท ซึ่งถ้ากลัวเข้มเท่าสีแดงสามารถลดเวลาในการต้มหรือจำนวนที่ผสมได้
  • สีเขียว สามารถทำได้จากใบเตย ซึ่งเป็นเทคนิคสีของหวานง่ายๆ ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
  • สีส้ม สามารถทำมาจากสีของแครอทได้
  • สีฟ้า สามารถทำได้จากอัญชัน ซึ่งบอกเลยว่าสามารถเลือกปรับความเข้มอ่อนได้ตามต้องการ
  • สีม่วง สามารถทำได้จากมันม่วง เทรนด์สีธรรมชาติสีใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม
ถั่วแปป

วันนี้คุณได้รู้จักกับเมนูขนมแบบไทย ๆ อย่างถั่วแปป กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าสนใจอยากลองทำบอกเลยว่าทำตามกันได้ แม้ว่าช่วงแรก ๆ อาจยังไม่คุ้นเคย และดูเหมือนเป็นขนมที่ต้องผ่านหลายขั้นตอนยุ่งยาก แต่ถ้าคุณถนัดมือกับเมนูนี้มากขึ้นแล้วบอกเลยว่าจะกลายเป็นขนมของไทยที่คุณสามารถหลับตาทำกันได้เลยทีเดียว แถมยังสามารถสนุกไปกับการผสมสีเพื่อให้ได้สีใหม่แปลกตา สร้างความน่าสนใจให้กับการทานได้เป็นอย่างดี ใครกำลังหากิจกรรมยามว่างทำ หรือกำลังหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้นี่คือเมนูขนมที่คุณไม่ควรพลาด เพราะใช้งบประมาณไม่เยอะ อุปกรณ์ไม่มากมาย แต่สามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

ค้นพบ เว็บบาคาร่าอันดับ 1 ที่ให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีที่สุด พร้อมกับโปรโมชั่นและบริการที่พร้อมตอบสนองความต้องการของคุณ คลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อสนุกไปกับคาสิโนออนไลน์!

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
มิ ล เฟ ย

มาแกะสูตรแล้วทำความรู้จักกับ มิ ล เฟ ย กันมาแกะสูตรแล้วทำความรู้จักกับ มิ ล เฟ ย กัน

มิ ล เฟ ย

มิ ล เฟ ย คืออะไร แล้วถ้าอยากทำต้องตามสูตรขนมไหนวันนี้เรามีคำตอบ บอกเลยว่าได้ครบทุกคำตอบที่ต้องการอย่างแน่นอน

มิ ล เฟ ย คืออะไร

มิ ล เฟ ย

หลายคนถ้าพูดแค่ชื่อ มิลเฟย อาจยังไม่มั่นใจว่านี่คือของหวานอะไรกันแน่ แต่เมื่อเห็นภาพแล้วน่าจะคุ้นตากันมากขึ้น ซึ่งเอกลักษณ์ของมิลเฟยก็คือ ขนมที่ใช้แป้งพัฟฟ์มาอบให้แบนแล้ววางซ้อนกันเป็นชั้นสลับกับครีมคัสตาร์ด นิยมตกแต่งคู่กับผลไม้ตระกูลเบอร์รีเพื่อให้รสตัดกันอย่างลงตัว และจุดเด่นอีกจุดของ, มิลเฟย คือเป็นขนมที่ตกแต่งสวยงาม ทำให้คนทานได้ทั้งอาหารตาและอาหารปากในเวลาเดียวกัน

อยากทำ มิลเฟย ต้องเตรียมอะไรบ้าง

สำหรับเมนูนี้ มิล เฟ ย นั้นบอกเลยว่าวัตถุดิบพร้อมทั้งวิธีทำไม่ได้ยากอย่างที่คิด มาดูกันดีกว่าว่าถ้าอยากทำ Mille Feuille ต้องเตรียมอะไรบ้างให้ขนมชิ้นนี้ออกมาสมบูรณ์มากที่สุด

มิ ล เฟ ย
  • วัตถุดิบหลักของมีลเฟย
    • แป้งพัฟฟ์เพสทรี 600 กรัม
    • เนยละลายสำหรับทาแป้ง
    • น้ำตาลทรายสำหรับโรยแป้ง
  • ผลไม้ตกแต่งตามสไตล์ขนมอบฝรั่งเศส
    • สตรอว์เบอร์รี ราสป์เบอร์รี บลูเบอร์รี และใบสะระแหน่สำหรับจัดเสิร์ฟ หรือถ้าคุณต้องการเพิ่มเติมผลไม้หรือของตกแต่งอื่น ๆ ก็สามารถเลือกมาใส่ได้ตามที่คุณชอบ
  • ส่วนผสมคัสตาร์ดครีมชีสของหวานฝรั่งเศส
    • ไข่แดงไข่ไก่ 2 ฟอง
    • น้ำตาลทราย 30 กรัม
    • แป้งข้าวโพด 8 กรัม
    • ครีมชีส 170 กรัม
    • นมสดชนิดจืด 100 กรัม
    • กลิ่นวานิลลา ¼ ช้อนชา
    • เกลือป่น ⅛ ช้อนชา
    • เนยสดชนิดจืด 50 กรัม
    • วิปปิ้งครีม 150 กรัม

วิธีทำ มิล เฟ ย

เมื่ออุปกรณ์พร้อมมิ ล เฟ ยก็พร้อมที่จะให้คุณได้ลองทำด้วยตัวเองกันจากสูตรเบเกอรี่ส่งตรงจากฝรั่งเศสสูตรนี้กันแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาในการทำเล็กน้อยถ้าอยากทำลองใช้วันว่างจะทำให้คุณสนุกกับเมนูนี้ได้ดีที่สุด

มิ ล เฟ ย
  1. เริ่มจากการทำคัสตาร์ดก่อน ด้วยการใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย ลงในอ่างผสม จากนั้นใช้ตะกร้อตีให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพด ตีจนไม่เป็นเม็ด ใส่ครีมชีส นมสด งนิลา และใช้ตะกร้อคนอีกรอบจนเข้ากัน
  2. ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลาง เมื่อเดือดยกอ่างผสมไข่วางบนหม้อ ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน เมื่อทุกอย่างข้น ปิดไฟ แล้วใส่เนยลงไป คนจนเนยละลาย ปิดไว้ด้วยแรป พักจนหายร้อน
  3. ตีวิปครีมในชามผสมอีกใบจนฟู แบ่งวิปครีมลงผสมกันส่วนของคัสตาร์ดทีละครึ่ง คนให้เข้ากันดีแล้วปิดด้วยแรปพักเอาไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  4. นำแป้งพัพฟ์ออกจากตู้เย็น คลึงแป้งให้หนา 2-3 มิลลิเมตร วงลงถาดอบ ใช้ส้อมเจาะทั่วแผ่น ทาเนยบาง ๆ โรยน้ำตาลให้ทั่ว ปิดทัยด้วยกระดาษไข ใช้ถาดทบด้านบน อบที่ 180 องศาฯ 15 นาที
  5. เมื่อแป้งสุก ตัดขอบที่เกินทิ้ง ตักคัสตาร์ดใส่ถุงบีบ และเริ่มประกอบชั้นให้ได้ 3 ชั้น
มิ ล เฟ ย

สูตรของขนมหวานฝรั่งเศสอย่าง มิลเฟย นั้นถ้าคุณเริ่มคุ้นเคยจะสนุกกับการทำเมนูนี้เป็นอย่างมาก และจะสามารถออกแบบเมนูนี้ให้น่าสนใจได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่คุณทำอย่างแน่นอน ลองนำสูตรนี้ไปปรับใช้ทำทานเป็นอาหารว่างแบบง่าย ๆ กันได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
เอแคลร์

สูตรเด็ดให้คุณทำ เอแคลร์ ได้ด้วยตัวเองสูตรเด็ดให้คุณทำ เอแคลร์ ได้ด้วยตัวเอง

เอแคลร์

ขนมหวานอย่าง เอแคลร์ ถือว่าได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ถ้าหากวันนี้คุณอยากลองทำไว้ทานเองล่ะก็ เราจะพาคุณมาเก็บสูตรขนมเอแคลร์ไปทำกัน

เรื่องราวของ เอแคลร์

เอแคลร์

ก่อนจะไปลงรายละเอียดเรื่องสูตรเอแคลร์ ต้องบอกก่อนเลยว่าขนมชนิดนี้เป็นของหวานฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน จนตอนนี้พวกเราเองก็คุ้นเคยกับขนมชนิดนี้กันเป็นอย่างดี หัวใจหลักของขนม เอ แคร์นั้นคือแป้งที่หนานุ่มและไส้ที่รสละมุนหวานมันกำลังดี โดยนอกจากไส้ครีมที่เป็นรสดั้งเดิมแล้วในปัจจุบันยังมีการปรับแต่งให้มีหลากหลายไส้จนกลายเป็นความสนุกของการทานเอ แค ลกันไปเลย

วัตถุดิบในการใช้ทำเอแคลร์

การเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมสำหรับการทำ เอแคลร์ นั้นถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะแม้จะทำเอแกลร์ได้ไม่ยาก แต่ถ้าขาดวัตถุดิบสำคัญอะไรไปก็อาจทำให้คุณไม่ได้เอแคลร์ ฝรั่งเศสตามที่ต้องการ ดังนั้นมาเตรียมของตามรายการเหล่านี้ให้พร้อมกัน

เอแคลร์
  • ส่วนผสมของแป้ง Eclairs
    • แป้งสาลี 135 กรัม
    • น้ำเปล่า 240 กรัม
    • เนยสดเค็ม 115 กรัม
    • ไข่ไก่ 5 ฟอง
  • ส่วนผสมไส้ครีมเอแคลร์ ชูครีม
    • นมสดพร่องมันเนย 750 กรัม
    • แป้งข้าวโพด 75 กรัม
    • ไข่ไก่ 1 ฟอง
    • นมผงขาดมันเนย 25 กรัม
    • น้ำตาลทราย 150 กรัม
    • วนิลา 2 ช้อนชา
    • เกลือ
    • เนยสด 75 กรัม

ขั้นตอนวิธีทำเอแคลร์

เมื่ออุปกรณ์พร้อมและสดใหม่เพียงพอแล้วก็สามารถเริ่มเข้าสู่วิธีทำ เอ แคลร์ ขนมอบฝรั่งเศสที่เป็นของหวานยอดนิยมกันแล้ว ขั้นตอนจะมีอะไรบ้างอย่ารอช้ามาเริ่มกันเลยดีกว่า

เอแคลร์
  1. ใส่น้ำและเนยลงในหม้อตั้งไฟให้พอเดือดและเนยละลาย
  2. ใส่แป้งทั้งหมดลงไปแล้วคนเร็ว ๆ จนแป้งร่อนเป็นก้อนแล้วนำไปใส่เครื่องตี
  3. ค่อย ๆ ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ให้ไข่ฟองก่อนหน้ากับแป้งเข้ากันดีก่อนแล้วค่อยใส่ฟองถัดไปจนครบ
  4. ตักแป้งใส่ถุงบีบ บีบลงในถาดที่ทาเนยหรือวางแผ่นรองอบเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเว้นระยะห่าง
  5. นำไปอบที่ 190 องศาฯ นาน 20 นาที แล้วนำออกมาวางพักบนตะแกรงจนเย็น
  6. เริ่มผสมแป้งข้าวโพด นมผง เกลือ น้ำตาล ให้เข้ากัน
  7. ผสมนมสดกับไข่
  8. เทส่วนผสมที่ผสมไว้ลงในแป้งแล้วผสมให้ทุกอย่างเข้ากัน
  9. ใส่หม้อต้มน้ำแล้วนำหม้อผสมมาวางด้านบน แล้วผสมทุกอย่างให้เข้ากันตามด้วยการใส่เนยสด คนจนละลายและเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  10. ใส่วนิลาลงไปแล้วคนเร็ว ๆ ให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วยกออกจากหม้อต้ม
  11. เมื่อได้ไส้ครีมมาเรียบร้อยแล้วให้บีบไส้เข้าตัวแป้งที่เย็นแล้ว จากนั้นรอให้ครีมซึมเข้าเนื้อสักครู่ค่อยทาน
เอแคลร์

วันนี้คุณได้สูตรเด็ดทำง่ายของเอแคลร์ ขนมฝรั่งเศสยอดฮิตกันไปแล้วคุณสามารถนำสูตรนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ความชอบของคุณเพื่อให้ได้ขนมหวานฝรั่งเศสที่ตามแบบฉบับของสูตรขนมเบเกอรี่ที่ชาวฝรั่งเศาและคนทั่วโลกนิยมทาน

บทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
GULAB JAMUN

GULAB JAMUN คืออะไรมาตามหาคำตอบกันGULAB JAMUN คืออะไรมาตามหาคำตอบกัน

GULAB JAMUN

ถ้าจะพูดถึงขนมอินเดียน่าจะเป็นเมนูแปลกใหม่สำหรับหลาย ๆ คนและวันนี้เราขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ GULAB JAMUN

มาทำความรู้จักกับ GULAB JAMUN กันก่อน

GULAB JAMUN

เมื่อพูดถึงเมนู GULABJAMUN ขึ้นมาหลายคนอาจยังไม่รู้จักว่า GULAB JAMUNคืออะไร ซึ่งเราได้เตรียมคำตอบมาทำให้คุณได้รู้จักเมนูนี้กันแบบรวดเร็วมากที่สุดแล้ว ขนมชนิดนี้คือขนมชื่อดังของอินเดีย เป็นขนมทางตอนใต้ของประเทศ มีลักษณะเป็นก้อนกลม ทอดในเนยกี และมีน้ำเชื่อมมาเพิ่มรสชาติ ซึ่งมีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศ นิยมทานคู่กับชา จึงเหมาะมากที่จะทานเป็นอาหารว่างบ่าย แล้วถ้าวันนี้ใครอยากได้สูตรไปทำทานกันเองที่บ้านก็สามารถที่จะตามมาเก็บวัตถุดิบที่ต้องมีและวิธีทำจากเรากันได้เลย

วัตถุดิบในการทำGULAB JAMUN

หลังจากได้ทำความรู้จักGULAB JAMUNกันไปคร่าว ๆ แล้วเราลองมาเจาะลึกส่วนผสมที่อยู่ในเมนูนี้กันดีกว่าว่าGULAB JAMUNจะต้องมีอะไรบ้างเพื่อให้ได้ความอร่อยแบบต้นตำรับ

GULAB JAMUN
  • ส่วนผสมหลักของกุหลาบจามุน
    • แป้งสำเร็จรูปกุหลาบจามุน 1 กล่อง
    • น้ำตาลทราย 700 กรัม
    • กรีนคาร์ดามอม 10 ฝัก
  • ส่วนผสมน้ำเชื่อมของหวานอินเดีย
    • น้ำเปล่า 400 มิลลิลิตร
    • นม 200 มิลลิลิตร
    • CASHEW NUTS 10 เม็ด 

วิธีทำ GULABJAMUN

การที่GULAB JAMUNกลายมาเป็นขนมยอดนิยมแบบนานาชาติได้ก็เพราะความอร่อยและขั้นตอนการทำที่ไม่ซับซ้อน ทำให้หลาย ๆ ชาติสามารถเรียนรู้และนำมาทำได้ และคุณเองก็สามารถทำได้ตามสูตรขนมที่เราหยิบมาแนะนำกันในวันนี้

GULAB JAMUN
  1. นำน้ำตาลทรายกับน้ำมาต้มด้วยไฟต่ำจนเดือด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  2. ทุบกรีนคาร์ดามอมลงไปในน้ำเชื่อม
  3. ต้มให้เดือดเบา ๆ จนได้น้ำเชื่อมเข้มข้น
  4. เริ่มผสมแป้งกับนมจนสามารถนวดออกมาได้เนื้อเนียน
  5. หั่น CASHEW NUTS บาง ๆ 
  6. บี้แป้งออกมาแล้วเติมถั่วที่หั่นไว้ลงไปจากนั้นปั้นให้เป็นก้อนกลมเนียนอีกครั้ง
  7. นำไปทอดจนได้สีน้ำตาลสวยงาม
  8. น้ำขึ้นมาชุบกับน้ำเชื่อมที่เตรียมเอาไว้และแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที จากนั้นก็สามารถทานกันได้เลย
GULAB JAMUN

เมื่อคุณได้รู้วัตถุดิบพร้อมทั้งสูตรของขนมหวานอินเดียยอดนิยมอย่าง GULABJAMUN กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วคุณก็สามารถเริ่มเข้าครัวแล้วทำกันได้เลย บอกเลยว่าเมนูนี้จะกลายเป็นสีสันของอาหารว่างให้กับคุณได้อย่างง่าย ๆ และยังถือเป็นการเปิดโลกของการทำขนมให้นานาชาติเพิ่มมากขึ้น สำหรับเมนูอาหารและขนมของอินเดียนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ถ้าอยากได้สูตรเพิ่มเติมสามารถติดตามสูตรต่อไปที่เราจะรวบรวมและสรุปให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดกันได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
CANELE

มาลองทำขนมหวานสุดมินิมอล CANELE กันมาลองทำขนมหวานสุดมินิมอล CANELE กัน

CANELE

ใครที่อยากทำขนมอบฝรั่งเศสไว้ทานเอง ขอแนะนำสูตร CANELE ให้คุณได้ลองนำไปทำกัน เพราะเมนูนี้ทานง่าย ละมุน และสวยงาม

CANELE คืออะไร

CANELE

แม้ว่ารูปทรงของCANELE จะเป็นที่คุ้นตากันดี แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว canelé คืออะไร ซึ่งคำตอบก็คือเป็นของหวานขึ้นชื่อจากเมืองบอร์โดซ์ของประเทศฝรั่งเศส มีส่วนผสมหลักเป็นไข่แดง และเติมความหอมหงานด้วยรสวนิลาและเหล้ารัม โดยเริ่มกลายมาเป็นขนมขึ้นชื่อจนกลายเป็นอาชีพอย่างเป็นทางการในช่วงศตวรรษที่ 20 และยังคงนิยมต่อเนื่องและค่อย ๆ กระจายไปทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

วัตถุดิบสำหรับการทำ CANELE

ใครอยากลองทำเมนูCANELEด้วยตัวเองมาเริ่มเก็บวัตถุดิบตามรายการที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้เลยดีกว่า เพราะของหวานฝรั่งเศสตัวนี้วัตถุดิบไม่เยอะแต่จำเป็นต้องครบและอาศัยความใส่ใจในการทำ

CANELE
  • ส่วนผสมหลักของ canelé
  1. นมสด 2 ถ้วยตวง
  2. เนยเค็ม 30 กรัม
  3. ไข่แดง 2 ใบ
  4. ไข่เต็มลูก 1 ใบ
  5. แป้งขนมปัง 125 กรัม
CANELE
  • ส่วนผสมเพื่อเติมรสชาติกานเล
  1. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  2. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  3. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  4. เหล้ารัม 250 มล
  5. กลิ่นรัม 1 ช้อนชา

วิธีทำCANELE ให้ออกมาได้กลิ่นไอฝรั่งเศส

อย่างที่เห็นได้ชัดเลยว่าCANELEนั้นไม่ได้ต้องเตรียมวัตถุดิบมากมายหรือยุ่งยาก เพียงแต่ควรมาพร้อมความสดใหม่ก็จะทำให้คุณได้คาเนเล่ที่อร่อยสมใจแล้ว ส่วนจะต้องทำอย่างไรบ้างเรามาเริ่มกันเลย

CANELE
  1. ต้มนมและเนยจนเดือดแล้วปิดเตาพักไว้
  2. ใส่ไข่ น้ำตาลลงในชามผสมแล้วคนให้ทั้งสองส่วนผสมนี้เข้ากัน
  3. ใส่เกลือและแป้งขนมปังลงในชามผสมไข่จากนั้นคนต่อให้ทุกส่วนผสมเข้ากัน
  4. เทนมครึ่งหนึ่งลงในโถแป้ง คนจนเข้ากันแล้วค่อยเทอีกครึ่งหนึ่ง จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  5. ใส่กลิ่นวนิลาและเหล้ารัมลงในโถ คนให้เข้ากัน แล้วทำการกรองด้วยกระชอน
  6. นำส่วนผสมที่คนเข้ากันดีทั้งหมดใส่ภาชนะที่ปิดสนิทแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น 12-24 ชั่วโมง
  7. หลังครบเวลาทาเนยขาวที่พิมแล้วเทแป้งลงไปให้เกือบเต็ม
  8. อบด้วยอุณหภูมิ 250 องศาฯ 10 นาที แล้วลดเหลือ 180 องศาฯ นาน 60-70 นาที
  9. นำออกจากเตา คว่ำบนตะแกรง และขนมทั้งหมดจะหลุดลงมาอย่างง่ายดาย
CANELE

เมนูขนมฝรั่งเศสอย่างCANELEจะใช้เวลาในการอบนาน แต่ก็สามารถที่จะได้ขนมรูปทรงสวยงามเหมาะกับทั้งทานเองและนำไปส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ในช่วงวันพิเศษ หวังว่าสูตรขนมเบเกอรี่ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้คุณได้ลองทำขนมหวานฝรั่งเศสไปพร้อมกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
ข้าวเหนียว เปียก ลำไย

มาเก็บสูตร ข้าวเหนียว เปียก ลำไย ไปทำกันมาเก็บสูตร ข้าวเหนียว เปียก ลำไย ไปทำกัน

ข้าวเหนียว เปียก ลำไย

เมนูขนม ไทยยอดนิยมต้องมีชื่อของ ข้าวเหนียว เปียก ลำไย ติดในอันดับอย่างแน่นอน แต่ถ้าซื้อทานไม่จุใจเราลองมาทำเองกัน

เสน่ห์ของ ข้าวเหนียว เปียก ลำไย คืออะไร

ข้าวเหนียว เปียก ลำไย

แม้ว่าจะคุ้นชื่อของ ข้าวเหนียว เปียกลำไย ซึ่งเป็นขนมไทยกันเป็นอย่างดี แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเมนูนี้ก็มีเอกลักษณ์ส่วนตัวซ่อนอยู่เหมือนกันนั่นก็คือข้าวเหนียว เปียกจะเป็นเม็ดใส เหนียวนุ่ม หอมกลิ่นของลำไยอย่างเด่นชัด แต่ก็ยังมีกลิ่นของมะพร้าวอ่อน ๆ แทรกเข้ามาเพิ่มความละมุน ในหนึ่งคำคุณสามารถรู้สึกได้ถึงหลายรสสัมผัส ทั้งส่วนของเม็ดข้าวโพด เนื้อมะพร้าว เนื้อลำไย ถือว่าทุกส่วนผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อเสน่ห์ของเมนูขนมไทย โบราณเมนูนี้มากมายขนาดนี้เรามาลองทำกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบของการทำ ข้าวเหนียวเปียก ลำไย

ข้าวเหนียว เปียก ลำไย

ก่อนอื่นเราต้องมาเตรียมวัตถุดิบในการทำ ข้าวเหนียวเปียกลำไย ให้พร้อมก่อน โดยเมนูนี้วัตถุดิบไม่เยอะและยังสามารถจัดอยู่ในขนม ไทย ทำ ง่ายได้อีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมอะไรให้พร้อมสำหรับขนม หวาน ไทยสูตรนี้กันบ้าง

วัตถุดิบหลักเปียก ลำไย

  • ข้าวเหนียวนึ่ง 100 กรัม
  • ลำไย 20 ลูก
ข้าวเหนียว เปียก ลำไย

วัตถุดิบเพื่อปรุงรสขนม โบราณ

  • กะทิ 100 กรัม
  • น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
  • น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
  • ใบเตย 4 ใบ
  • เกลือ

วิธีทำข้าวเหนียว เปียก ลำไย ตามแบบฉบับความเป็นไทย

เมื่อเตรียมวัตถุดิบของข้าวเหนียว เปียก ลำไยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนของวิธีทำข้าวเหนียวเปียกลำไย ง่ายๆกันแล้ว แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำกันเอาไว้ก่อนเลยก็คือระหว่างการทำคุณจะต้องหมั่นคนในทุกขั้นตอนเพื่อไม่ให้วัตถุดิบทั้งหลายไหม้ เพราะไม่อย่างนั้นเมนูนี้จะไม่อร่อย ขาดความหอม และอาจทานไม่ได้กันเลยทีเดียว

ข้าวเหนียว เปียก ลำไย
  1. ตั้งหม้อแล้วใส่กะทิ 50 กรัมตามด้วยน้ำเปล่าลงไปต้มจนเดือด
  2. เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่ลำไย เกลือ ใบเตยตามลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
  3. ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปแล้วคนให้ละลาย
  4. เมื่อน้ำเดือดตักใบเตยออกแล้วใส่ข้าวเหนียวลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นรอให้เดือดอีกครั้ง จากนั้นปิดเตาได้
  5. ตักส่วนผสมทั้งหมดลงถ้วย ราดกะทิ ก็เป็นอันเรียบร้อยสามารถรับประทานกันได้เลย
ข้าวเหนียว เปียก ลำไย

บอกเลยว่าเมนูอย่างข้าวเหนียวเปียกลำไย นั้นเป็นเมนูขนม ไทย ง่ายๆที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ จนหลายคนยกให้เป็นขนมไทย ทำเองที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยยังสามารถปรับแต่งให้กลายเป็นข้าวเหนียวดําเปียกลําไย สูตรโบราณได้อีกด้วยถ้าคุณชอบ และถ้าต้องการสูตร ขนม ไทยทำง่ายและอร่อยแบบรสต้นตำรับแบบนี้สามารถติดตามสูตรจากเรากันต่อได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
ครัวซองค์

ครัวซองค์ ขนมยอดฮิตที่คุณก็สามารถทำได้เองครัวซองค์ ขนมยอดฮิตที่คุณก็สามารถทำได้เอง

ครัวซองค์

ใครกำลังมองหาเมนูขนมอบทำทานเป็นอาหารว่างบอกเลยห้ามพลาดสูตร ครัวซองค์ ขนมฝรั่งเศสที่เราหยิบมาแนะนำกันในวันนี้

ที่มาของ ครัวซองค์

ครัวซองค์

ความจริงแล้วครัวซองค์ นั้นมีต้นกำเนิดมาจากออสเตรีย และเรียกกันว่าคิปเฟล ทำเพื่อฉลองชัยชนะของเวียนนา แต่มากลายเป็นขนมหวานฝรั่งเศสได้ก็เพราะเจ้าหญิงแห่งกรุงเวียนนาที่อภิเษกกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เกิดคิดถึงขนมของบ้านเกิด จึงสั่งให้พ่อครัวทำจนกลายเป็นที่นิยมในชนชั้นสูงและมีการปรับสูตรจนถูกปากผันชื่อกลายมาเป็นครัว ซ องค์ ซึ่งถ้าจะถามว่าครัวซอง คืออะไรคำตอบคือขนมที่มีความกรอบนอกนุ่มในหอมเนยและใช้ทานได้คู่กับหลากหลายเมนูนั่นเอง

เมื่ออยากทำครัวซองค์ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

หลังจากได้รู้ที่มาที่ไปของ ครัว ซองค์ กันแล้วมาเข้าสู่ขั้นตอนของการเตรียมของเพื่อทำขนมปัง ครัว ซ องค์หรือ CROISSANT กันดีกว่าว่าต้องเตรียมอะไรบ้างเพื่อให้ออกมาเป็นครัวซ็องที่ดีที่สุด

ครัวซองค์
  • วัตถุดิบหลักของครัวซอง
    • แป้งขนมปัง 600 กรัม คุณสามารถที่จะใช้แป้งอเนกประสงค์แทนได้ในกรณีที่ไม่มีแป้งขนมปัง
  • วัตถุดิบปรุงรสครัวซองต์ ฝรั่งเศส
    • เกลือ 1 ช้อนชา
    • น้ำตาลทราย 80 กรัม
    • ยีสต์ 11 กรัม
    • น้ำเย็น 155 กรัม
    • นมเย็น 150 กรัม
    • เนยจืด 80 กรัม
    • มาร์การีน 325 กรัม

วิธีทำครัวซองค์

มาเริ่มต้นการทำครัวซองค์หรือเมนูขนมปังฝรั่งเศสยอดนิยมเมนูนี้กันเลยดีกว่าว่าต้องมีความพิถีพิถันในแต่ละขั้นตอนมากน้อยแค่ไหนเพื่อให้ได้อาหารเช้าฝรั่งเศสเมนูนี้ให้ออกมาดีที่สุด

ครัวซองค์
  1. เริ่มจากการทำแป้งก่อน โดยผสมแป้ง เกลือ น้ำตาล ยีสต์ แล้วตีจนเข้ากัน จากนั้นเติมน้ำเย็น นม วนิลา ตีไปจนแป้งจับตัวแล้วใส่เนย ตีต่อประมาณ 3-5 นาที
  2. ทำแป้งให้เป็นแผ่น คลุมด้วยแรป แช่ช่องแข็ง 1-2 ชั่วโมง
  3. นำแป้งออกมารีด นำมาร์การีนมารีด จากนั้นวางบนแป้งแล้วห่อปิดเนยให้มิด
  4. เมื่อรีดจนเป็นเนื้อเดียวกันพับ พับทบที่ 1 แช่ตู้เย็น นำออกมาพับทบที่ 2 แช่ต่อและพับทบที่ 3 แช่อีกครึ่ง เมื่อจะนำมาอบค่อยนำออกมา
  5. วางในพิมพ์เว้นระยะห่างเพราะแป้งจะฟูขึ้น อบที่อุณหภูมิ 190-200 องศาฯ ไฟบนล่าง 10 นาที แล้วเปลี่ยนอุณหภูมิเหลือ 170-180 องศาฯ แล้วอบต่อ 15-20 นาที ก็พร้อมเสิร์ฟกันแล้ว
ครัวซองค์

สำหรับครัวซองค์นั้นถือว่าขั้นตอนการเตรียมแป้งไม่ยาก แต่มีขั้นตอนของวิธีทำที่ต้องละเอียดและใช้เวลาพอสมควร แต่รับรองว่าถ้าคุณได้สูตรขนมเบเกอรี่สูตรนี้ไปจะทำให้คุณสามารถทำอาหารฝรั่งเศสเมนูนี้ออกมาได้สมบูรณ์และง่ายดายมากกว่าที่คิดอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
RASMALAI

มาเก็บสูตรขนมจากอินเดียอย่าง RASMALAI กันมาเก็บสูตรขนมจากอินเดียอย่าง RASMALAI กัน

RASMALAI

ประเทศอินเดียมาพร้อมเสน่ห์ในเรื่องของกินอันดับต้น ๆ ของโลกและ RASMALAI ก็ดูเหมือนจะเป็นของหวานอินเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

มาทำความรู้จักกับ RASMALAI กันก่อน

RASMALAI

สำหรับขนมอย่างRASMALAI นั้นเป็นหนึ่งในขนมอินเดียที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และเป็นขนมที่โดดเด่นไปด้วยความหวานมันที่ลงตัว ซึ่งกลิ่นหอมนั้นมาจากกระวานเขียว ความมันมาจากชีสและน้ำนม และปิดท้ายด้วยความกรุบกรอบจากถั่วพิตาชิโอและอัลมอนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่อินเดียสร้างเอาไว้ได้อย่างลงตัว และถ้าคุณอยากลองทำเมนูนี้ด้วยตัวเองก็บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด

วัตถุดิบในการทำRASMALAI

เมนูRASMALAIนั้นจะโดดเด่นในเรื่องของเครื่องเทศตามสไตล์ของความเป็นอินเดีย ซึ่งในขั้นตอนนี้ถ้าอยากให้ออกมาเหมือนราสมาลัยต้นตำรับอย่างที่เราได้รู้กันไปแล้วว่า RASMALAIคืออะไรลองมาตามเก็บวัตถุดิบตามนี้กันได้เลย

RASMALAI
  • ส่วนผสมหลักขนมหวานอินเดีย
    • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
    • นมสดชนิดจืด 4 ถ้วย
    • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อมสำหรับต้มสอนทำ RASMALAI
    • น้ำ 4 ถ้วย
    • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำนมเครื่องเทศตามสูตรขนม
    • นมสดชนิดจืด 2 ถ้วย
    • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
    • อัลมอนด์หั่นแท่ง 1 ช้อนโต๊ะ
    • พิสตาชิโอสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
    • เม็ดกระวานเขียวป่น 1/8 ช้อนชา
    • หญ้าฝรั่ง

ขั้นตอนการทำ

RASMALAI

เมื่อตามหาวัตถุดิบของRASMALAIมาครบแล้วก็ถึงเวลาเริ่มทำกันได้เลย เมนูนี้ต้องอาศัยเวลาและความใส่ใจเพื่อให้ออกมาได้รสชาติที่กลมกล่อมมากที่สุด หลังจากเคลียเวลาว่างกันได้แล้วาเริ่มทำกันเลยดีกว่า

เริ่มทำตัวหลักจากการผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ อีกหม้อใส่นมลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง หมั่นคน เมื่อเดือดให้ลดไฟ ใส่น้ำส้มสายชูกับน้ำลงไป คนจนนมแยกส่วนได้เป็นก้อนนม และน้ำเวย์ ปิดไฟ

ใส่น้ำแข็งลงไปเพื่อลดความร้อนและทำให้นุ่มขึ้น คนจนน้ำแข็งละลาย กรองผ่านผ้า เทน้ำผ่านเพื่อล้างกลิ้นน้ำส้มสายชู บีบน้ำออกจากผ้ากรอง จะได้เนื้อที่แห้งร่วน

เทก้อนนมใส่ถาด ใช้มือนวดจนไม่ติดมือ ใส่แป้งข้าวโพด นวดให้เข้ากัน ตัดแบ่งก้อน คลึงเป็นก้อนกลม กดให้แบน วางในถาดคลุมผ้าชุบน้ำบิดหมาดพักไว้

RASMALAI

เริ่มทำน้ำเชื่อมด้วยการใส่น้ำและน้ำตาล ตั้งไฟแรงเมื่อเดือดใส่ราสมาลัยลงไป ปิดฝาแล้วต้มนาน 15 นาที จนพองแล้วปิดไฟ พักไว้ในน้ำเชื่อมจนเย็น

ทำนมเครื่องเทศ เริ่มจากตั้งหม้อไฟกลางต้มจนนมเริ่มงวด ใส่น้ำตาล อัลมอนด์ พิตาชิโอ เม็ดกระวานเขียว หญ้าฝรั่น ต้มต่อแล้วปิดไฟ พักไว้ให้พออุ่น

เมื่อราสมาลัยเย็น บีบน้ำเชื่อมออก นำไปแช่น้ำนมให้ท่วม แล้วแช่ตู้เย็น 4-6 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาสามารถทานได้เลย

RASMALAI

เมนูนี้บอกเลยว่าใครชอบทำขนมต้องสนุกไปกับRASMALAIอย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูที่แปลกใหม่และไม่ได้มีขั้นตอนคล้ายกับขนมอื่น ๆ ที่ทำกันทั่วไป ถือเป็นการเพิ่มทักษะในการทำอาหารให้มากขึ้นไปอีกระดับ แถมยังได้ขนมนานาชาติมาทานเล่นกันเพิ่มอีกเมนูด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

READ MOREREAD MORE
ทา ร์ ต ผล ไม้

ขอแนะนำ ทา ร์ ต ผล ไม้ รสชาติเปรี้ยว หวาน ที่มาพร้อมสีสันสดใสขอแนะนำ ทา ร์ ต ผล ไม้ รสชาติเปรี้ยว หวาน ที่มาพร้อมสีสันสดใส

ทา ร์ ต ผล ไม้

วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูสุดฮิตที่ทุกคนชอบทานนั่นก็คือ ทา ร์ ต ผล ไม้ ที่มีความหอมของแป้งทาร์ต และรสชาติเปรี้ยวอมหวานของผลไม้ที่สผมผสานกันได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูชนิดนี้ไว้ทำทานที่บ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ เรามีสูตราทร์ตเนื้อนุ่มตกแต่งหน้าด้วยผลไม้หลากหลายชนิด มาให้ทุกคนได้ทำตาม

เปิดสูตร ทา ร์ ต ผล ไม้ เนื้อนุ่ม ทำทานก็อร่อย ทำขายก็ปังสุดๆ 

ทา ร์ ต ผล ไม้

ทาร์ต ผล ไม้ เป็นเมนูขนมหวานที่หลายคนชอบทาน เพราะนอกจากจะหน้าตาชวนรับประทานแล้ว ยังมีรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สำหรับขนมทาร์ตสามารถทำเป็น ทาร์ตผลไม้ครีมชีส หรือจะทำเป็นทาร์ตหน้าต่างๆ เช่น ทาร์ตผลไม้แห้ง หรือจะตกแต่งด้วยผลไม้สดก็อร่อยสุดๆ สำหรับวันนี้เราจะชวนทุกเข้าครัวทำทาร์ตสูตรทาร์ตผลไม้รวมมิตร โดยวิธีทําทาร์ตผลไม้ง่ายๆ ซึ่งก่อนที่จะลงมือทำ เราไปเตรียมวัตถุดิบดังนี้

วัตถุดิบในการทำแป้งทาร์ต

  1. แป้งอเนกประสงค์ 150 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 40 กรัม
  3. เนยรสจืด 100 กรัม
  4. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  6. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
ทา ร์ ต ผล ไม้

วัตถุดิบ และส่วนผสมไส้ทาร์ต

  1. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
  2. นมสด 400 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. เนยจืด 20 กรัม
  5. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  6. ไข่แดง 3 ฟอง
  7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำทาร์ต ผลไม้ สูตรดั้งเดิม รสชาติหวาน หอมละมุน อร่อยถูกใจ

ทา ร์ ต ผล ไม้

เมื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำทาร์ตผลไม้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของผลไม้ที่ใช้แต่งหน้าขนมเค้กทาร์ตสามารถใช้ผลไม้สด หรือผลไม้แห้งเลือกได้ตามใจชอบ ต่อมาเข้าสู่กระบวนการทำเมนูเค้กทาร์ต โดยขั้นตอนดังนี้

  1. นำแป้งอเนกประสงค์มาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่เกลือ น้ำตาลทราย เนยจืด และกลิ่นวานิลลาลงไป นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำเข้าตู้เย็นประมาณ 20 นาที
  2. นำแป้งออกจากตู้เย็น นำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วทำให้เป็นแผ่นแบนๆ แล้วใส่ในพิมพ์ทาร์ต และนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที 
  3. ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำไส้ทาร์ต โดยการนำแป้งข้าวโพด นมสด ไข่ไก่ และน้ำตาลทรายคนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปตั้งในหม้อที่มีน้ำเดือด เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าจะหนืด และใส่เนยจืดลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกรอบ
  4. เมื่อได้ได้ไส้ครีมทาร์ตแล้วนำมาบีบใส่แป้งทาร์ตที่อบไว้แล้ว จากนั้นตกแต่งด้วยผลไม้ตามใจชอบ ได้แก่ กีวี สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอรี่ และส้ม เป็นต้น
ทา ร์ ต ผล ไม้

สำหรับเมนูเค้กทาร์ต เป็นเบเกอรี่ที่มีสีสันสดใสชวนรับประทานสุดๆ นอกจากนี้ขนมชนิดนี้ยังเป็น เบเกอรี่ยอดนิยมที่สามารถทานคู่กับชาอุ่นๆ หรือเครื่องดื่มเย็นๆ อร่อยอย่างลงตัว 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://paperindustrymag.com เว็บพนันออนไลน์

READ MOREREAD MORE
สาคู มะพร้าว อ่อน

แจกความอร่อย สาคู มะพร้าว อ่อน เหนียวหนึบ หอมกลิ่นกะทิสด แจกความอร่อย สาคู มะพร้าว อ่อน เหนียวหนึบ หอมกลิ่นกะทิสด 

สาคู มะพร้าว อ่อน

สาคู มะพร้าว อ่อน เป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมรับประทานกันทุกบ้าน และยังสามารถหาทานได้ง่าย สำหรับเม็ดสาคูลทำมาจากต้นปาล์มสาคูลที่แก่จัดจะพบมากในแถบภาคใต้ของไทย โดยนำต้นสาคูลมาบีบคั้นเอาน้ำแป้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอนจะได้เม็ดสาคูลสีน้ำตาล เมื่อนำมาทำขนมจะทำให้ขนมแป้งมีความหนืดหนึบหอมอร่อยกว่าสาคูลเทียมที่ทำจากแป้งมันที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป 

ชวนทำเมนู สาคู มะพร้าว อ่อน ขนมหวานยอดนิยม ทำง่าย อร่อยถูกใจ 

สาคู มะพร้าว อ่อน

ขนมสาคู มะพร้าว อ่อน ถือว่าเป็นขนมที่หลายคนชอบทาน เพราะมีความพิเศษตรงแป้งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ทำให้สามารถทานได้อย่างเพลิดเพลิน ปัจจุบันขนมสาคูลมีให้เลือกหลายสูตร อาทิ สาคูอัญชัน มะพร้าวอ่อนที่มีสีสันสวยงามของดอกอัญชันทำให้ขนมชวนทานมากขึ้น หรือจะเป็นสูตร สาคูมะพร้าวอ่อนแบบโบราณให้รสชาติหวานหอมกลิ่นกะทิอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีสาคูใบเตยมะพร้าวอ่อนหอมกลิ่นใบเตยอ่อนๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมาเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำสาคูลมะพร้าวอ่อนสูตรดั้งเดิม ถ้าพร้อมแล้วไปลงมือกันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

สาคู มะพร้าว อ่อน
  1. สาคูล 300 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 250 กรัม
  3. หัวกะทิ 150 กรัม
  4. เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม
  5. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  6. แป้งข้าวเจ้า ½ ช้อนชา

ขั้นตอนการทำสาคู มะพร้าวอ่อน ให้เหนียวหนึบตามฉบับโบราณ

สาคู มะพร้าว อ่อน

สาคู มะพร้าวอ่อน เป็นเมนูขนมไทยที่ใช้วัตถุดิบไม่เยอะแต่ต้องใช้เวลาในการต้มสาคูลให้สุก และเนื้อแป้งสาคูลจะเหนียวหนึบ สำหรับใครที่กังวลใจว่าจะต้มสาคูลไม่สุกสามารถดูวิธีการทำสาคูลกับเราได้ดังนี้

  1. ขั้นตอนแรกนำน้ำสะอาดใส่ในหม้อต้มตั้งไฟระดับปานกลาง ในระหว่างที่น้ำเดือดให้นำสาคูลไปล้างน้ำเปล่า 1 ครั้ง 
  2. เมื่อน้ำเดือดเต็มที่แล้วให้ใส่เม็ดสาคูลที่เตรียมไว้ลงไปคนอย่างรวดเร็ว เพราะเม็ดสามคูลจะติดก้นหม้อ และไม่ให้เม็ดสาคูลจับกับเป็นก้อน คนไปเรื่อยๆ จนกว่าเม็ดสาคูลจะใส จากนั้นใส่น้ำตาลลงไปคนจนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด เติมเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนให้เข้ากัน
  3. เตรียมน้ำราดขนม โดยเริ่มนำแป้งข้าวเจ้าไปต้มให้จุกจากนั้นใส่กะทิและเกลือลงไป ทำการคนให้เข้ากันอีกครั้งก่อนจะยกออกจากเตา
  4. ตักขนมสาคูลใส่ถ้วยตามด้วยน้ำราดกะทิ พร้อมทานได้เลย
สาคู มะพร้าว อ่อน

เคล็บลับการทำขนม สาคูมะพร้าวอ่อน ตามฉบับขนมไทยโบราณให้มีกลิ่นหอมจะต้องใส่หัวกะทิสดลงไป และควรเลือกใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนกำลังดีไม่อ่อนเกินไป อีกทั้งการทำขนมสาคูลสามารถใส่ข้าวโพด หรือเผือกเพิ่มลงไปได้ เพื่อเพิ่มความอร่อยแบบไม่มีเบื่อ และที่สำคัญขนมชนิดนี้ยังเป็นขนมมงคลที่ทำขายเพื่อสร้างรายได้ หรือจะใช้เป็นขนมไทยมงคลในโอกาศงานสำคัญต่างๆ ก็ได้เช่นกัน เพราะขนมหวานสาคูลสามารถทานได้ทั้งครอบครัว

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://paperindustrymag.com เว็บพนันและคาสิโนมาแรง

READ MOREREAD MORE