วิธีเช็กลูกแพร์สุกง่ายตามคำแนะนำจากชาวสวนผลไม้มืออาชีพ

วิธีเช็คลูกแพร์ว่าสุกหรือยัง ตามคำแนะนำจากชาวสวนผลไม้

ใครที่ชอบกินแพร์ต้องไม่พลาด! วันนี้จะมาแนะนำวิธีดูว่าแพร์สุกพร้อมกินหรือยัง รวมทั้งเคล็ดลับในการเก็บรักษาและเร่งให้แพร์สุกอย่างถูกวิธี ให้คุณได้ลิ้มรสความหวานฉ่ำของผลไม้ฤดูใบไม้ร่วงชนิดนี้อย่างเต็มปากเต็มคำ

ความแตกต่างระหว่างแพร์เอเชียและแพร์ยุโรป

แพร์แบ่งเป็นสองสายหลัก คือ แพร์เอเชีย (Asian pear) กับ แพร์ยุโรป (European pear) โดยแพร์เอเชียจะมีรูปร่างกลมและเนื้อกรอบราวกับแอปเปิล ให้ความรู้สึกสดชื่นเวลากิน ส่วนแพร์ยุโรปมักจะมีรูปร่างยาวรี เนื้อนุ่มและละมุนกว่า เหมาะสำหรับเอามาทำขนมหรือกินสดก็ได้เช่นกัน

ความแตกต่างนี้ส่งผลตรงกับวิธีดูว่าแพร์สุกหรือยัง เพราะแพร์ยุโรปมักจะต้องเร่งให้สุกก่อนกิน ในขณะที่แพร์เอเชียบางครั้งสามารถกินได้เลยหลังเก็บจากต้น

วิธีเช็คแพร์สุก

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ลองกดเบา ๆ ที่ส่วนโคนของแพร์ (เฉพาะจุดที่ใกล้กับก้าน) ถ้ารู้สึกนุ่มมือเล็กน้อย แสดงว่าแพร์นั้นพร้อมกินแล้ว แต่ถ้ากดยังแข็งมาก แพร์นั้นยังไม่สุกและควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องอีกสักระยะเพื่อให้สุก

นอกจากนี้ สีของเปลือกแพร์ยุโรปจะเปลี่ยนแปลงเมื่อสุก เช่น จากเขียวจะคล้ำขึ้น หรือจากเหลืองอ่อนเป็นเหลืองทอง ส่วนแพร์เอเชียมักจะไม่เปลี่ยนสีมากนัก ดังนั้นต้องเน้นการกดเช็คความนุ่มเท่านั้น

วิธีเก็บรักษาแพร์ให้อยู่ได้นาน

ถ้าแพร์ยังไม่สุก ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 2-4 วันเพื่อให้สุกซึ่งจะช่วยเพิ่มความหวานและเนื้อนุ่มขึ้น เมื่อแพร์สุกแล้ว ให้เก็บในตู้เย็นเพื่อถนอมความสดและชะลอการเน่าเสีย โดยใช้ถุงพลาสติกเจาะรูหรือภาชนะที่มีฝาปิด แต่ไม่ควรล้างแพร์ก่อนเก็บเพราะความชื้นเพิ่มอาจทำให้แพร์เน่าเร็วขึ้น

เทคนิคเร่งให้แพร์สุก

ถ้าอยากให้แพร์สุกไวขึ้น สามารถใช้วิธีวางใกล้กล้วยหรือแอปเปิลได้ เพราะผลไม้เหล่านี้ปล่อยก๊าซเอทิลีนซึ่งช่วยกระตุ้นการสุกของแพร์ นอกจากนี้ การใส่แพร์ลงในถุงกระดาษและปิดปากถุงก็ช่วยกักเก็บก๊าซนี้ ทำให้แพร์สุกเร็วขึ้นด้วย

เคล็ดลับเพิ่มเติมจากชาวสวนผลไม้

ชาวสวนจะแนะนำให้ลองกลิ่นที่บริเวณก้านแพร์ ถ้าหอมหวานก็มีโอกาสว่าแพร์นั้นสุกพร้อมกินแล้ว และควรหลีกเลี่ยงแพร์ที่มีจุดดำใหญ่หรือรอยบุบเพราะแสดงถึงความเสียหาย อาจส่งผลให้รสชาติเปลี่ยนหรือเน่าเสียเร็ว

ความคิดเห็นเพิ่มเติม

จากประสบการณ์ส่วนตัว การเลือกแพร์ที่สุกพอดีมีผลต่อความฟินเวลากินมาก อย่ารอให้แพร์นิ่มเกินไปเพราะจะสูญเสียรสชาติกรอบสดชื่นไป การรู้จักสังเกตทั้งสี เปลือกสัมผัส และกลิ่น จะช่วยให้คุณไม่พลาดแพร์หวานฉ่ำที่พร้อมเสิร์ฟ นอกจากนี้ การรู้วิธีเก็บรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้มีแพร์สด ๆ กินได้นานขึ้น ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับแฟนผลไม้สายแพร์เลยทีเดียว

บทสรุป

จะดูว่าแพร์สุกหรือยังให้เช็คที่ความนุ่มของส่วนโคนและสีของเปลือก (โดยเฉพาะแพร์ยุโรป) เก็บแพร์ที่ยังไม่สุกในอุณหภูมิห้องก่อน แล้วค่อยนำไปแช่เย็นเมื่อสุกแล้ว ใช้วิธีใส่แพร์ในถุงกระดาษหรือวางใกล้กล้วยเพื่อเร่งให้สุกเร็วขึ้น หากต้องการแพร์หวานฉ่ำสดใหม่ ควรเลือกแพร์ที่มีกลิ่นหอม ไม่มีรอยช้ำ และเก็บอย่างถูกวิธี เพื่อเพลิดเพลินกับผลไม้ฤดูใบไม้ร่วงนี้อย่างเต็มที่!

ถ้าอยากได้เคล็ดลับดี ๆ แบบนี้เพิ่มอีก อย่าลืมติดตามเว็บไซต์ของเราไว้นะ รับรองมีของดีมาแชร์อีกเพียบ!

 

สนุกกับเกมคาสิโนสดครบวงจรที่ sagame เล่นง่าย ปลอดภัย พร้อมโบนัสพิเศษทุกวัน

ลองเดิมพันกับเว็บมาตรฐานสากล ufabet ระบบเสถียร ฝากถอนออโต้

เปิดประสบการณ์คาสิโนออนไลน์ระดับพรีเมียมที่ gclub ครบทั้งบาคาร่า สล็อต และรูเล็ต

สัมผัสความมันส์แบบพื้นบ้านกับ ไฮโลไทย เล่นได้ทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์

ปั่นสล็อตรับเครดิตฟรีง่าย ๆ ที่ สล็อต168เครดิตฟรี.com แตกง่าย โบนัสจัดเต็ม

แหล่งที่มา:How to Tell If a Pear Is Ripe, According to a Fruit Farmer