แกงไตปลา แนะนำอาหารขึ้นชื่อรสเด็ดภาคใต้ พร้อมบอกต่อสูตรวิธีทำ
แกงไตปลา

    อาหารรสเลิศมีอยู่มากมายในประเทศไทย บางจังหวัดในประเทศก็มีอาหารขึ้นชื่ออยู่หลายเมนู ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปล่องใต้ ด้วยอาหารใต้รสแซ่บอย่าง “แกงไตปลา” ที่ได้หลอมรวมเอาวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในภาคใต้ มารวมกันเป็นเมนูอาหารแสนอร่อยให้เราได้รับประทานกันในปัจจุบัน และสำหรับใครที่ยังไม่เคยรับประทานเลย หรือทานแล้วรสชาติจัดจ้านจนทานไม่ไหว เราขอแนะนำให้ลองทำอาหารใต้ทานเองที่บ้าน โดยใช้สูตรทำอาหารง่าย ๆ ที่สามารถปรับลด หรือเพิ่มวัตถุดิบอื่น ๆ ได้ด้วยตัวเองค่ะ

| แกงไตปลา รสแซ่บ อาหารยอดนิยมของคนใต้
แกงไตปลา

      แกงพุงปลา หรือ แกงไตปลา คือ อาหารขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นของภาคใต้ โดยเป็นอาหารประเภทแกงที่ประกอบด้วยวัตถุดิบหลักคือ ไตปลา ผสมผสานกับกะปิ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ก็เป็นของขึ้นชื่อที่เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวใต้แล้วต้องซื้อเป็นของฝากอยู่เป็นประจำ ถือเป็นการรวมเอาเอกลักษณ์ของภาคใต้มารวมกัน กลายเป็น แกงไตปลา รสชาติเผ็ดร้อน และเค็ม สามารถนำมาทานได้กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือขนมจีนก็เข้ากันเป็นอย่างดี สำหรับ ที่มาของแกงไตปลา ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีขึ้นเมื่อใด หรือใครเป็นผู้คิดค้น 

ไตปลา วัตถุดิบของแกงรสชาติจัดจ้าน

    เชื่อว่าหากไม่ได้เป็นคนที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ คงไม่รู้จัก “ไตปลา” วัตถุดิบหลักของเมนู แกงไตปลากันมาก นัก เราจึงจะขอบอกความหมายของไตปลาว่า สามารถเรียกได้อีกชื่อว่าพุงปลา เป็น การถนอมอาหาร ของคนใต้ โดยใช้วิธีการหมักดอง ใช้กระเพาะของปลาต่าง ๆ เช่น ปลาทู ปลาดุก ปลาลัง ปลาช่อน ฯลฯ นำขี้ปลา และดีออกก่อนจะหมักกับเกลือไว้เป็นเวลา 10 – 20 วัน มีลักษณะเหลว และมีมันไหลออกมา รสชาติเค็ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด หรือจะนำไปเป็นเครื่องจิ้มเหมือนน้ำพริกก็ได้

คุณค่าทางโภชนาการ

    อาหารไทย ล้วนเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่ง แกงไตปลาโบราณ เป็นหนึ่งในนั้นที่มีทั้งโปรตีน และแคลเซียมจากปลาทู และไตปลา นอกจากนั้นยังนิยมรับประทาน แกงไตปลา พร้อมผักเครื่องเคียง จึงเพิ่มประโยชน์จากวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารเข้าไปด้วย แต่ขอเตือนสักนิดว่าเมนูนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว หรือโรคความดันโลหิตสูง เพราะมีรสชาติที่เค็ม โซเดียมสูง หากอยากรับประทาน แกงไตปลา ที่เหมาะกับผู้สูงอายุจึงควรทำทานเอง ลดการปรุงรสเค็ม และทานในปริมาณที่เหมาะสม

| แกงไตปลาพัทลุง ของดีเมืองใต้
แกงไตปลา

    แกงไตปลา ได้รับความนิยมมาก จึงมีหลากหลายสูตรที่รังสรรค์ให้มีความอร่อยแตกต่างกัน ยกตัวอย่าง แกงไตปลากะทิ ที่มีการใส่กะทิลงไปเป็นส่วนผสมเพิ่มความอร่อยกลมกล่อม สำหรับแกงสูตรพัทลุง จะแตกต่างจากแกงของภาคอื่น ๆ เพราะเป็น แกงไตปลาแห้ง ที่รสชาติดี เข้าถึงเครื่องแกงมากกว่าสูตรทั่ว ๆ ไป และมีการใส่เนื้อปลาซาบะ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ ก่อนจะนำลงไปผัดให้หอมจนแห้งดี ในปัจจุบันกลาย แกงไตปลา เป็นของขึ้นชื่อ ของดีเมืองพัทลุง

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำแกงไตปลาปักษ์ใต้

     มาถึงสิ่งสำคัญที่หลาย ๆ คนรอคอยกันแล้วนั้นก็คือ สูตรทำ แกงไตปลา แบบง่าย ๆ สำหรับคนที่อยากทำทานด้วยตัวเอง เป็น แกงไตปลาสูตรดั้งเดิม และที่สำคัญยังมี สูตรพริกแกงไตปลา มาแนะนำให้ได้ทำด้วย ซึ่งการทำพริกแกงด้วยตัวเองจะได้พริกแกงที่สดใหม่ กลิ่นหอม และอร่อยกว่าพริกแกงทั่วไป หากอยากลองทำแล้วไปเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อนการลงมือทำกันค่ะ

วัตถุดิบทำพริกแกง
    1. พริกแห้ง แช่น้ำให้นิ่ม 15 กรัม
    2. พริกแดงจินดา 30 กรัม
    3. ตะไคร้ซอย 3 ต้น
    4. ผิวมะกรูด 1 ลูก
    5. กระเทียม 30 กรัม
    6. พริกไทยดำ 1 ช้อนตวง
    7. ขมิ้น 25 กรัม
    8. หอมแดง 30 กรัม
วัตถุดิบต้มน้ำไตปลา
  1. น้ำเปล่า 500 กรัม
  2. ไตปลาทู 1 ขวด
  3. กะปิปลา 70 กรัม
  4. ตะไคร้บุบ 2 ต้น 
  5. ข่าแก่หั่นแว่น 5 แว่น
  6. ใบมะกรูดฉีก 5-6 ใบ
แกงไตปลา
วัตถุดิบทำแกงไตปลา
  1. น้ำไตปลาเดิมที่ต้มทั้งหมด
  2. น้ำเปล่า 1500 ml.
  3. พริกแกงที่ตำได้ทั้งหมด
  4. ฟักทองหั่นชิ้น 300 กรัม
  5. มะเขือเปราะหั่นชิ้น 400 กรัม
  6. หน่อไม้ต้มสุกหั่นชิ้น 300 กรัม
  7. ถั่วฝักยาวหั่นชิ้น 100 กรัม
  8. น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนตวง
  9. น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 2 ช้อนตวง
  10. เนื้อปลาทูตัวใหญ่ 2 ตัว 
  11. ใบมะกรูดฉีก ปริมาณตามชอบ
  12. ผงชูรส 1 ช้อนชา
ขั้นตอนวิธีการทำ
  1. ขั้นตอนแรกทำเครื่องแกง โดยเริ่มจากการพริกแห้ง และพริกสดไปตำให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียม พริกไทยดำ ผิวมะกรูด และตะไคร้ ตำให้ละเอียดดี สุดท้ายใส่ขมิ้นลงไปตำอีกครั้ง
  2. นำปลาทูไปย่างด้วยเตาถ่านให้สุกเหลืองเท่ากันทั้งสองด้าน ใช้มีดปาดเอาเฉพาะเนื้อปลา และแกะเป็นพอดีคำ
  3. ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำน้ำไตปลา ใส่น้ำเปล่า ใบมะกรูดฉีก ตะไคร้ และข่า รอให้น้ำเดือดแล้วใส่กะปิปลา และไตปลาลงไปต้มต่อเป็นเวลา 10 นาที โดยไม่ต้องคน (หากคนจะทำให้คาว) เมื่อครบเวลาแล้วให้ปิดเตาแล้วนำไปกรองน้ำใส่กระทะ เติมน้ำเปล่าอีก 1000 มิลลิลิตร 
  4. เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ลงไป คนให้ละลาย ตามด้วยฟักทองลงไปต้มให้เริ่มสุก ตามด้วยมะเขือเปราะ หากสุกแล้วใส่หน่อไม้ และถั่วฝักยาวลงไปต้มต่อ คนเล็กน้อยให้เข้ากัน
  5. รอให้น้ำเดือดแล้วใส่ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และผงชูรสลงไปตัดรสเค็ม 
  6. เมื่อส่วนผสมทั้งหมดสุกดีแล้วให้ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ และใบมะกรูดลงไป รอให้เดือดอีกครั้งแล้วปิดเตา จัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ
บทสรุป

      หลังจากจบบทความนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงได้รู้จักกับเมนู แกงไตปลา กันมากขึ้น และสามารถทำ อาหารขึ้นชื่อภาคใต้ เมนูนี้ได้ด้วยตัวเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้มาคุ้มค่ากับเวลาในการทำ รับรองว่ารสชาติที่เรารังสรรค์ตามความชอบของตัวเอง ต้องอร่อยกว่ารสชาติที่ปรุงตามใจแม่ค้า อาหารใต้ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมนำสูตร แกงไตปลา ไปทำตามกันให้ได้นะคะ สำหรับตอนนี้ต้องลาไปก่อน แล้วมาศึกษาวิธีการทำอาหารกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

ประวัติความเป็นมา