ขนมไทยยังคงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นขนมที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ขนมไทยหลายชนิดถูกส่งต่อสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และขนมไทยบางชนิดก็ถูกพัฒนามาจากต่างประเทศ ซึ่งก็เป็นการรับวัฒนธรรมด้านอาหารของเข้ามาผสมผสานปรับปรุงสูตรให้กลายเป็นขนมไทยได้อย่างลงตัว ในตอนนี้เราจะกล่าวถึงขนมถ้วยฟู ขนมไทยโบราณที่มีต้นกำเนิดมาจากคนจีน มีหน้าตา และสีสันน่ารับประทาน เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น รสชาติหวาน สีสันสวยงาม ซึ่งในสมัยโบราณจะใช้สีจากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากใบเตย , สีฟ้า และม่วง จากอัญชัญ และมะนาว , สีเหลือจากขมิ้น , สีแดงจากกระเจี๊ยบ ฯลฯ และกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากน้ำลอยดอกมะลิ

     ขนมถ้วยฟู หรือขนมปุยฝ้ายที่เราเรียกกันจนติดปากนั้นเป็นหนึ่งในเก้าขนมมงคลของไทย เหตุมาจากคนจีนเรียกขนมถ้วยฟูว่า “ฮวดโก้ย” ซึ่งมีความหมายว่า มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เฟื่องฟู และนำไปไหว้เจ้า หรือใช้ในพิธีมงคลอย่างงานแต่งงาน โดยทำเป็นสีสันที่ชัดเจนตามความเหมาะสมของพิธีนั้น ๆ ก็คือ สีแดงในงานแต่งงาน สีชมพูในงานไหว้เจ้า หรืองานมงคลอื่น ๆ สีขาวใช้ไหว้บรรพบุรุษ เป็นต้น ซึ่งคนไทยเองก็มักจะทำขนมไทยชนิดนี้ประกอบในพิธีมงคล เพื่อเสริมสิริมงคลด้วยเช่นกัน 

     ในปัจจุบันเรามักจะพบเห็นขนมถ้วยฟูสีสันต่าง ๆ ตามตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือร้านขายขนมทั่วไป และถูกนำมาประยุกต์ให้มีรสชาติที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพราะเป็นขนมไทยที่ได้รับความนิยมนำมารับประทานมากในปัจจุบัน ทั้งยังมีราคาที่ถูก และรสชาติที่ถูกปากหลาย ๆ คน และในตอนนี้เราก็ได้นำสูตรวิธีการทำมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกันนะคะ