ขนมโค
ขนมโค ขนมโบราณ

     “กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่” สำนวนสุภาษิตคำนี้ยังสามารถใช้ได้เสมอมาในปัจจุบัน เพราะเมื่อเรากินของคาวแล้ว เราต้องตบท้ายด้วยของหวาน เพื่อล้างปาก ซึ่งก็สามารถเลือกขนมหวานได้อย่างหลากกลาย ทั้งขนมไทย และเบเกอรี่ ตามแต่จะหาได้สะดวกในเวลาหลังอาหาร ซึ่งในตอนนี้เราจะขอกล่าวถึงขนมโบราณ ซึ่งเป็นขนมที่หาทานได้ยากแล้วได้ปัจจุบัน เพราะมีไม่มากนักที่จะทำขายกัน จึงไม่แปลกที่หลายคนไม่เคยพบเจอ หรือไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นขนมหวานแสนอร่อยที่อาจถูกลืมเลือนได้ในอนาคต หากเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนมที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทยของเรา

     ซึ่งขนมโบราณที่เป็นขนมไทยนั้นก็มีอยู่มากมายหลายชนิด ทั้งขนมคาว และขนมหวาน ยกตัวอย่างเช่น ขนมบุหลันดั้นเมฆ , ขนมอินทนิล , ขนมช่อมะลิซ้อนไส้กุ้ง , ขนมหยกมณี , ขนมดอกจอก เป็นต้น ซึ่งขนมเหล่านี้ล้วนเป็นขนมไทยที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งบางชนิดนั้นสามารถหาทานได้ยาก ไม่ทำขายกันมากมายเหมือนอย่างขนมไทยชนิดอื่น ๆ เพราะนิยมทำกันแค่บางภาคในไทยเท่านั้น เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ทำนั้นก็มีจำกัดแค่บางภาคเท่านั้น

     ในตอนนี้เราก็ได้หยิบยกขนมโบราณของภาคใต้มาให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก และทำทานกัน โดยที่ไม่ต้องไปหาซื้อไกลถึงถิ่นภาคใต้ ขนมหวานนุ่ม คลุกมะพร้าว สอดไส้หวานละมุนจากน้ำตาล ที่เราได้นำมาแนะนำในตอนนี้ มีชื่อว่า “ขนมโค” เราไปทำความรู้จักขนมชนิดนี้กันให้มากขึ้นอีกสักนิด ก่อนจะลองทำกันดีกว่าค่ะ

| ขนมโค ขนมโบราณ หน้าตาคล้ายโมจิ
ขนมโค

     ขนมโค เป็นขนมโบราณของภาคใต้ ซึ่งเป็นภาคที่มีมะพร้าว ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของขนมชนิดนี้อยู่มากมาย จึงนิยมทำกันเฉพาะในภาคใต้ จึงหาทานได้ยากในภาคอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นขนมมงคล ที่คนภาคใต้ใช้ในการบูชา ไหว้ครู ไหว้ตายายโนรา หรือบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ เช่น เจ้าที่ พระพิฆเนศ หลวงพ่อทวด เป็นต้น รูปร่างลักษณะคล้ายเบเกอรี่อย่างขนมโมจิ มีสีสันสวยงามน่ารับประทาน เนื้อสัมผัสเหนียมนุ่ม คลุกด้วยมะพร้าวขูด สอดไส้น้ำตาลก้อน รสชาติครบรส หวาน มัน เค็ม 

     หลังจากรู้จักกับขนมโคกันมาพอสมควรแล้ว เราจะพาทุกคนไปดูวัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำที่แสนจะง่ายดาย ทุกคนสามารถทำได้ ไม่เว้นแม้แต่มือใหม่ เป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่ไม่ต้องใช้ความประณีตมากนัก แถมยังอร่อยเหนียวนุ่มสู้ฟันสุด ๆ 

วัตถุดิบ
  1. แป้งข้าวเหนียว    100 กรัม
  2. น้ำเปล่า    100 มิลลิลิตร
  3. น้ำตาลแว่น หั่นเต๋าเป็นชิ้นเล็ก
  4. มะพร้าวขูดนึ่ง คลุกเกลือเล็กน้อย
  5. สีผสมอาหารตามชอบ
  6. ใบเตยมัด    2 ใบ
  7. น้ำเปล่า สำหรับต้ม
วัตถุดิบ ขนมโค
วิธีการทำ

     หลายคนอาจจะคิดว่าขนมโบราณอย่างขนมโคนั้น เหตุที่หาทานได้ยากอาจจะเป็นเพราะ สามารถทำได้ยาก แต่เราขอบอก และย้ำอีกครั้งนะคะ ว่าทำได้ง่ายมาก ๆ ไม่มีขั้นตอนที่สลับซับซ้อนเหมือนขนมไทยชนิดอื่น ๆ เหตุที่เราหาทานได้ยากอาจจะเป็นเพราะ ขนมชนิดนี้นิยมกันแค่ในภาคใต้ ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักของคนในภาคอื่น ๆ จึงไม่นิยมทำขายกันตามร้านขายขนมไทยต่าง ๆ ดังนั้น หากใครอยากทานต้องลงมือ ลงแรงทำเองกันแล้วนะคะ รับรองความอร่อยไม่แพ้ขนมไทยชนิดอื่น ๆ แน่นอนค่ะ

  1. ขั้นตอนแรกเทแป้งข้าวเหนียว และน้ำเปล่าผสมกัน จากนั้นนวดให้เข้ากันจนจับตัวเป็นก้อน 
  2. แบ่งแป้งที่นวดเสร็จแล้วตามจำนวนสีผสมอาหารที่ใช้ แล้วใส่สีผสมอาหารลงไปนวดผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ให้แป้งเซตตัวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยปิดด้วยผ้าขาวบาง หรือแรปห่ออาหารตามสะดวก
  3. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม และแผ่ออกเป็นแผ่น เพื่อใส่น้ำตาลแว่นที่เตรียมไว้ และปั้นห่อเป็นก้อนกลมอีกครั้ง ทำซ้ำจนกว่าแป้งจะหมด
  4. ตั้งหม้อให้ร้อน โดยใส่น้ำเปล่า และใบเตยลงไป เมื่อน้ำเดือดได้ที่แล้วนำเม็ดขนมโคที่ปั้นไว้ใส่ลงไป เมื่อสุกแล้วจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ จากนั้นใช้กระชอนตักขึ้นมา คลุกกับมะพร้าวขูดให้ทั่ว เสร็จแล้วจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

ภาพจาก : news.thaipbs.or.th , greenery.org , greenery.org