สูตรขนมไทยโบราณ หาซื้อทานยาก
ขนมบุหลันดั้นเมฆ

     ขนมไทย เป็นขนมที่มีความแตกต่างจากชนชาติอื่นเป็นอย่างมาก ซึ่งขนมเราจะเน้นไปทางความประณีตงดงามในการทำ และวัตถุดิบในการทำนั้นก็หาได้ไม่ยาก ชาวไทยโบราณจะนำสิ่งรอบตัวมาปรุงแต่งเป็นอาหาร ซึ่งวันนี้เราจะมาบอก สูตรขนมไทยโบราณ บางชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเลย เพราะปัจจุบันหาทานยากมาก และแทบจะไม่มีใครทำขายแล้ว โดยวันนี้เราจะมากล่าวถึงขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “ขนมบุหลันดั้นเมฆ” 

     ขนมไทยโบราณชื่อนี้ มีประวัติยาวนาน ซึ่ง ขนมบุหลันดั้นเมฆ ในสมัยอดีต ที่ได้คิดริเริ่มขนมนี้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 แห่งรัตนโกสินทร์ เป็นขนมชาววังที่เลื่องชื่อ ใคร ๆ ก็อยากจะได้ลิ่มลองรสชาติสักครั้งหนึ่ง ขนมบุหลันดั้นเมฆนี้ยังมีอีกชื่อว่า “บุหลันดั้นหมอก” รูปร่างหน้าตาจะสวยงาม เย้ายวนให้ทาน สีสันสดใส เป็นการทำขนมที่ปั้นประดิดประดอย เลียนแบบตามธรรมชาติ ซึ่งคนสมัยอดีต เวลาจะคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เขาจะมีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่เห็นรอบ ๆ ตัว ขนมบุหลันดันเมฆนี้ได้สร้างเสมือนความงดงามของดวงจันทร์ที่เด่นฉายอยู่บนท้องฟ้า โดดเด่นท่ามกลางท้องผ้าที่มืดมิด ซึ่งชื่อที่ไพเราะของขนมชนิดนี้ก็มีความหมาย คำว่า “บุหลัน” หมายถึงดวงจันทร์นั่นเองรูปร่างหน้าตาของขนมนี้จึงสร้างเสมือนท้องฟ้ายามราตรี ที่มีดวงจันทร์เฉิดฉายอยู่ ตัวของขนมจะทำจากสีของดอกอัญชัน ให้สีฟ้าครามแทนท้องฟ้าในยามกลางคืน และไข่แดงที่นำมาวางไว้ตรงกลาง ก็เป็นสัญลักษณ์ของดวงจันทร์นั่นเอง

     เมื่อเราได้รู้ประวัติที่มาของ “ขนมบุหลันดั้นเมฆแล้ว” เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากจะลิ้มลองรสชาติ แต่ก็น่าเสียดายที่ปัจจุบันนี้ ขนมไทยโบราณไม่ค่อยมีคนทำขายมากนัก มักหันไปนิยมขนมจำพวกเบเกอรี่กันมากกว่า แต่ไม่เป็นเรา เราจะมาบอก สูตรขนมไทยโบราณ วัตถุดิบ วิธีกระบวนการขั้นตอนในการทำ ขนมบุหลันดั้นเมฆ เพื่อให้สาวกขนมไทย ได้ลองไปทำทานเองที่บ้าน ต้องบอกก่อนเลยว่าสูตรนี้เด็ด ทำแล้วอร่อยจริง พลาดไม่ได้เลย

ขนมบุหลันดันเมฆ

เรามาดูกันเลยว่า เขามีเคล็ดลับ และกรรมวิธีในการทำยังไง จะยุ่งยาก หรือง่าย มาติดตามกันได้เลย

สูตรขนมไทยโบราณ บุหลันดันเมฆ

ส่วนผสม วัตถุดิบในการทำ
  1. กะทิ                            120 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า                     10 กรัม (สำหรับผสมกับกะทิ)
  3. เกลือปริมาณเล็กน้อย
  4. ไข่แดง                           10 ฟอง
  5. น้ำตาลไอซิ่ง                     60 กรัม
  6. กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
  7. แป้งข้าวเจ้า                    100 กรัม (สำหรับผสมกับน้ำดอกอัญชัน)
  8.  แป้งเท้ายายม่อม               40 กรัม
  9. น้ำเปล่า                        200 กรัม
  10. น้ำเชื่อม                        350 กรัม (พักไว้จนเย็น)
  11. ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่งขนม)
วิธีการทำ

ขั้นตอนที่ 1 นำดอกอัญชันปริมาณ 100 กรัม มาแช่ในน้ำร้อนแล้วคั้นเอาสีของดอกอัญชันออกมา จนได้สีม่วงคราม พักทิ้งไว้

ขั้นตอนที่ 2 นำแป้งข้าวเจ้า 100 กรัม มาผสมกับน้ำกะทิ แล้วเคี่ยวในกระทะให้ข้นปานกลาง เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วใส่เกลือลงไปในปริมาณเล็กน้อย คนให้เป็นเนื้อเดียวกันปิดไฟ พักไว้ให้เย็น

ขั้นตอนที่ 3 นำไข่ไก่มาแยกเอาเฉพาะไข่แดง ไปตีผสมกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน แล้วก็แต่งกลิ่นด้วยวานิลลา ผสมให้เข้ากัน ต่อจากนั้นทำให้เนื้อของไข่เนียนขึ้น ก็จะต้องนำไปกรองเตรียมไว้

ขั้นตอนที่ 4 นำแป้งข้าวเจ้า และแป้งเท้ายายม่อมมาผสมให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าไปที่ละน้อย อย่าเททีเดียว นวดแป้งประมาณ 5 นาที จนแป้งมีลักษณะเงา เทน้ำเปล่าที่เหลือลงไปให้หมด ใส่น้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ลงไป เทน้ำดอกอัญชันลงไปผสมให้เข้ากัน นำไปกรองพักไว้

ขั้นตอนที่ 5 นำถ้วยตะไลไปนึ่งจนร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไป ปิดฝานึ่งประมาณ 2-3 นาที ให้ดูว่าถ้าหากขอบขนมมีสีเข้ม ส่วนตรงกลางมีสีอ่อน ให้รีบนำออกจากความร้อน คว่ำถ้วยขนมลงชาม แป้งขนมที่ไม่สุกในส่วนของตรงกลางจะไหลออกมา เกิดหลุมขึ้น

วิธีทำบุหลันดันเมฆ

ขั้นตอนที่ 6 หยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุมตรงกลาง นำไปนึ่งต่อประมาณ 1 นาที จากนั้นก็หยอดส่วนผสมไข่แดงลงไป นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที 

ขั้นตอนที่ 7 จัดตกแต่งใส่จานให้สวย พร้อมเสิร์ฟความอร่อย

สูตรขนมไทยโบราณ

     สูตรขนมไทยโบราณ ขนมชนิดนี้ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมทุกคน หน้าตาน่ารับประทานมาก หวานมันอร่อย หอมกลิ่นกะทิ และสีสวยของดออัญชัน อย่าลืมลิงไปทำทานเองที่บ้านนะ ขนมไทยของเราไม่แพ้ชาติใดในโลก