อาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมาย
อาหารเช้าคลีน ๆ พร้อมประโยชน์มากมาย

               อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าอาหารมื้อเช้านั้นเป็นมื้อที่สำคัญมากที่สุด เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ และร่างกายของเราก็ต้องการพลังงานเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวัน ดังนั้นเราทุกคนควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเช้า และควรใส่ใจในรายละเอียดของอาหารด้วย วันนี้เรามีเมนูอาหารเช้าคลีน ๆ แต่ได้ประโยชน์มากมาย ถือว่าเป็นเมนูที่เอาใจคนดูแลสุขภาพและคนลดน้ำหนักเลย ส่วนจะมีเมนูใดบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ

| 1.แกงจืดเต้าหู้หมูสับ (1 ถ้วย = 80 แคลอรี่)
แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • หมูสับ
  • เต้าหู้ไข่
  • คนอร์ก้อน
  • แคร์รอต
  • ผักกาดขาว
  • คื่นฉ่าย
  • กระเทียม
  • พริกไทยขาว
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำปลา
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกผสมหมูสับ พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว และน้ำปลา คลุกเคล้าพอเข้ากัน

– ต้มน้ำเปล่าแล้วใส่กระเทียม คนอร์ก้อน พอน้ำเดือดแล้วก็ปั้นหมูสับที่หมักไว้เป็นก้อนกลมลงต้มพอสุก จากนั้นก็ใส่เกลือป่น และคอยช้อนฟองออก

– ปรุงรสด้วยน้ำปลาแล้วคนให้เข้ากัน ใส่ผักกาดขาว ใส่เต้าหู้ไข่ โรยด้วนคื่นฉ่าย

– เสร็จแล้วก็ตักใส่ชามและโรยด้วยพริกไทย ถือเป็นอันเสร็จ

| 2.ต้มเลือดหมู (1 ถ้วย = 120 แคลอรี่)
ต้มเลือดหมู
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เลือดหมูหั่นก้อนพอดีคำต้มสุก
  • หมูสับหมักกับน้ำตาลทราย ซอสปรุงรส และพริกไทย
  • เนื้อหมูหั่นบาง ๆ ลวกสุก
  • ตับหมูหั่นบาง ๆ ลวกสุก
  • เต้าหู้หลอดหั่น
  • ตำลึงเด็ดเอกแต่ยอด
  • ตั้งฉ่าย
  • ซุปก้อน
  • คึ่นฉ่ายกับต้นหอมหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ
  • น้ำเปล่า
  • น้ำปลา
  • ซอสปรุงรส
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้ตั้งน้ำในหม้อบนไฟกลาง ๆ แล้วใส่ซุปก้อน ตั้งฉ่าย จากนั้นรอให้เดือดสักพัก เพื่อให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม

– ปั้นหมูสับหมักเป็นก้อนเล็กแล้วนำใส่ลงไปในน้ำที่กำลังเดือด และรอให้สุก

– ใส่หมูชิ้นลวก ตับลวก เต้าหู้หลอด แล้วปรุงรสน้ำซุปด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรส จากนั้นก็ชิมรสตามที่ต้องการ

– ใส่เลือดหมู พอเดือดดีแล้วก็ใส่คึ่นฉ่ายกับต้นหอม และเมื่อเดือดอีกทีก็ปิดไฟได้เลย โดยก่อนจะเสิร์ฟนั้นให้ใส่ตำลึงก้นถ้วยแล้วตักต้มเลือดหมูราดทับ แค่นี้ก็รับประทานได้แล้ว

| 3.โจ๊กหมู (1 ถ้วย = 160 แคลอรี่)
โจ๊กหมู
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • ข้าวหอมมะลิบดพอละเอียด
  • ข้าวเหนียวบดพอละเอียด
  • เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนิ่ม
  • ขิงหั่นแว่น
  • ขิงซอย
  • ผักชี
  • รากผักชี
  • ต้นหอมซอย
  • คนอร์ซอสข้นปรุงรส (รสหมู)
  • ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม
  • น้ำเปล่า
ส่วนผสมหมักหมูเด้ง
  • หมูสับ
  • ไข่ขาวครึ่งฟอง
  • แป้งมัน
  • รากผักชีสับละเอียด
  • คนอร์ ซอสข้น
  • เบคกิ้งโซดา
  • น้ำมันงา
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำมันหอย
  • เกลือ
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกให้หมักหมูเด้งก่อน นำส่วนผสมทุกอย่างมาคลุกเคล้ากับหมูสับ จากนั้นนำหมูที่คลุกไว้ลงไปนวดในครกจนได้เนื้อหมูเด้ง ๆ หมักเก็บไว้ในตู้เย็น

– เตรียมส่วนผสมและเครื่องปรุงในการทำโจ๊ก โดยตั้งหม้อแล้วต้มน้ำให้เดือด จากนั้นก็ใส่ข้าวหอมมะลิบดและข้าวเหนียวบดลงไปตุ๋น หมั่นคน ๆ บ่อย ๆ เพราะข้าวจะไหม้ติดก้นหม้อ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ตุ๋นจนข้าวสุกเนื้อเนียนแล้วปิดเตา

– ทำน้ำซุปต่อ โดยตั้งหม้อต้มน้ำ ใส่รากผักชีและเห็ดหอมลงไป รอจนเดือดแล้วใส่ขิงหั่นแว่น จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเห็ดหอม และคนอร์ซอสข้น รอให้เดือดอีกรอบ

– ปั้นหมูเด้งเป็นก้อน ๆ พอดีคำ แล้วใส่ลงไปต้มจนสุก

– ตักหมูเด้งออกให้เหลือแต่น้ำซุป จากนั้นตักข้าวที่ตุ๋นไว้ใส่กับน้ำซุป คนให้เข้ากัน แล้วตักใส่ชาม ตอกไข่ลวก โรยต้นหอมผักชี ขิงซอย และหมูเด้ง แค่นี้ก็รับประทานได้แล้ว

| 4.เกี๊ยวปลาน้ำใส (1 ถ้วย = 165 แคลอรี่)
เกี๊ยวปลาน้ำใส
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เนื้อปลากรายบดละเอียด
  • เนื้อกุ้งบดละเอียด
  • เนื้อหมูบดละเอียด
  • แป้งมันสำปะหลัง
  • ต้นหอมซอย
  • สามเกลอ
  • คนอร์ ซุปก้อนรสหมู
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำเกลือเย็นจัด (เกลือป่น 1/2 ช้อนชา)
  • น้ำเปล่า
  • กระเทียมเจียว (สำหรับโรยหน้า)
  • ผักชี (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ

– นำกุ้งบดละเอียดไปใส่ลงในชามผสม ตามด้วยเนื้อหมูบดละเอียด ซอสปรุงรส สามเกลอ และต้นหอมซอย จากนั้นก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนจะนำไปห่อเกี๊ยว

– นำเนื้อปลากรายบดละเอียดใส่ลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และน้ำเกลือเย็นจัด ค่อย ๆ ใส่น้ำเกลือลงไปนวดให้เข้ากัน หากเนื้อปลาติดมือก็ให้ทยอยใส่แป้งลงไป จากนั้นก็นวดจนเนื้อแป้งเป็นก้อนเนียนและไม่เหนียวติดมือ

– โรยแป้งนวลลงบนเขียงไม้เพื่อให้นวดแป้งเกี๊ยวแล้วไม่ติดเขียง วางเกี๊ยวปลาลงบนเขียงโดยใช้ไม้คลึงนวดให้เป็นแผ่นบาง ๆ และตัดให้ได้สี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 3×3 นิ้ว เพื่อนำไปห่อไส้

– นำเกี๊ยวปลาไปห่อด้วยไส้ที่เตรียมไว้ และพักไว้เตรียมนำไปลวก

– ตั้งหม้อน้ำบนเตาแก๊ส รอให้น้ำเดือดแล้วใส่เกี๊ยวปลาลงไปต้มให้สุก เมื่อเกี๊ยวปลาลอยขึ้นมาแล้วให้นำขึ้นจากน้ำ

– ตั้งหม้อบนเตาแก๊สแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป รอให้น้ำเดือด และใส่คนอร์ ซุปก้อนรสหมู ลงไปในน้ำเดือด คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่เกี๊ยวปลาที่ลวกไว้ลงไป

– รอให้เดือดอีกรอบแล้วน้ำซุปซึมเข้าเกี๊ยวปลา จากนั้นก็ปิดไฟและตักเสิร์ฟโดยตักเกี๊ยวปลาใส่ลงในชามจัดเสิร์ฟ แล้วโรยกระเทียมเจียวและผักชี หรือถ้าใครกลัวอ้วนก็ไม่ต้องโรยกระเทียมเจียวก็ได้

| 5.ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส (1 ถ้วย = 220 แคลอรี่)
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส
วัตถุดิบและส่วนผสม
  • เส้นก๋วยเตี๋ยว
  • ลูกชิ้น
  • กระดูกหมู
  • ถั่วงอก
  • น้ำสะอาด
  • กระเทียม
  • ต้นหอมผักชี
  • รากผักชี
  • กระเทียมเจียว
  • คนอร์
  • พริกไทย
  • น้ำตาล
  • ซีอิ๋วขาว
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว
  • เกลือ
วิธีทำ

– ขั้นตอนแรกเตรียมทำน้ำซุป โดยมีรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด นำทุกอย่างมาโขลก

– เริ่มทำน้ำซุปโดยต้มน้ำสะอาดในหม้อ และรอจนน้ำเดือด จากนั้นก็ใส่กระดูกหมู กระเทียม และรากผักชีลงไป

– ต้มจนกระดูกหมูเริ่มสุก ปรุงรสด้วยคนอร์ก้อน และใส่เกลือ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสปรุงรสฝาเขียว และซีอิ๋วขาว

– ต้มต่อประมาณ 15 นาทีจะเริ่มมีฟองจากไขมันขึ้นมา ให้ตักฟองออก

– เมื่อได้น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวแล้วก็มาเตรียมวัตถุดิบสำหรับเครื่องก๋วยเตี๋ยว โดยต้มน้ำสะอาดรอจนเดือดแล้วลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว และถั่วงอกจนสุก จากนั้นก็นำไปใส่ชาม

– ต้มไก่สับหรือหมูสับ ในหม้อน้ำซุปจนสุกแล้วใส่ชาม

– ต้มลูกชิ้นในหม้อน้ำซุปแล้วใส่ชาม

– ขั้นตอนสุดท้ายให้ตักน้ำซุปใส่ชาม และใส่กระเทียมเจียว ตามด้วยต้นหอมซอย ถือเป็นอันเสร็จ

               จบไปแล้วกับการนำเสนออาหารเช้าคลีน ๆ ที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมายเลยทีเดียว ซึ่งทั้ง 5 เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่หาทานได้ไม่ยากเลยค่ะ ส่วนใครที่กังวลเกี่ยวกับส่วนผสมของทางร้านกลัวว่าจะใส่อะไรมาให้แล้วทำให้อ้วนนั้นไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะถ้าเราไปทานที่ร้านเราก็ยังสามารถสั่งได้ว่าต้องการแบบไหน ทางร้านเขาก็จะทำตามที่เราต้องการ หรือถ้าใครมีเวลามากพอและสะดวกที่จะทำรับประทานเองที่บ้านอันนี้ก็จัดไปเลยค่ะ เพราะทั้ง 5 เมนูอาหารเช้าคลีน ๆ ที่เราแนะนำไปนั้นทำได้ไม่ยากเลย ขอแค่มีวัตถุดิบและส่วนผสมครบก็ทำได้แล้ว