
อาหารเกาหลีนั้นถือว่าเป็นอาหารที่มีอิทธิพลกับคนไทยในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าในประเทศของเรานั้นมีร้านเนื้อย่างเกาหลี หรือร้านหมูกระทะเยอะแยะเต็มไปหมด แต่วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงเนื้อย่างเพียงอย่างเดียว แต่เราจะมานำเสนอเมนูอาหารนานาชาติจากเกาหลี ซึ่งถ้าใครชอบอะไรที่เกี่ยวกับประเทศเกาหลีก็น่าจะรู้จักกับเมนูต่อไปนี้บ้างแล้ว แต่สำหรับบางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ดังนั้นเรามาดูเมนูอาหารเกาหลียอดนิยมกันเลยดีกว่า
กิมจิ (gimchi) มีข้อสันนิษฐานกันว่าคำนี้น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า “ชิมเช” ที่แปลว่าผักดองเค็ม กิมจินั้นเป็นอาหารเกาหลีประเภทผักดองที่อาศัยภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลี ด้วยการหมักพริกสีแดงและผักต่าง ๆ โดยทั่วไปจะเป็นผักกาดขาว ซึ่งชาวเกาหลีจะนิยมรับประทานกิมจิเกือบทุกมื้อ อีกทั้งยังนำไปปรุงเป็นส่วนประกอบของอาหารหลายอย่างด้วย
– ขั้นตอนแรกนำผักกาดขาว ต้นหอมมาหั่นให้เรียบร้อย แล้วนำไปแช่น้ำทำความสะอาดในน้ำเปล่า 10 ลิตร และเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนโต๊ะ แช่ไว้ 15 นาที เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าและนำขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
– นำผักกาดขาวหมักกับเกลือป่น โดยใส่ให้ทั่วผักแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง โดยต้องคอยมาคลุกเคล้าผักทุก ๆ 30 นาที
– นำต้นหอมที่ล้างไว้มาหั่นเป็นท่อน ๆ ให้เรียบร้อย จากนั้นนำแคร์รอตและหัวไชเท้ามาล้างและปลอกเปลือกให้สะอาด และหั่นซอยเป็นเส้น
– ทำแป้งกวนสำหรับหมักกิมจิ โดยเทน้ำเปล่าและแป้งข้าวเหนียวลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกวนจนแป้งสุกดี โดยให้ใช้ไฟอ่อน เมื่อสุกแล้วพักไว้ให้เย็นตัว
– นำผักกาดที่แช่ไว้ครบ 2 ชั่วโมงมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด
– ทำการหมักกิมจิ โดยนำหอมหัวใหญ่มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก แล้วนำสาลี่และกระเทียมจีนมาปลอกเปลือก นำขิงมาหั่นแว่น ตามด้วยน้ำปลา และนำไปปั่นให้ละเอียดเข้ากัน แล้วเทใส่ถาด จากนั้นใส่น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี พริกเกาหลีแบบหยาบและแบบละเอียด และแป้งกวนที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
– นำต้นหอม หัวไช้เท้า และแคร์รอตลงไปในเครื่องที่เตรียมไว้ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ ใส่ผักกาดขาวลงไป และคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
– นำกิมจิใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิด และกดให้แน่น ปิดฝา จากนั้นตั้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 5 ชั่วโมง และนำไปแช่ตู้เย็นต่ออีก 1 คืน เป็นอันเสร็จ แต่ถ้าหากชอบรสเปรี้ยวมากให้ตั้งไว้ข้างนอก 1 คืน
จาจังมยอน หรือบะหมี่เกาหลีราดซอสสีดำ เขาคือจาจังมยอน ที่เกิดเป็นสีดำขึ้นมาเพราะซอสถั่วดำหมัก (Chunjang – 춘장) ซึ่งน้ำซอสถั่วดำหมักนั้นจะมีรสชาติเค็ม หวานนิด ๆ และขมหน่อย ๆ มีความธรรมชาติ earthy ซอสสีดำเข้มนั้นเกิดจากการหมักถั่วดำ แป้งสาลี และคาราเมล มันจึงมีกลิ่นพิเศษเป็นเอกลักษณ์ต่างจากโคชูจัง
– ขั้นตอนแรกนำเนื้อหมูหั่นเต๋ามาหมักกับ ซอสหมัก ทิ้งไว้ 30 นาที
– หั่นแตงกวา มันฝรั่ง และผักกะหล่ำ ให้เป็นเต๋าชิ้นเล็ก ๆ
– นำน้ำมันพืชมาผัดกับซอส Chunjang (ซอสถั่วดำหมัก) และเมื่อน้ำมันจากซอสออกและเริ่มแห้งแล้วให้ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป
– ตักซอส Chunjang ออก ให้เหลือแต่น้ำมัน และซอสติดกระทะ
– นำเนื้อหมูหั่นเต๋ามาผัด และเมื่อหมูสุกแล้วให้ใส่ผักที่หั่นแล้วลงไปผัดต่อไปอีก 3 นาที
– นำซอส Chunjang ที่เหลือมาผัดให้เข้าเนื้อ แล้วเติมน้ำลงไป จากนั้นก็ตุ๋นประมาณ 10 นาที
– ระหว่างที่รอตุ๋นอยู่นั้นให้ต้มบะหมี่ หรือ เส้นสปาเกตตี้ให้นิ่มก่อน
– เมื่อครบ 10 นาทีแล้ว ใส่แป้งละลายน้ำลงไปในหม้อซอสแล้วราดลงบนเส้นบะหมี่ แค่นี้ก็เสร็จพร้อมรับประทานแล้ว
บุลโกกิ (Bulgogi) เป็นอาหารโบราณของประเทศเกาหลี ซึ่งเกิดตั้งแต่กว่า 1,000 ปีทีแล้ว โดยคำว่า Bul แปลว่า ไฟ และคำว่า Gogi แปลว่า เนื้อสัตว์ เมื่อรวมความหมายแล้ว Bulgogi ก็คือเนื้อย่างเกาหลีนั่นเอง โดยปกติจะทานเป็นเนื้อวัวหมักด้วยซอสเกาหลีและผลไม้ที่ทำให้เนื้อนุ่ม จิ้มกับซอสนิดหนึ่งแล้วทานกับผัก แต่ถ้าหากไม่มีเนื้อวัวก็จะใช้เป็นเนื้อหมูหรือเนื้อไก่แทน
– หั่นเนื้อสันแหลมเป็นชิ้นตามแนวขวาง แล้วพักไว้
– ใส่หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า กระเทียม สาลี่หิมะหั่นเต๋า ต้นหอมหั่นท่อน น้ำตาลทรายแดง พริกไทยป่น ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันงา ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดเป็นซอส
– นำซอสที่ได้ไปเทลงในเนื้อสันแหลมที่หั่นไว้ ใส่หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยว คลุกให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 20 นาที
– ตั้งกระทะบนเตา ใช้ไฟกลางค่อนแรง ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อน แล้วใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไป ผัดจนหอมหัวใหญ่สุกใส และตัวซอสหมักเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
– โรยต้นหอมซอย งาขาวคั่ว ผัดให้เข้ากันเล็กน้อย ก็ยกออกจากเตาได้เลยค่ะ เสิร์ฟพร้อมผักตามชอบ
บูเดจิเก หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า แกงทหารบ้าง หรือหม้อไฟเกาหลีบ้าง ซึ่งเป็นแกงที่ใส่วัตถุดิบทั้งหมด เช่น แฮม ไส้กรอก กิมจิ ต็อก บะหมี่เกาหลีลงไปต้มในหม้อรวดเดียว ซึ่งถือเป็นอาหารฟิวชั่นของประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ และก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าอาหารชนิดนี้เป็นแกงที่จะใส่วัตถุดิบอย่างพวกแฮม โดยเป็นของที่นำเข้ามาในเกาหลีจากทหารอเมริกาในสภาวะที่ประเทศเกาหลีกำลังขาดแคลนอาหารหลังจากสงคราม 6.25 นั่นเอง
– ขั้นตอนแรกเตรียมเครื่องต่าง ๆ เรียงใส่ในหม้อให้สวยงาม ได้แก่ สแปม เต้าหู้ขาวแข็ง ไส้กรอก กิมจิ ต้นหอมญี่ปุ่น หอมหัวใหญ่ เห็ดเข็มทอง ถั่วกระป๋อง หมูบดปรุงรส ซอสที่เตรียมไว้ โดยใส่วางลงไปบางส่วน
หมูบดปรุงรส ซอสปรุงรส เหล้าไวน์ทำอาหาร กระเทียมสับ และพริกไทยป่น จากนั้นคนเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน และพักไว้ประมาณ 15-30 นาที
– นำซอสโคชูจัง พริกป่นเกาหลี ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย และกระเทียมสับละเอียดใส่ลงในชามผสม แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
– ตั้งหม้อบนเตา เปิดไฟ แล้วใส่น้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไป พอน้ำเดือดได้ที่แล้ว ค่อย ๆ คนซอสที่ใส่ลงไป จากนั้นวางบะหมี่เกาหลีลงไป ตามด้วยชีส และนำซอสที่ผสมแล้วเก็บไว้บางส่วนวางลงไปบนบะหมี่เกาหลี ตามด้วยต้นหอมญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มสีสัน
– ค่อย ๆ ตักน้ำซอสราดลงบนบะหมี่เกาหลี
จากนั้นก็คนเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน และปรุงรสชาติเพิ่มเติมได้ตามความชอบ ถือเป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน
พีบิมบับ (Bibimbap) หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า “ข้าวยำเกาหลี” นั้นเป็นอาหารเกาหลีประเภทข้าวชนิดหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วยคำว่า “พีบิม” (비빔) แปลว่า “ยำ” หรือ “คลุกเคล้า” และ “พับ” (밥) แปลว่า “ข้าว” ซึ่งอาหารชนิดนี้จะเสิร์ฟมาเป็นชามข้าวสวยร้อน ๆ โรยหน้าด้วยนามุล (ผักที่ผัดและปรุงรสแล้ว), โคชูจัง (น้ำพริก) และ/หรือทเว็นจัง (เต้าเจี้ยว) นอกจากนี้ยังนิยมใส่ไข่ดิบ ไข่ดาว หรือไข่ลวก และเนื้อสัตว์ที่หั่นบาง ๆ เช่นกัน จากนั้นก็คลุกส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากันดีก่อนที่จะรับประทาน
– ขั้นตอนแรกให้ใส่หมูสไลด์ลงในชามผสม ตามด้วยพริกไทย ซอสปรุงรส และน้ำมันงา (สำหรับหมัก) จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน และหมักไว้ 30 นาที
– นำน้ำตาลผสมกับน้ำส้มสายชู แล้วคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จากนั้นราดลงบนผักทั้งหมด ได้แก่ ผักโขม เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง ถั่วงอก แคร์รอต และแตงกวา
– นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง และนำหมูสไลด์ที่หมักไว้ไปผัดจนสุก
– นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง แล้วเทน้ำมันงาลงไปนิดหน่อย จากนั้นก็นำผักไปผัดทีละอย่าง
– นำชามหินสไตล์เกาหลีขึ้นตั้งไฟแรงให้ชามร้อนทั่ว และนำของที่ผัดเตรียมไว้มาเรียงใส่ชาม ซึ่งได้แก่ ข้าวญี่ปุ่น ผักโขม เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง ถั่วงอก แคร์รอต แตงกวา และหมูสไลด์ จัดวางกิมจิและโคชูจังลงไป ท้ายสุดและตอกไข่ไก่ใส่ลงตรงกลาง พร้อมเสิร์ฟ เวลากินก็คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนจะได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
นี่คือ 5 เมนูอาหารเกาหลียอดนิยมที่ใคร ๆ ก็ต้องลอง เพราะถือว่าเป็นเมนูอาหารเกาหลีที่ขึ้นชื่อมาก ๆ และเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ รู้อย่างนี้แล้วไม่ลองไม่ได้แล้ว ซึ่งแต่ละเมนูนั้นมีความแตกต่างกันออกไป และมีหน้าตาน่ารับประทานมาก ๆ ถ้าใครมีวัตถุดิบและส่วนผสมที่สามารถทำเมนูที่เรานำเสนอได้ก็ลองทำทานเองได้เลยค่ะ เพราะบางเมนูเราก็สามารถทำเองได้ง่าย ๆ และนี่ก็คือ 5 เมนูอาหารเกาหลียอดนิยมที่เรานำมาฝากในวันนี้